Hyperloop ระบบขนส่งความเร็วสูงแห่งอนาคตเริ่มจะเข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาอีกระดับแล้ว เมื่อ Hyperloop One หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมในโครงการ ได้ทดสอบระบบการวิ่งเต็มรูปแบบด้วยแคปซูลโดยสารจริง รุ่น XP-1 ในไซต์ทดสอบ DevLoop กลางทะเลทรายเนวาด้าในวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา การทดสอบสำเร็จลุล่วงด้วยดี และทำความเร็วได้ถึง 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำลายทุกสถิติความเร็วเท่าที่เคยมีการทดสอบมา
การทดสอบครั้งนี้ Hyperloop One ได้ปรับสภาพแวดล้อมภายในอุโมงค์ทดสอบให้เหมือนการใช้งานจริงที่สุด โดยลดความดันอากาศในอุโมงค์ให้เทียบเท่ากับความดันอากาศที่ระดับ 200,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ภายใต้สภาวะที่อากาศเบาบางเช่นนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างตู้โดยสารกับอากาศได้อย่างมาก ทำให้ Hyperloop ทำความเร็วได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ทีมงาน Hyperloop One ยังต้องควบคุมดูแลทุกองค์ประกอบอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ต่างๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปั๊มสุญญากาศ ไปจนถึงกลไกการขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็ก (MAGLEV) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็นับว่าคุ้มค่าเหนื่อย
แคปซูลโดยสาร XP-1
หลายคนอาจจะยังจำกันได้ว่า Hyperloop One เคยทดสอบการวิ่งเต็มรูปแบบไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ในครั้งนั้นไม่ได้ใช้แคปซูลโดยสารจริงๆ เป็นเพียงพาหนะจำลองสำหรับทดสอบระบบ MAGLEV และทดสอบเป็นระยะทางสั้นๆ แค่ 30 เมตรเท่านั้น แต่ในการทดสอบครั้งล่าสุดได้เพิ่มระยะทางการทดสอบเป็น 300 เมตร และใช้พลังงานขับเคลื่อนตู้โดยสารถึง 3,151 แรงม้า มากกว่าการทดสอบครั้งที่แล้วถึง 3.5 เท่า
สำหรับเป้าหมายในการทดสอบครั้งต่อไป Hyperloop One เปิดเผยว่าจะทำความเร็วสูงสุดให้ได้ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจำเป็นจะต้องขยายระยะทางของอุโมงค์ทดสอบออกไปอีก
หลังจากที่ Hyperloop พร้อมให้บริการแล้ว จะเปิดเส้นทางแรกเชื่อมระหว่างเมืองอาบูดาบีและดูไบ ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร และคาดว่าจะทำความเร็วได้สูงสุดถึง 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางแค่ 12 นาทีเท่านั้น
-------------------------------------
ที่มา : TechCrunch
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 03/08/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |