[รีวิว] Huawei G7 Plus สมาร์ทโฟนดีไซน์หรู ด้วยบอดี้แบบอะลูมิเนียม พร้อมหน้าจอใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว และ RAM 3 GB ปลอดภัยมากขึ้นด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง

กลับมาอีกครั้ง กับการรีวิว สมาร์ทโฟน โดยทีมงาน techmoblog.com ซึ่งในวันนี้ ได้มือถือจากแบรนด์ดังจากแดนมังกร นั่นก็คือ Huawei G7 Plus รุ่นสานต่อของ Huawei G7 นั่นเอง เรียกได้ว่า โดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องเลยทีเดียว โดย 90% ของวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่อง เป็นโลหะแบบอะลูมิเนียมที่ใช้กับธุรกิจด้านการบิน พร้อมหน้าจอ ขนาด 5.5 นิ้ว แบบ 2.5D ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass 3 ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากด้านดีไซน์แล้ว Huawei G7 Plus รุ่นนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติแรงระดับไฮเอนด์เลยก็ว่าได้ ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, รองรับเครือข่าย 4G LTE และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ EMUI 3.1 นอกจากนี้ ยังโดดเด่นในด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องด้านหน้าแบบเซลฟี่ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Perfect Beauty ปรับใบหน้านวลเนียนได้ถึง 10 ระดับ และโหมด Vogue Beauty เพิ่ม make up แบบจัดเต็มได้ถึง 9 แบบ ส่วนกล้องด้านหลัง มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลชแบบ Dual-LED และโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย

เห็นสเปคแบบคร่าวๆ กันไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า Huawei P7 Plus รุ่นนี้ จะใช้งานได้ดีเพียงใด กับบทความ รีวิว Huawei G7 Plus โดยทีมงาน techmoblog ครับ

• หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
• หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8939 616 chipset) ซึ่งประกอบด้วย Quad-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
• รองรับเครือข่าย 4G LTE
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง

>> สเปค Huawei G7 Plus อย่างละเอียด คลิกที่นี่
>> สเปค Huawei G7 Plus จากเว็บไซต์ Official

Huawei G7 Plus มาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งกระจกหน้าจอเป็นแบบ 2.5D Gorilla Glass 3 ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 167 กรัม

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์, ลำโพงสำหรับสนทนา และไฟ LED แจ้งเตือนสถานะต่างๆ เช่น ชาร์จแบตเตอรี่

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปุ่มเมนูแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่ม Home และปุ่ม Recent Apps

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่อง เป็นถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรุ่นนี้ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยช่องซิมการ์ดที่ 2 จะต้องเลือกระหว่าง ใส่ซิมการ์ด หรือใส่ microSD Card ไม่สามารถใช้งานได้พร้อมกัน

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง 6 ช่อง, พอร์ต microUSB และไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา

ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Sapphire มีความแข็งแรงและโปร่งใสกว่าเดิม, ไฟแฟลชแบบ Dual-LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่าเดิม โดยปลดล็อกหน้าจอได้ภายในเวลา 0.5 วินาที นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อรับสาย หรือควบคุมการแจ้งเตือนต่างๆ บนตัวเครื่องได้อีกด้วย

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง ประกอบด้วย Adapter, สาย microUSB, หูฟัง, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

Huawei G7 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) และอินเทอร์เฟสแบบ EMUI 3.1 ซึ่งในหน้า Lockscreen นั้น จะประกอบด้วยเมนูลัดทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูป

Huawei G7 Plus ไม่มี App Drawer ทำให้แอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดทั้งหมด มาอยู่ในหน้า Homescreen ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดเรียงแอปพลิเคชันให้เป็นหมวดหมู่ได้ตามใจ

นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกวอลเปเปอร์ และ Widget ได้อีกด้วย

การแตะปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง จะเข้าสู่ Multitasking ซึ่งสามารถสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่น หรือลบแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ด้วยการปัดขึ้น

Notification แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ ส่วนของการแจ้งเตือนต่างๆ และ Shortcuts สำหรับตั้งค่าการใช้งาน เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, เปิด-ปิดเสียง และอื่นๆ

เนื่องจาก Huawei G7 Plus มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว ทำให้บางท่านใช้งานได้ไม่ถนัดมือ จึงได้มีฟังก์ชัน One-Hand Layout สำหรับใช้งานมือเดียว ด้วยการย่อหน้าจอให้มีขนาดเล็กลง

ในส่วนของ Navigation Bar สามารถเลือกการจัดวางปุ่มกดแบบ On-Screen ได้หลายแบบด้วยกัน เช่น เอาปุ่มย้อนกลับไว้ด้านขวา หรือปุ่ม Recent Apps ไว้ด้านซ้าย แล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยท่าทาง เช่น คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง หรือแตะ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ เป็นต้น

