เผยโฉมอย่างเป็นทางการในไทยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับ HUAWEI MateBook D Series แล็ปท็อปรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเปิดตัว 2 รุ่นด้วยกันนั่นก็คือ HUAWEI MateBook D 14 และ HUAWEI MateBook D 15 โดยรุ่นที่ทีมงาน techmoblog.com จะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็คือ HUAWEI MateBook D 14 รุ่นใหม่ปี 2022 นั่นเอง
สำหรับ HUAWEI MateBook D 14 รุ่นใหม่นี้ ชูจุดเด่นในเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า HUAWEI Super Device ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับการทำงานข้ามอุปกรณ์แบบไร้สายโดยมีแล็ปท็อปของ HUAWEI เป็นศูนย์กลาง รองรับทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, จอมอนิเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ
นอกจากนี้ HUAWEI MateBook D 14 ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล 11th Gen Intel Core i5-1135G7 Processor ที่เป็นชิปเซ็ตขนาด 10 นาโนเมตร และเทคโนโลยี SuperFin เร็วขึ้น แรงขึ้นเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อน พร้อมรองรับ Wi-Fi 6 และการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics บนดีไซน์สุดแกร่งด้วยวัสดุโลหะรูปทรง Pure Shape น้ำหนักเบาเพียง 1.38 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พกพาได้สะดวกขึ้น
กล่าวถึงสเปกเบื้องต้นกันไปแล้ว มาดูดีไซน์และการใช้งานจริงของ HUAWEI MateBook D 14 (2022) รวมถึงฟีเจอร์ HUAWEI Super Device จะมีรูปแบบการทำงานอย่างไร บทความนี้จะไปเจาะลึกให้ชมกัน กับรีวิว HUAWEI MateBook D 14 (2022) โดยทีมงาน techmoblog.com
สเปก HUAWEI MateBook D14 (2022)
แกะกล่อง HUAWEI MateBook D 14
กล่องผลิตภัณฑ์ของ HUAWEI MateBook D 14 จะเป็นกล่องสีน้ำตาล ภายในประกอบด้วย ตัวเครื่อง MateBook D 14, Adapter ชาร์จไฟขนาด 65W, สาย USB-C และใบรับประกัน
ดีไซน์ตัวเครื่อง, หน้าจอ และพอร์ตต่าง ๆ
HUAWEI MateBook D 14 มาพร้อมดีไซน์ในรูปทรง Pure Shape ซึ่งตัวเครื่องทำจากวัสดุโลหะ มีความทนทาน แต่บางเบา คล่องตัว และพกพาง่าย โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.38 กิโลกรัมเท่านั้น
นอกจากนี้ HUAWEI MateBook D 14 ยังผ่านการทดสอบคุณภาพหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การทดสอบอุณหภูมิสูงและความชื้นสูง, การทดสอบความทนทานของพอร์ต USB-C, การทดสอบความทนทานของปุ่มลายนิ้วมือ, การทดสอบอายุการใช้งานคีย์บอร์ด, การทดสอบบานพับ และการทดสอบทัชแพด
หน้าจอแบบ HUAWEI FullView Display ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล บนอัตราส่วนขนาด 16:9 ซึ่งหน้าจอได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ที่ช่วยลดแสงสีฟ้า และบรรเทาอาการเมื่อยล้าของดวงตาในขณะใช้งาน
นอกจากนี้ ขอบจอทั้ง 3 ด้านยังบางเฉียบถึง 4.8 มม. ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 84%
หน้าจอสามารถกางได้กว้างถึง 180 องศา
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังและไมโครโฟน ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ต USB-A 2.0
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต USB-C, พอร์ต USB-A 3.2 Gen 1 และพอร์ต HDMI
ส่วนขอบเว้าตรงกลางเครื่อง จะเป็นไมโครโฟนแบบดิจิทัล 2 ตัว ซึ่งรองรับระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างใช้งานด้วยเช่นกัน
คีย์บอร์ดแบบ Chiclet Keyboard ปุ่มกดสีดำตัดกับตัวเครื่องสีเงิน ระยะห่างของปุ่มกดแต่ละปุ่มถือว่าพอดี กดได้ถนัดมือ พร้อมไฟ LED สามารถปรับระดับความสว่างได้ ส่วนทัชแพดมีขนาดกลาง ๆ ปุ่มคลิกซ้ายและขวาเป็นชิ้นเดียวกับทัชแพด
ปุ่ม Power เปิด-ปิดตัวเครื่องจะอยู่ด้านขวา ซึ่งปุ่มนี้ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้วย สามารถใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านแบบเดิม ๆ
เนื่องจาก HUAWEI MateBook D 14 มาพร้อมกับขอบจอบาง 3 ด้าน ทำให้กล้อง Webcam ถูกติดตั้งอยู่ตรงแป้นพิมพ์ ซึ่งอยู่ระหว่างปุ่ม F6 กับ F7 โดยเป็นกล้องแบบ Recessed Camera เปิดใช้งานด้วยการกดและตัวกล้องจะเด้งแบบ Pop Up ขึ้นมา
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียงคู่ทั้งด้านซ้ายและขวา ตรงกลางเป็นช่องระบายความร้อน ซึ่งมีอยู่ 2 จุด โดยอีกจุดอยู่ตรงใต้จอบริเวณบานพับ นอกจากนี้ ยังมีปุ่มยาง 3 จุดสำหรับป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องเป็นรอย และช่วยยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยเพื่อระบายความร้อนอีกด้วย
ฟีเจอร์ HUAWEI Super Device
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า จุดขายของ HUAWEI MateBook D 14 รุ่นนี้ก็คือ HUAWEI Super Device ซึ่งเป็นฟีเจอร์เชื่อมต่อการทำงานข้ามอุปกรณ์แบบไร้สาย โดยมีแล็ปท็อป HUAWEI เป็นศูนย์กลาง รองรับการใช้งานทั้งบนสมาร์ทโฟน, และแท็บเล็ต ตอบโจทย์สไตล์การทำงานแบบ Smart Office ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ก็ไม่ได้มีวิธีที่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแค่เปิด Control Panel ซึ่งตรงเมนูจะมีอุปกรณ์ของ HUAWEI ที่ใช้ HUAWEI ID เดียวกันปรากฎขึ้นมา จากนั้นให้ลากเพื่อเชื่อมต่อได้เลย โดยจากรูป อุปกรณ์ที่ทำการทดสอบใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI Super Device กับ HUAWEI MateBook D 14 รุ่นนี้ก็คือ HUAWEI P50 Pro
และเมื่อทำการเชื่อมต่อ HUAWEI P50 Pro กับ HUAWEI MateBook D 14 แล้ว สามารถใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ ของ HUAWEI ได้อย่างรวดเร็วผ่านทางฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Pop-Up Pairing ซึ่งจะปรากฏหน้าจอการเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อพบอุปกรณ์อยู่ใกล้ ๆ
สำหรับอุปกรณ์ไร้สายที่นำมาทดสอบก็คือ HUAWEI Sound Joy ซึ่งเป็นลำโพงไร้สายแบบพกพา ที่มาพร้อมกับคุณภาพเสียงจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Devialet ภายในมีลำโพง 4 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงความถี่เต็ม 1 ตัว, ทวีตเตอร์ 1 ตัว และ Passive Radiator 2 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,800 mAh ใช้ได้นาน 26 ชั่วโมง
โดยการเชื่อมต่อ HUAWEI Sound Joy กับ HUAWEI MateBook D 14 ทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่กดปุ่มเปิดเครื่อง HUAWEI Sound Joy ก็จะปรากฎหน้าจอให้ทำการเชื่อมต่อบน MateBook D 14 เลย
ชิปเซ็ต 11th Gen Intel Core
HUAWEI MateBook D 14 มาพร้อมกับชิปประมวลผล 11th Gen Intel Core i5-1135G7 Processor ซึ่งเป็นชิปเซ็ตขนาด 10 นาโนเมตรแบบ SuperFin เร็วและแรงกว่าชิปเซ็ตรุ่นก่อน พร้อมการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics, หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB, พื้นที่จัดเก็บภายในแบบ SSD ขนาด 512GB และรองรับ Wi-Fi 6
นอกจากนี้ HUAWEI MateBook D 14 ยังมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน HUAWEI Shark Fin รุ่นอัปเกรดความหนาแน่นของใบพัด ระบายความร้อนได้ดีขึ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปใช้ Performance Mode เพียงกด Fn+P เพื่อเร่งประสิทธิภาพและการใช้พลังงานแบบเต็มพิกัด
แบตเตอรี่
HUAWEI MateBook D 14 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 56Wh รองรับการเล่นวิดีโอความละเอียดระดับ HD ได้นานสูงสุด 10.5 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว ด้วยที่ชาร์จแบบ USB-C ขนาด 65W ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้นาน 2 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จแบบ SuperCharge สำหรับมือถือ HUAWEI อีกด้วย
สรุปการใช้งาน MateBook D 14 คุ้มค่าแค่ไหน ?
HUAWEI MateBook D 14 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก แต่มีประสิทธิภาพสูง เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล 11th Gen Intel Core i5-1135G7 Processor ขนาด 10 นาโนเมตรแบบ SuperFin พร้อมการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics, RAM ขนาด 8GB และรองรับ Wi-Fi 6
นอกจากนี้ HUAWEI MateBook D 14 ยังมาพร้อมกับการอัปเกรดอย่างเต็มรูปแบบ กับฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด่นของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการบุกเบิกการทำงานแบบ Smart Office โดยมีแล็ปท็อปเป็นศูนย์กลาง ช่วยทำให้การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ HUAWEI อย่างเช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, จอมอนิเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ สะดวกมากขึ้น และสามารถทำงานข้ามไปมาระหว่างดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย
และด้วยคุณสมบัติข้างต้น ถือว่าตอบโจทย์อย่างมากสำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงกลุ่มวัยทำงานอีกด้วย
โดย HUAWEI MateBook D Series มีให้เลือก 2 รุ่นคือ MateBook D 14 และ MateBook D 15 ราคาเริ่มต้นที่ 22,990 บาท รายละเอียดดังนี้
และสำหรับผู้ที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2565 - 15 เมษายน 2565 รับฟรี HUAWEI Band 6 + HUAWEI Backpack รวมมูลค่า 2,989 บาท ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น
ส่วนข้อมูลและคุณสมบัติของ HUAWEI MateBook D Series รุ่นใหม่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ huawei.com
-------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 16/05/2022
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |