[9-มิถุนายน-2554] นอกจากภายในงาน WWDC 2011 จะมีการเปิดตัว
iOS 5 แล้ว ยังได้เปิดบริการใหม่ที่มืชื่อว่า iCloud มาให้เหล่าสาวก iOS ได้ลองใช้กันอีกด้วยครับ ซึ่ง iCloud จะมีลักษณะเป็นแบบไหน ทำหน้าที่อะไร และทำไมถึงได้มีส่วนสำคัญบนระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง
iOS 5 วันนี้ เว็บไซต์ Techmo
BLOG.com จะมาแจกแจงในฟังกันดังนี้ครับ
อธิบายให้เห็นภาพกันง่ายๆ ก่อน
iCloud เปรียบเสมือนจุดศูนย์รวมของทุกๆ อย่างที่คุณมีครับ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ,เพลง, เบอร์ติดต่อ, Apps, ปฏิทิน หรือเอกสารอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานเก็บไว้บนอุปกรณ์ iOS ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าคุณจะมีอุปกรณ์ iOS กี่เครื่อง ข้อมูลต่างๆ ที่คุณมี จะเข้าไปอยู่บนอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้งาน โดยผ่านบริการ iCloud นี่แหละครับ คล้ายๆ กับ ความชื้น (รูปภาพ,เพลง, เบอร์ติดต่อ, Apps, ปฏิทิน หรือเอกสารอื่นๆ) ถูกดูดขึ้นไปเก็บไว้บนก้อนเมฆ (iCloud) ก่อนจะตกกระจายลงมาเป็นฝน (สู่อุปกรณ์ iOS ทุกเครื่องที่มี) พอจะเห็นภาพกันบ้างมั๊ยครับ???
เมื่อเข้าใจหน้าที่ของ iCloud กันแล้ว ต่อไป มาทำความรู้จักกันว่า App หรือความสามารถที่อยู่บน iCloud นั้นมีอะไรกันบ้าง
รายชื่อผู้ติดต่อ (Contacts)เมื่อใดก็ตามที่มีการเพิ่ม, เปลี่ยนแปลง หรือลบ รายชื่อผู้ติดต่อ iCloud จะทำการก๊อบปี้ข้อมูลเหล่านั้นและกระจายไปยังอุปกรณ์ iOS ที่ผู้ใช้นั้นมีอยู่ โดยที่เราไม่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ เครื่องครับ เรียกได้ว่า ยิงทีเดียว ได้นกหลายตัวเลย :D
อีเมล (Email)iCloud จะให้พื้นที่ในการเก็บอีเมลแบบ "ฟรีๆ" 5GB ครับ ซึ่งสามารถแชร์ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้เช่นกัน
แอพพลิเคชั่น (Application)ในการซื้อ App 1 ครั้ง App นั้นๆ จะถูกแชร์ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาในการลง App หลายๆ รอบ
iBooksโปรแกรมสำหรับหนอนหนังสือ ซึ่งสามารถดาวน์โหลด App และหนังสือไว้บนอุปกรณ์ iOS ได้สูงสุด 10 เครื่องครับ
Back-up ได้ทุกวัน ผ่าน Wi-Fiนอกจากนี้ คุณยังสามารถแบ็คอัพไฟล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลง, Apps, หนังสือ, รูปภาพ, คลิปวิดีโอ, เมสเสจ หรือริงโทน ไว้บน iCloud ได้ด้วยครับ โดยผ่านเครือข่าย Wi-Fi
รูป (Photos)เมื่อใดก็ตามที่คุณถ่ายรูปใหม่ หรือมีรูปภาพใหม่ๆ เข้ามาจากอุปกรณ์ iOS เครื่องแรก iCloud จะทำการแชร์รูปภาพของคุณไปยังอุปกรณ์ iOS เครื่องที่ 2 และ 3 ผ่านทางโปรแกรมที่เรียกว่า Photo Stream ซึ่งใครที่มี Apple TV อยู่แล้ว รูปดังกล่าวก็จะถูกซิงค์ไปยัง Apple TV โดยอัตโนมัติอีกด้วยครับ แต่ต้องจำไว้นิดนึงว่า
iCloud นั้น สามารถบรรจุรูปได้สูงสุดแค่ 1,000 รูป 30 วันเท่านั้นครับ ทางที่ดี ควรจะเก็บรูปไว้ที่เครื่อง Macs หรือพีซี จะดีที่สุดครับ เพราะ iCloud เปรียบเสมือนแค่ทางผ่านชั่วคราวเท่านั้น
iTunes in the Cloudถ้าหากคุณเคยซื้อเพลงจาก iTunes ไปก่อนหน้านั้น กับอุปกรณ์ iOS เครื่องอื่น อย่างเช่น ตอนแรกใช้ ไอโฟน (iPhone) ซื้อ คุณก็สามารถทำการดาวน์โหลดเพลงที่เคยซื้อไปแล้ว โดยกดปุ่ม Cloud ก็จะสามารถดาวน์โหลดลงอุปกรณ์ iOS ตัวอื่นๆ ได้
โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ นอกจากนี้ iCloud จะทำการสแกนอุปกรณ์ของคุณด้วยว่า เพลงที่เคยซื้อไปแล้ว เพลงไหนยังไม่ได้ถูกดาวน์โหลดไปบ้าง และจะทำการดาวน์โหลดลงบนอุปกรณ์ iOS ที่คุณกำลังใช้อยู่ทันที โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดเพลงทุกเพลงครับ
สำหรับ
บริการ iCloud ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะใช้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อม iOS 5 ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ยกเว้น iTunes in the Cloud ที่จะมาบน iOS 4.3 Beta ในเร็วๆ นี้ครับรายละเอียดเพิ่มเติม :
gsmarena.com Update : 09/06/2011
Apple
iTunes
Apple TV
iCloud