บริการต่างๆ จาก Google ก็มีให้ใช้งานแบบครบครัน ทั้ง Chrome, Gmail, Google Maps, YouTube และอื่นๆ

สำหรับเบราว์เซอร์บน Huawei G7 Plus มีให้เลือกใช้งานทั้ง Android Browser และ Google Chrome ซึ่งการใช้งานโดยรวมก็ถือว่า ลื่นไหล ประกอบกับหน้าจอใหญ่ ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ส่วนแอปพลิเคชันพื้นฐาน ก็มีให้ใช้งานมากมายเช่นกัน ทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง, วิทยุ FM และไฟฉาย

นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จแบตเตอรี่เร็วอีกด้วย ซึ่งรุ่นนี้ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

Huawei G7 Plus มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz + 1.2 GHz และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB แน่นอนว่า สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด

มาทดสอบ Benchmark บน Huawei G7 Plus กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟิก อยู่ที่ 20,688 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 34,925 คะแนน

ส่วนมัลติทัช รองรับ 10 จุด

Huawei G7 Plus มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED และโหมดการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ทั้ง Panorama, HDR, All-focus, Best photo และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

สำหรับจุดขายของ Huawei G7 Plus รุ่นนี้ นั่นก็คือ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมโหมด Perfect Beauty ปรับใบหน้านวลเนียนได้ถึง 10 ระดับ และโหมด Vogue Beauty เพิ่ม make up แบบจัดเต็มได้ถึง 9 แบบ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า ปรับความเนียนระดับ 4

สำหรับโหมด Vogue Beauty นอกจากจะช่วยปรับใบหน้าให้เนียนใสแล้ว ยังได้เพิ่ม make up เข้ามาถึง 9 แบบด้วยกัน เรียกได้ว่า น่าจะถูกอกถูกใจสาวๆ กันอย่างแน่นอน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Make Up ด้วยฟิลเตอร์ Club (ซ้าย) และ Pink (ขวา)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Make Up ด้วยฟิลเตอร์ Nude (ซ้าย) และ Party (ขวา)

เท่านั้น ยังไม่พอ Huawei G7 Plus ยังเอาใจคนที่ชอบถ่ายภาพอาหาร ด้วยโหมด Good Food (มีเฉพาะกล้องด้านหลัง) กับการใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพอาหาร เพื่อให้ดูน่าทานยิ่งขึ้น

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

โหมดปกติ (ซ้าย) vs โหมด Good Food (ขวา)

หลังจากที่ทีมงาน techmoblog ได้ทดลองใช้งาน Huawei G7 Plus มาได้ระยะหนึ่ง ก็พบว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้าน อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า รุ่นนี้ โดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่อง ด้วยบอดี้แบบอะลูมิเนียม แบบเดียวกับที่ใช้กับธุรกิจด้านการบิน ที่นอกจากจะแข็งแรงทนทานแล้ว ยังหรูหรา และดูพรีเมียมอีกด้วย

นอกจากจุดเด่นในด้านดีไซน์แล้ว คุณสมบัติต่างๆ ยังคุ้มค่าไม่แพ้กัน โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ 2.5D ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล และกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass 3, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8939 616 chipset) ซึ่งประกอบด้วย Quad-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล​, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ EMUI 3.1 นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเครือข่าย 4G LTE และปลอดภัยมากขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง

สำหรับราคาของ Huawei G7 Plus อยู่ที่ 12,990 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

จุดเด่นของ Huawei G7 Plus

• บอดี้ตัวเครื่องกว่า 90% ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง เกรดเดียวกับที่ใช้บนธุรกิจการบิน
• หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
• หน้าจอโค้งมนแบบ 2.5D Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วนและการแตกจากการกระแทกที่ขอบมุม
• หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8939 616 chipset) ซึ่งประกอบด้วย Quad-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz และ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว
• ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) และอินเทอร์เฟสแบบ EMUI 3.1
• รองรับเครือข่าย 4G LTE
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถปลดล็อกหน้าจอได้ภายในเวลา 0.5 วินาที
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และ GLONASS ระบบดาวเทียมของรัสเซีย
• วิทยุ FM ในตัว

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ฝาหลังไม่สามารถแกะเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
• ช่องใส่ซิมการ์ดที่สอง จะต้องเลือกระหว่าง การใส่ซิมการ์ด หรือใส่ microSD Card ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้

ข้อควรทราบ: “เครื่อง Huawei G7 Plus ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง หัวเหว่ย เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 15/01/2016

Huawei G7 Plus รีวิว Huawei G7 Plus