[iOS Tips] ย้าย SMS จาก Android ไป iPhone ทำอย่างไร ?

ปัจจุบัน ถ้าอยากจะเปลี่ยนจาก มือถือ Android มาใช้ iPhone การถ่ายโอนข้อมูลในมือถือรุ่นเก่า มายัง iPhone นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ มักจะผูกบัญชีกับ Facebook หรือให้ลงทะเบียน ทำให้สามารถ sync ข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีข้อมูลบางอย่าง อย่างเช่น ข้อความ SMS ถ้าหากต้องการย้ายจาก Android เครื่องเก่า ไปยัง iPhone ต้องทำอย่างไร ? วันนี้ ทีมงาน techmoblog จะมานำเสนอ วิธีการย้าย SMS จาก Android ไป iPhone ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน ได้แก่

1. ผ่านแอปพลิเคชัน Move to iOS

วิธีการย้ายข้อมูลจาก Android ไปยัง iOS ง่ายที่สุด ก็คือ ผ่านแอปพลิเคชัน Move to iOS นั่นเอง แต่มีข้อจำกัดก็คือ จะต้องเป็น iPhone เครื่องใหม่ หรือเครื่องเก่าที่ reset และล้างข้อมูลเก่าออกหมดแล้วเท่านั้น โดยขั้นตอนการใช้งานแอปฯ Move to iOS มีดังนี้

1) เปิด iPhone พร้อมเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi จากนั้น จะมีตัวเลือกสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลขึ้นมา ให้เลือก Move Data from Android
2) สำหรับมือถือ Android เครื่องเดิม ให้ดาวน์โหลดแอปฯ Move to iOS แล้วทำการติดตั้ง
3) สำหรับ iPhone เมื่อเลือก Move Data from Android แล้ว ให้ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏ เมื่อเสร็จแล้วจะได้รหัส 6 หลัก หรือ 10 หลักปรากฏบนหน้าจอ
4) บนมือถือ Android ให้นำรหัสที่ได้จาก iPhone มากรอก จากนั้นรอหน้าต่างย้ายข้อมูลปรากฏขึ้นมา ให้เลือกข้อมูลที่ต้องการย้าย ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข้อความ SMS, Google Account, Contact หรือ Bookmarks จากนั้นให้กด next เพื่อทำการย้ายข้อมูล

2. Export ออกมาเป็นไฟล์ CSV

ถ้าหากวิธีแรกใช้ไม่ได้ผล มาลองวิธีที่ 2 กันดู กับการ Export มาเป็นไฟล์นามสกุล CSV ผ่านทางแอปพลิเคชัน SMS Export หรือ SMS Backup & Restore แต่วิธีนี้ มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ ยังไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับช่วย import ไปยัง iPhone ได้ แต่สามารถใช้แอปฯ เปิดอ่านได้ อย่างเช่น CSV Lite หรือ XML Reader เป็นต้น

3. ใช้โปรแกรมบนคอมพิวเตอร์เข้าช่วย

ในกรณีที่อยากย้ายข้อความ SMS แต่ไม่อยาก reset ไอโฟน สามารถทำได้ด้วยการใช้โปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นแอปฯ ประเภท phone-to-phone และส่วนใหญ่จะเป็นแอปฯ เสียเงิน อย่างเช่น BakupTrans หรือ MobileTrans ที่สามารถย้ายข้อมูลจาก Android ไปยัง iPhone ได้ภายในคลิกเดียว

---------------------------------------
ที่มา : ubergizmo.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 31/01/2017

iOS tips