จากความสำเร็จของ Huawei P9 และ Huawei P9 Plus กับการเป็น มือถือกล้อง Leica รุ่นแรกของโลก ทำให้การมาของ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus นั้น เป็นที่จับตามองอย่างมาก ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2017 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า การกลับมาในครั้งนี้สั่นสะเทือนวงการ กล้องมือถือ อีกครั้ง กับ มือถือกล้อง Leica ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังรุ่นแรกของโลก
สำหรับดีไซน์ของ Huawei P10 นั้น ยังคงความหรูหราและพรีเมียมแบบเดียวกับ Huawei P9 ด้วยเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Metal Unibody พร้อมเคลือบตัวเครื่องและแผงวงจรด้านในด้วย Nano-Coating กันน้ำกระเซ็นหรือหกใส่ได้ ส่วนสเปกนั้น ยังอยู่ในระดับไฮเอนด์เหมือนเช่นเคย ด้วยหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ IPS-NEO LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 960 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP8 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, กล้องด้านหน้า Leica ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล (ปรับปรุงจากรุ่นเดิม), แบตเตอรี่ขนาด 3200 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, รองรับเทคโนโลยี NFC และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) ครอบทับด้วย EMUI 5.1 เวอร์ชันล่าสุดอีกด้วย
โดยคุณสมบัติของ Huawei P10 ในข้างต้น ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีราคาเปิดตัวที่ไม่แพงอีกด้วย เริ่มต้นที่ 17,900 บาท เท่านั้น มาดูกันดีกว่าว่า Huawei P10 มือถือกล้อง Leica จะใช้งานได้ดีขนาดไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Huawei P10 โดยทีมงาน techmoblog ครับ
>> สเปก Huawei P10 อย่างละเอียด คลิกที่นี่
สำหรับ Huawei P10 นั้น มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.1 นิ้ว แบบ IPS-NEO LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 145.3 x 69.3 x 7 มิลลิเมตร และหนัก 145 กรัม ซึ่งรุ่นที่นำมาทดสอบนี้ เป็นสี Graphite Black
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย เซ็นเซอร์, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องด้านหน้านี้ เป็นกล้องที่พัฒนาโดย Leica และถือว่า เป็นรุ่นแรกของ Huawei ที่ใช้เลนส์ Leica ทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลัง (Huawei P9 เลนส์ Leica เฉพาะกล้องด้านหลัง) โดยกล้องหน้า Leica นี้ สามารถบันทึกแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า ทำให้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้สวยทั้งกลางวัน และกลางคืน มาพร้อมรูรับแสงกว้าง F/1.9
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่ม Home ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายใน ซึ่งการควบคุมการทำงานบน Huawei P10 นั้น จะแบ่งเป็น 2 แบบ นั่นก็คือ ถ้าหากเลือกปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัสบนหน้าจอ ปุ่ม Home นี้ จะมีหน้าที่ในการสแกนลายนิ้วมือเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าหากเลือกปุ่มควบคุมการทำงานแบบ Off-screen ปุ่ม Home จะทำหน้าที่ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ และเป็นปุ่ม Home ในตัว ส่วนด้านขวาของปุ่ม Home จะเป็นปุ่ม Recent Apps แบบสัมผัส (สำหรับส่วนนี้จะกล่าวในหัวข้อถัดไป)
จากการทดสอบนั้น พบว่า Huawei P10 ปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแตะนิ้วเพื่อปลดล็อกในขณะที่หน้าจอยังดับอยู่ได้อีกด้วย
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นถาดใส่ซิมการ์ด โดยรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดแรก รองรับการใช้งาน 4G LTE ส่วนซิมการ์ดที่ 2 รองรับการสื่อสารด้วยเสียงเท่านั้น (รองรับเฉพาะเครือข่าย 3G) นอกจากนี้ ยังรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card อีกด้วย แต่จะต้องเลือกระหว่าง microSD กับ ซิมการ์ดที่ 2 ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C และลำโพงเสียง ด้วยระบบเสียงแบบ DTS Sound
