เผยโฉมในไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมา สำหรับ HUAWEI MateBook D15 โน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุดจาก HUAWEI ซึ่งรุ่นนี้ถือว่า โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์ด้วยบอดี้แบบอะลูมิเนียมสุดแกร่ง พร้อมหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว, ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U และที่สำคัญก็คือ เคาะราคาเปิดตัวมาเพียง 17,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่มองหาโน้ตบุ๊ครุ่นสุดคุ้มไปใช้งานในตอนนี้
โดย HUAWEI MateBook D15 มาพร้อมกับหน้าจอกว้างแบบ IPS FullView Screen ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งตัวบอดี้นั้นเป็นอะลูมิเนียมสีเทา Space Grey พร้อมดีไซน์แบบ Unibody ไร้รอยต่อ และบางเพียง 16.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.69 กิโลกรัม ซึ่งถือว่า ค่อนข้างเบาสำหรับโน้ตบุ๊คจอใหญ่ 15.6 นิ้ว
สำหรับชิปประมวลผลของ HUAWEI MateBook D15 จะมีให้เลือกแค่ AMD Ryzen 5 3500U และการ์ดจอ Radeon Vega 8 Graphics ซึ่งเป็นแบบ On-Board พร้อม RAM ขนาด 8 GB DDR5 และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ PCIe SSD ขนาด 256 GB และแบบ HDD ขนาด 1 TB ซึ่งสเปกระดับนี้ รองรับการใช้งานทั่วไป อย่างเช่น งานเอกสาร, ดูหนัง, ฟังเพลง ได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงเกมกราฟิก 2D ก็ตอบโจทย์เช่นกัน
และจุดเด่นอีกอย่างบน HUAWEI MateBook D15 รุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับฟีเจอร์ Huawei Share สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับโน้ตบุ๊คเพื่อทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น การโอนย้ายไฟล์ระหว่างกัน ด้วยการส่งภาพจากหรือวิดีโอจากสมาร์ทโฟนเข้า MateBook D15 รวมถึงยังรองรับฟีเจอร์ Screen Mirror ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมสมาร์ทโฟนจากหน้าจอของ MateBook D15 ได้เลย เรียกได้ว่า เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกมากสำหรับผู้ใช้มือถือ HUAWEI
กล่าวถึงสเปกเบื้องต้นกันไปแล้ว มาดูดีไซน์โดยรวมและการใช้งานจริงของ HUAWEI MateBook D15 รุ่นนี้กันบ้าง กับรีวิว HUAWEI MateBook D15 โดยทีมงาน techmoblog.com
สำหรับ HUAWEI MateBook D15 ที่นำมารีวิวในวันนี้ เป็นตัวเครื่องสีเทา Space Grey มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Unibody ไร้รอยต่อ และผิวสัมผัสเนื้อ Matte ติดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างยาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องมาเช็ดทำความสะอาดบ่อย ๆ ส่วนบอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียม ที่ถือว่า งานประกอบค่อนข้างดี ทำให้ภาพรวมของโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ดูหรูหรา, แข็งแกร่ง และทนทาน
หน้าจอแสดงผลแบบ IPS FullView ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยเป็นหน้าจอแบบ Anti-Glare หรือหน้าจอแบบด้านเพื่อลดแสงสะท้อน และได้รับการรับรองมาตรฐานว่าเป็นหน้าจอลดแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland อีกทั้งยังมาพร้อมมุมมองกว้างถึง 178 องศา ในอัตราส่วน 16:9 ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแบบเต็มหน้าจอ โดยเฉพาะการใช้งานด้านความบันเทิง อย่างเช่น ดูหนัง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมขอบจอบางเฉียบเพียง 5.3 มิลลิเมตร ทำให้มีอัตราส่วนตัวเครื่องต่อหน้าจอมากถึง 87% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับโน้ตบุ๊คที่มีระดับราคาประมาณนี้ ส่งผลทำให้ขนาดตัวเครื่องโดยรวมเทียบเท่ากับโน้ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว อีกทั้งยังพกพาสะดวกด้วยดีไซน์บางเฉียบเพียง 16.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.62 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าโน้ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วรุ่นอื่น ๆ
และด้วยดีไซน์หน้าจอแบบ FullView ทำให้ไม่มีพื้นที่เหลือมากพอที่จะฝังกล้อง Webcam ไว้ที่ขอบตัวเครื่อง ซึ่งกล้อง Webcam ของ HUAWEI MateBook D15 จะอยู่ระหว่างปุ่ม F6 กับ F7 เปิดใช้งานด้วยการกด และตัวกล้องจะเด้งแบบ Pop Up ขึ้นมา แต่ข้อเสียของกล้องแบบนี้ก็คือ จะไม่สามารถปรับมุมมองได้
สำหรับปุ่ม Power เปิด-ปิดตัวเครื่อง จะอยู่ด้านขวา ซึ่งปุ่มนี้มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้วยเช่นกัน สามารถใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านแบบเดิม ๆ
คีย์บอร์ดบน HUAWEI MateBook D15 เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งปุ่มกดเป็นสีดำตัดสีตัวเครื่องโทนสีเทาได้อย่างลงตัว ระยะห่างของปุ่มกดแต่ละปุ่มถือว่าพอดี กดได้ถนัดมือ แต่รุ่นนี้ไม่มีแผงปุ่ม NumPad ด้านขวามาให้ แม้ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊คจอใหญ่ 15.6 นิ้วก็ตาม ทำให้เหลือพื้นที่ด้านข้างซ้ายขวามากพอสมควร อีกทั้งตัวแป้นคีย์บอร์ดไม่มีไฟ LED-Backlit ทำให้การใช้งานในที่แสงน้อยค่อนข้างลำบากเล็กน้อย
ส่วน TouchPad มีขนาดใหญ่ ปุ่มคลิกซ้ายและขวาเป็นแบบชิ้นเดียวกับ TouchPad ซึ่งจากการทดสอบใช้งานพบว่า ตอบสนองต่อการสัมผัสได้รวดเร็วทันใจ
สำหรับสติกเกอร์ Huawei Share นั้น เป็นสติกเกอร์ที่บอกตำแหน่งของ NFC เพื่อใช้เชื่อมต่อกับมือถือ HUAWEI นั่นเอง โดยฟีเจอร์ Huawei Share นั้น ถือว่าเป็นจุดขายหลักของรุ่นนี้ ซึ่งการใช้งานจะอธิบายให้ทราบกันในหัวข้อถัดไป
มาดูพอร์ตการเชื่อมต่อรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง ซึ่งถือว่า HUAWEI MateBook D15 รุ่นนี้ ให้พอร์ตการเชื่อมต่อมาอย่างครบถ้วนเลยก็ว่าได้ โดยด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต USB-C ซึ่งเป็นได้ทั้งพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่และใช้รับส่งข้อมูล, พอร์ต USB 3.0 Type-A และพอร์ต HDMI
ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ต USB 2.0 Type-A อีก 2 พอร์ต ซึ่งรุ่นนี้ไม่มีพอร์ตสำหรับ SD Card Reader มาให้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะสามารถหาอุปกรณ์เสริมมาเชื่อมต่อเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียงแบบคู่ (ด้านซ้าย-ขวา) ส่วนตรงกลางเป็นช่องระบายความร้อน ซึ่งจะมีอยู่ 2 จุด โดยอีกหนึ่งจุดอยู่ตรงใต้หน้าจอบริเวณบานพับ นอกจากนี้ ยังมีปุ่มยาง 3 จุดสำหรับป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องเป็นรอย และช่วยยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยเพื่อระบายความร้อนอีกด้วย
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน จะมี 2 อย่าง นั่นก็คือ Adapter ขนาด 65W ที่มีขนาดกะทัดรัด และรองรับระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging) โดยสามารถชาร์จแบตได้ 53% ในเวลา 30 นาที ส่วนสายชาร์จเป็นแบบ USB-C to USB-C ซึ่งนอกจากจะสามารถชาร์จโน้ตบุ๊คได้แล้ว ยังสามารถชาร์จอุปกรณ์อื่นที่เป็นพอร์ต USB-C ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่าเป็นจุดขายของ HUAWEI MateBook D15 นั่นก็คือ Huawei Share ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำงานร่วมกับโปรแกรม PC Manager ที่ติดตั้งมาให้แล้วในตัวเครื่อง โดย Huawei Share จะรองรับเฉพาะสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่รองรับฟีเจอร์ NFC และทำงานบนระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า
สำหรับรีวิวนี้ ทีมงานใช้ HUAWEI Mate 30 Pro มาทดสอบใช้งานร่วมกับ HUAWEI MateBook D15 ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อก็คือ ให้วางมือถือ HUAWEI (ในที่นี้คือ HUAWEI Mate 30 Pro) บนสติกเกอร์ Huawei Share จากนั้นคลิกที่ปุ่มเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้ก็คือสามารถเชื่อมต่อ HUAWEI Mate 30 Pro กับ HUAWEI MateBook D15 ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว จะปรากฏหน้าต่างเสมือนของ HUAWEI Mate 30 Pro บนโน้ตบุ๊ค คล้าย ๆ กับว่าเป็นการ Mirror หน้าจอของสมาร์ทโฟนไปไว้บนโน้ตบุ๊คนั่นเอง ซึ่งผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานสมาร์ทโฟนได้จากหน้าจอของ HUAWEI MateBook D15 ได้ สมมติว่า กำลังคุยแชท LINE อยู่ ก็สามารถพิมพ์โต้ตอบด้วยคีย์บอร์ดบนโน้ตบุ๊คได้เลยอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นวิธีที่สะดวกต่อการใช้งานอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังสามารถดึงรูปภาพจากสมาร์ทโฟนไปไว้ที่โน้ตบุ๊คก็ได้ด้วยเช่นกัน วิธีการก็ง่ายมาก ๆ แค่ลากไฟล์รูปภาพจากหน้าจอ Mirror ไปไว้บนโน้ตบุ๊คได้เลย หรือจะเลือกโอนไฟล์ผ่านทาง Huawei Beam ก็ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง HUAWEI เรียกฟีเจอร์นี้ว่า OneHop
อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์ Huawei Share รองรับการใช้งานเฉพาะบนมือถือ HUAWEI เท่านั้น ไม่รองรับบนมือถือ Android แบรนด์อื่น รวมถึง iPhone
มาทดสอบประสิทธิภาพบน HUAWEI MateBook D15 กันบ้าง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U ความเร็วในการประมวลผล 2.1 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 3.7 GHz และเป็นชิปประมวลผลแบบ 4 Core 8 Threads ซึ่งถือว่าเป็นชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพดี และประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์การทำงานทั่วไป ส่วนหน่วยความจำ RAM อยู่ที่ 8 GB DDR4, พื้นที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD ขนาด 256 GB ร่วมกับแบบ HDD ขนาด 1 TB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
สำหรับชิปประมวลผลด้านกราฟิกนั้น จะเป็น Radeon Vega 8 Graphics ซึ่งเป็นการ์ดจอแบบ On-Board โดยประมวลผลได้ดีในระดับหนึ่ง ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี เช่นเดียวกับเกมกราฟิก 2 มิติก็รองรับได้อย่างสบาย ๆ แต่ถ้าหากเป็นเกมกราฟิกแบบ 3 มิติ ยังไม่ตอบโจทย์เท่าใดนัก
ทดสอบประสิทธิภาพของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CINEBENCH R15 ซึ่งได้คะแนนตามมาตรฐานของชิป AMD Ryzen 5 3500U ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป อย่างเช่น งานเอกสาร, เปิดเว็บไซต์, ดูหนัง, ฟังเพลง ได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่เหมาะกับการเล่นเกมออนไลน์ภาพกราฟิกแบบ 3D เท่าใดนัก
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม PCMARK 10 พบว่า ทำคะแนนการทดสอบรวมได้ 3,071 คะแนน ซึ่งคะแนนระดับนี้การใช้งานทั่วไป อย่างเช่น งานเอกสาร, ตกแต่งรูป หรือเล่นเว็บไซต์ ถือว่าสอบผ่าน
สำหรับ SSD ที่ใช้บน HUAWEI MateBook D15 มีขนาดอยู่ที่ 256 GB แบบ PCIe ซึ่งจากการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ทำความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 3,530.37 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 1,604.31 MB/s ถือว่าเป็นระดับคะแนนที่น่าพอใจเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรม PC Manager เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลโน้ตบุ๊คในระดับเบื้องต้น ซึ่งจะมีการตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์ที่อาจจะมีปัญหาด้านการใช้งาน พร้อมกับอัปเดต Driver ต่าง ๆ ให้อยู่ในเวอร์ชันล่าสุด โดยฟีเจอร์ Huawei Share ก็อยู่ในโปรแกรมนี้เช่นกัน ด้วยการคลิกที่ My Phone
สำหรับ HUAWEI MateBook D15 ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊คที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่เน้นการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างเช่น งานเอกสาร, เล่นอินเทอร์เน็ต, ดูหนัง หรือฟังเพลงเสียมากกว่า แถมยังมีราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินไป อีกทั้งผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์ HUAWEI อยู่แล้ว จะได้เปรียบกว่ามือถือแบรนด์อื่น ๆ เนื่องจากถูกออกแบบให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ผ่านทางฟีเจอร์ Huawei Share ที่มีประโยชน์ในเรื่องของการแชร์ไฟล์, ถ่ายโอนข้อมูล หรือแชร์หน้าจอกันระหว่างสมาร์ทโฟนกับโน้ตบุ๊คได้ เรียกได้ว่า เป็นจุดเด่นของการทำงานแบบไร้รอยต่อที่ทาง HUAWEI ออกแบบมาให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะ
ด้านการออกแบบนั้น HUAWEI MateBook D15 มาพร้อมกับบอดี้แบบอะลูมิเนียม ที่มีผิวสัมผัสแบบด้าน ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือติดที่ตัวเครื่อง และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว แบบ IPS Display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมขอบจอบางเฉียบเพียง 5.3 มิลลิเมตร ส่งผลทำให้มีอัตราส่วนตัวเครื่องต่อหน้าจอมากถึง 87% และมีขนาดตัวเครื่องเทียบเท่ากับโน้ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วเท่านั้น รวมถึงน้ำหนักเบาเพียง 1.62 กิโลกรัม จึงทำให้ HUAWEI MateBook D15 เป็นโน้ตบุ๊คสายทำงานที่พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อย่างสะดวก
สำหรับการประมวลผล มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U ความเร็ว 2.1 GHz ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 3.7 GHz, ชิปกราฟิก Radeon Vega 8 Graphics แบบ On-Board, หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB DDR5 และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ PCIe SSD ขนาด 256 GB และแบบ HDD ขนาด 1 TB ซึ่งสเปกระดับนี้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานขั้นพื้นฐานเท่านั้น อย่างเช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, งานเอกสาร หรือเล่นเกมกราฟิกแบบ 2D โดยจะไม่เหมาะกับการทำงานใช้งานที่ต้องใช้การประมวลผลสูง ๆ
ด้านแบตเตอรี่ถือว่ารองรับการใช้งานได้นานพอสมควร จากการทดสอบก็อยู่ที่ราว ๆ 7-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน) อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Adapter ขนาด 65W และรองรับระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging) ที่สามารถชาร์จแบตได้ 53% ในเวลา 30 นาทีผ่านพอร์ต USB-C โดยรวมถือว่าสะดวกมาก ซึ่งในกรณีที่นำไปใช้งานนอกบ้านและไม่สามารถหาที่ชาร์จไฟได้ ก็สามารถชาร์จแบตกับ Power Bank ความจุสูง ๆ ก็ได้เช่นกัน
สรุปแล้ว HUAWEI MateBook D15 เป็นโน้ตบุ๊ครุ่นสุดคุ้มที่เหมาะกับนักเรียน, นักศึกษา หรือสายออฟฟิศที่เน้นใช้งานด้านเอกสารเป็นหลัก อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพง ซึ่งราคาค่าตัวของ HUAWEI MateBook D15 อยู่ที่ 17,990 บาท
จุดเด่นของ HUAWEI MateBook D15
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ : เครื่อง HUAWEI MateBook D15 ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 01/04/2020
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |