iMac M4 รุ่นใหม่ แรงขึ้นแค่ไหน คุ้มไหมที่จะซื้อตอนนี้?

Apple เพิ่งจะเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac ชุดใหญ่ส่งท้ายเดือนตุลาคม โดยมากันทั้ง iMac, MacBook และ Mac Mini ซึ่งคราวนี้อัปเกรดความแรงด้วยชิปเซ็ตตระกูล M4 ทั้งหมด พร้อมกับปรับปรุงคุณสมบัติด้านอื่น ๆ ให้ดียิ่งขึ้น สำหรับรุ่นที่ได้รับความสนใจจากมนุษย์ออฟฟิศมากที่สุดคงหนีไม่พ้นรุ่นเดสก์ท็อปอย่าง iMac แต่อัปเกรดครั้งนี้ดีขึ้นอย่างไร แล้วคุ้มไหมที่จะซื้อ เราไปหาคำตอบกันครับ

M4 แรงกว่า M3 ยังไง?

ชิปเซ็ต M4 เป็นชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดของ Apple ที่เพิ่งจะเปิดตัวในปีนี้ ถึงแม้จะยังคงผลิตด้วยกระบวนการระดับ 3 นาโนเมตรเหมือนกับชิปรุ่น M3 แต่เป็นกระบวนการผลิต N3E (enhanced) ที่ทันสมัยกว่า

การอัปเกรดที่เห็นได้ชัดคือหน่วยประมวลผล CPU และ GPU ที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 10-core (M3 มีสูงสุด 8-core) ทำให้พลังการประมวลผลดิบสูงขึ้นอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันยังมีหน่วยประมวลผล Neural Engine ที่ทำงานได้เร็วขึ้นถึง 111% ซึ่งหมายถึงการทำงานร่วมกับฟีเจอร์ AI ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับ Apple Intelligence ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ macOS Sequoia

หากวัดกันที่ค่า benchmark ชิปเซ็ต iMac M4 จะมีพลังการประมวลผลสูงขึ้นประมาณ 20-30% เทียบกับ iMac M3 หากเป็นการใช้งานเบา ๆ ทั่วไปอย่างการดูหนัง ฟังเพลง ทำงานเอกสาร ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณทำงานกราฟิก หรือตัดต่อวิดีโอ คุณจะสัมผัสถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนแน่นอน เพราะชิปเซ็ตที่แรงขึ้น หมายถึงการเรนเดอร์งานกราฟิกที่เร็วขึ้น, การทำงานแบบ multi-tasking ที่ดีขึ้น และการตัดต่อวิดีโอที่ราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตัดต่องานที่มีความละเอียดระดับ 4K

การอัปเกรดอื่น ๆ

นอกเหนือจากชิปเซ็ตที่แรงขึ้นแล้ว iMac M4 ยังมีการอัปเกรดอื่น ๆ อีกหลายอย่าง โดยมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้

• RAM เยอะขึ้น
  • iMac M4 มีตัวเลือก RAM เริ่มต้น 16GB และเพิ่มได้สูงสุด 32GB ในขณะที่รุ่นที่แล้วมี RAM เริ่มต้น 8GB และสุดที่ 24GB เท่านั้น ความจุ RAM ที่เพิ่มขึ้นนี้ก็เพื่อให้รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Intelligence ได้อย่างราบรื่น แต่ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีขึ้นด้วย

• จอกระจก Nano-texture
  • ห้องทำงานใครมีปัญหาแสงสะท้อนเข้าหน้าจอ สามารถเลือกติดตั้งจอกระจกตัดแสงสะท้อน Nano-texture ได้ตอนสั่งซื้อ โดยเพิ่มเงินอีก 7,000 บาท

• พอร์ต Thunderbolt 4
  • Thunderbolt 4 เป็นพอร์ต USB-C ที่มีอัตราการส่งข้อมูลสูง และยังใช้ต่อกับจอมอนิเตอร์ตัวอื่นได้ หากเป็น iMac M3 จะมีพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 พอร์ต แต่สำหรับ iMac M4 พอร์ตทั้ง 4 ช่องด้านหลังจะเป็น Thunderbolt 4 ทั้งหมด ทำให้ทุกพอร์ตสามารถดึงข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถต่อจอมอนิเตอร์ภายนอกความละเอียด 6K ได้สูงสุดถึง 2 จอ

• Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3
  • iMac M4 ยังอัปเกรดระบบการเชื่อมต่อเป็น Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 สำหรับ Wi-Fi 6E อาจจะยังไม่สำคัญเท่าไหร่ในตอนนี้ เพราะในบ้านเรายังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่ แต่ Bluetooth 5.3 จะข่วยให้เมาส์, คีย์บอร์ด และอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ iMac มีดีเลย์น้อยลง และเสถียรยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าใครเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth หลาย ๆ ตัวอยู่แล้วก็จะยิ่งเห็นผลชัดขึ้น

iMac M4 ขายในไทยวันไหน?

ปัจจุบัน iMac M4 ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ แต่สามารถเข้าไปดูสเปกและราคาบนเว็บไซต์ของ Apple ได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาท ซึ่งยังไม่รวมตัวเลือกอัปเกรดหรือส่วนเสริมใด ๆ

คุ้มไหมถ้าจะซื้อ? 

หากคุณอยากได้ Mac มาใช้งานเพื่อความบันเทิงทั่วไป iMac M4 ตอบโจทย์ได้แบบเหลือ ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครซื้อ iMac มาเพื่อดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมอยู่แล้ว แต่จะซื้อมาเพื่อทำงานกันเสียมากกว่า

ดังนั้น หากถามว่าการอัปเกรดมาใช้ iMac M4 นั้นคุ้มหรือไม่ สิ่งที่ต้องพิจารณาไม่ใช่ว่าคุณกำลังใช้ Mac รุ่นไหนอยู่ แต่เป็น “คุณรู้สึกว่า Mac ที่ใช้อยู่เร็วพอสำหรับงานที่คุณทำหรือเปล่า” เพราะแต่ละคนก็ใช้ Mac ทำงานที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะแค่ทำงานเอกสาร บางคนอาจจะตัดต่อคอนเทนต์ลง TikTok บางคนอาจจะตัดต่อวิดีโอโปรดักชั่นใหญ่ หรือบางคนอาจจะทำงานกราฟิก 2D/3D ซึ่งงานแต่ละแบบก็ต้องการพลังการประมวลผลที่ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น หากงานที่คุณทำไม่ได้ใช้ทรัพยากรเครื่องหนักมาก และรู้สึกว่ายังทำงานได้เร็วอยู่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเป็น iMac M4 

แต่ในทางกลับกัน ต่อให้คุณใช้ iMac M3 อยู่ แต่ถ้ารู้สึกว่ามันยังทำงานไม่ทันใจ ก็ควรอัปเกรดมาเป็น iMac M4 เพราะอย่างน้อยที่สุด การเรนเดอร์งานที่เร็วขึ้นจะทำให้คุณทำงานได้มากขึ้นในเวลาเท่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

Update : 31/10/2024