สำหรับด้านหลังตัวเครื่องนั้น ประกอบด้วย กล้องคู่ด้านหลังจาก Leica ที่ถือว่า เป็นจุดขายของรุ่นนี้นั่นเอง กล้องตัวแรก ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพขาวดำ ส่วนกล้องตัวที่สอง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพสี RGB พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED (Dual Tone), ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และระบบโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus (PDAF) + CAF + เลเซอร์ + ความลึก
สำหรับกล่องผลิตภัณฑ์ของ Huawei P10 เป็นกล่องสีขาว ด้านหน้ามีสกรีนคำว่า Huawei P10 และ Dual Camera พร้อมโลโก้ Leica อย่างชัดเจน
ภายใน มีตัวเครื่อง Huawei P10
เข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
ส่วนอุปกรณ์พื้นฐานที่ให้มา ประกอบด้วย สาย USB-C, หูฟัง และ Adapter สำหรับชาร์จไฟ
นอกจากนี้ ภายในกล่อง ยังแถมเคสใสสำหรับ Huawei P10 มาให้ด้วย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มแต่อย่างใด ส่วนฟิล์มกันรอยสำหรับ Huawei P10 นั้น ก็เริ่มมีเปิดตัวมาบ้างแล้ว อย่างเช่น ฟิล์ม Focus Curved Fit TPU Perfect Edge ซึ่งเป็นฟิล์มลงโค้งแบบใส มีจุดเด่นตรงที่การครอบคลุมเต็มจอถึงขอบโค้งแบบ 100% และมีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ทำให้มีผิวสัมผัสที่เรียบลื่น ไม่สะดุด ลดรอยนิ้วมือ อีกทั้งยังแสดงผลภาพได้อย่างคมชัด ซึ่งคาดว่า ฟิล์มกันรอยของ Focus รุ่นนี้ จะวางจำหน่ายพร้อมกับ Huawei P10 ในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้
ในหน้า Lockscreen นั้น นอกจากจะมีเมนูลัดสำหรับเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปแล้ว ยังมีเมนูลัดเข้าใช้งานในส่วนอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย, นาฬิกา และตัวสแกน QR Code พร้อมปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วผ่านการสแกนลายนิ้วมือ
ในหน้า Homescreen ประกอบไปด้วย แอปพลิเคชัน และ Widget สำหรับใช้งาน โดย Huawei P10 นี้ ไม่มี App Drawer ทำให้แอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมาอยู่ในส่วนนี้ทั้งหมด แต่สามารถจัดเรียงให้เป็นระเบียบได้ด้วยการสร้างโฟลเดอร์
Notification แถบแสดงการแจ้งเตือน ทั้งอีเมล และข้อความต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Bluetooth, Airplane Mode และอื่น ๆ
Search ค้นหาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ภายในตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
Recent Apps สลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่น (ที่เคยเปิดใช้งานแล้ว) หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้ เพื่อเพิ่ม RAM ให้กับตัวเครื่อง
บริการต่าง ๆ จาก Google มีให้ใช้งานกันแบบจัดเต็ม ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Maps, YouTube, Photos และอื่น ๆ
สำหรับใครที่เบื่อ Background หรือภาพพื้นหลังแบบเดิม ๆ สามารถดาวน์โหลดภาพ Background และธีมต่าง ๆ มาใช้งานกันได้ฟรี ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Themes
HiGame แอปพลิเคชันรวมเกมต่าง ๆ สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรีเช่นกัน
Health แอปพลิเคชันด้านสุขภาพ กำหนดเป้าหมายของการออกกำลังกายได้หลายระดับ
สำหรับ Huawei P10 รุ่นที่นำมารีวิวในวันนี้ มีขนาดความจุในตัวเครื่องที่ 64 GB ซึ่งแอปพลิเคชัน Files จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ว่า มีรูปภาพกี่รูป, เพลงกี่เพลง ที่ถูกเก็บไว้ในตัวเครื่อง พร้อมกับระบุความจุที่เหลือ
สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานบน Huawei P10 ก็ได้แก่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึีกเสียง, ไฟฉาย, เข็มทิศ และอื่น ๆ
ในส่วนของปุ่มควบคุมการทำงานบน Huawei P10 นั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ Navigation Keys หรือปุ่มแบบสัมผัสบนหน้าจอ ซึ่งสามารถเลือกตำแหน่งของปุ่มต่าง ๆ ตามความคุ้นเคยด้านการใช้งาน เช่น ปุ่ม Home ตรงกลาง, ปุ่ม Back ด้านขวา หรือปุ่ม Recent Apps ด้านซ้าย เป็นต้น ซึ่งถ้าหากเลือกแบบนี้ ปุ่ม Home แบบ Hard Key นั้น จะมีหน้าที่ในการสแกนลายนิ้วมือเท่านั้น
แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดการใช้ Navigation Keys ก็สามารถเลือกแบบ Off-Screen Navigation Button ได้ โดยปุ่ม Home จะทำหน้าที่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ แตะค้างจะกลับสู่หน้า Home หรือแตะเบา ๆ จะย้อนไปยังหน้าที่อยู่ก่อนหน้า
ส่วนการปัดจากขวาไปซ้าย จะเป็นการเปิด Recent Apps
แต่ถ้าหากปัดขึ้นบน จะเปิดแอปพลิเคชัน Google App ถือว่า สะดวกต่อการใช้งานไม่น้อยครับ
นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมการใช้งานด้วยท่าทางต่าง ๆ เช่น พลิกเครื่องเพื่อปิดเสียง, ยกเครื่องแนบหูเพื่อรับโทรศัพท์ เป็นต้น หรือตั้งค่าการใช้งานด้วยมือเดียวได้
App Twin แอปฯ เดียวกัน สามารถใช้งานได้ 2 ID พร้อมกัน ไม่ต้องสลับ account
มาทดสอบด้านการประมวลผลกันบ้าง โดย Huawei P10 นั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 960 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz, หน่วยประมวลผลภาพ Mali-G71 MP8 และ RAM 4 GB ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม พบว่า ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด นอกเหนือจากการเล่นเกมแล้ว การใช้งานทั่ว ๆ ไปก็ประมวลผลได้ดีเช่นกัน
มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant ทำได้ 38,923 คะแนน และการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 129,937 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำได้ 1,917 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ 5,710 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Multi-Core ในขณะที่มัลติทัช รองรับที่ 10 จุด
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า จุดขายของ Huawei P10 นั่นก็คือ กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั่นเอง โดยยังคงเป็น กล้อง Leica เหมือนกับ Huawei P9 แต่พิเศษกว่าตรงที่ เป็นกล้อง Leica ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังรุ่นแรกของโลก ซึ่งกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 โดยมาพร้อมกับโหมด Portrait (ไอคอนรูปคนสีส้ม) สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ นอกจากนี้ ยังปรับค่าความเนียนของผิวได้ถึง 10 ระดับด้วยกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหน้า โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหน้า โหมด Portrait
จากการทดสอบถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหน้าบน Huawei P10 ในโหมด Portrait มีส่วนที่ควรปรับปรุงในบางจุด อย่างเช่น ภาพในอยู่ในฉากหลัง เบลอไม่สม่ำเสมอ คาดว่า ทาง Huawei น่าจะปล่อยเฟิร์มแวร์แก้ไขในอนาคต
ในส่วนของกล้องด้านหลังนั้น มาพร้อมกับกล้องคู่แบบ Dual-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพสี (RGB) และความละเอียด 20 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพขาวดำ (Monochrome) พร้อมรูรับแสงขนาดกว้างสูงสุดที่ F/2.2, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และไฟแฟลชแบบ Dual-Tone ซึ่งมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Photo (ถ่ายภาพปกติ), Monochrome, Video, HDR, Panorama และอื่น ๆ อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพให้มีสีสันแปลกตาได้ 3 ระดับ ได้แก่ Standard, Vivid Colors และ Smooth Colors
สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพถ่ายได้ 9 แบบด้วยกัน ได้แก่ Original, Sentimental, Impact, ND, Valencia, Blue, Halo, Nostalgia และ Dawn
ไม่เพียงเท่านั้น Huawei P10 ยังรองรับการถ่ายภาพในโหมด PRO ด้วยเช่นกัน สามารถปรับระดับ ISO, Shutter Speed, EV, โหมดการโฟกัสภาพ และ White Balance
สำหรับโหมดการถ่ายภาพแบบใส่ลายน้ำ (Watermarks) มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เวลา, สถานที่, สภาพอากาศ, อารมณ์, อาหาร และกีฬา
มาดูการตั้งค่ากล้องถ่ายรูปในส่วนอื่น ๆ กันบ้าง สามารถเลือกความละเอียดของภาพถ่าย (สูงสุด 20 ล้านพิกเซล), เปิด-ปิดการแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, เพิ่มลายน้ำของ Leica, เปิดใช้งานตารางบนกล้อง, ปิดเสียงชัดเตอร์ และอื่น ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Portrait
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Monochrome
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Monochrome
จากการทดสอบใช้งาน Huawei P10 ในข้างต้น สัมผัสแรกที่รู้สึกได้ นั่นก็คือ ตัวเครื่องตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เริ่มกันตั้งแต่ การสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อก ไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม Power เพื่อให้หน้าจอติดก่อน สามารถแตะนิ้วบนปุ่ม Home เพื่อทำการสแกนได้เลย และปลดล็อกในเวลาไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำไป ซึ่งในส่วนของการใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่น เปิดแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือใช้งานกล้องถ่ายรูป ก็ถือว่า ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติด้านการประมวลผลในระดับไฮเอนด์อย่าง ชิปเซ็ต Hisilicon Kirin 960 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.4 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP8 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB ถือว่า ทำได้ดีเยี่ยมไม่แพ้ มือถือเรือธงคู่แข่ง อีกด้วย
ในส่วนของการถ่ายภาพนั้น ถือว่า Huawei P10 รุ่นนี้ ตอบโจทย์คนที่มองหา มือถือกล้องสวย ได้เป็นอย่างดี กับ มือถือกล้อง Leica ทั้งด้านหน้าและด้านหลังรุ่นแรกของโลก ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 20+12 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพแบบ Bokeh หรือหน้าชัดหลังเบลอ ในโหมด Portrait และโหมดการถ่ายภาพแบบ PRO ทำให้การถ่ายภาพสวย ๆ ด้วยสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น รับรองได้เลยว่า ใครที่ชอบถ่ายภาพด้วยมือถืออยู่แล้ว ถ้าหากได้มาสัมผัสการถ่ายภาพด้วยกล้องจาก Huawei P10 คงถูกอกถูกใจกันอย่างแน่นอน
และจากการทดสอบทั้งหมดในข้างต้น Huawei P10 ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหา มือถือเรือธง ในราคาที่ไม่เกิน 20,000 บาท ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกล้องถ่ายภาพในระดับมือโปร บนดีไซน์สวยหรูและมีระดับ Huawei P10 รุ่นนี้ เป็นอีกตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครับ
สำหรับ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus นั้น มีให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ได้แก่ Dazzling Blue, Dazzling Gold, Mystic Silver, Graphite Black, Prestige Gold และ Greenery (เฉพาะรุ่น P10 Plus) (สี Rose Gold และ Ceramic White ไม่วางจำหน่ายในไทย) เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม 2017 นี้ แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่
ส่วน Huawei P9 และ Huawei P9 Plus ได้มีการปรับราคาลงเหลือ 14,900 บาท และ 19,900 บาทตามลำดับ
จุดเด่นของ Huawei P10
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ: “เครื่อง Huawei P10 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง หัวเว่ย เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 03/04/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |