หลังจากปล่อยให้นักพัฒนาทดสอบเวอร์ชัน Beta มานานร่วมเดือน ล่าสุด Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 13.2 และ iPadOS 13.2 สำหรับ iPhone และ iPad อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งหลัก ๆ ก็คือ ได้เพิ่มฟีเจอร์ Deep Fusion สำหรับการใช้งานกล้องถ่ายรูปบน iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max รวมถึงรองรับ AirPods Pro หูฟังไร้สายรุ่นใหม่, เพิ่ม Emoji ใหม่กว่า 70 แบบ และอื่น ๆ
สำหรับฟีเจอร์ใหม่บน iOS 13.2 มีรายละเอียดดังนี้
กล้องถ่ายรูป
- ฟีเจอร์ Deep Fusion สำหรับ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะใช้ A13 Bionic Neural Engine ในการจับภาพหลายภาพที่การเปิดรับแสงหลายระดับ ทำการวิเคราะห์แบบพิกเซลต่อพิกเซล และรวมภาพจากส่วนที่มีคุณภาพสูงสุดเข้าด้วยกัน ทำให้ได้รูปภาพที่มีพื้นผิวและรายละเอียดที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีนอยซ์ที่ลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฉากที่มีแสงปานกลางจนถึงน้อย
- ความสามารถในการเปลี่ยนความละเอียดวิดีโอโดยตรงจากแอพกล้องสำหรับ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
Emoji
- อิโมจิใหม่หรืออิโมจิที่มีการอัพเดทกว่า 70 รายการ ซึ่งรวมถึงสัตว์ อาหาร กิจกรรม อิโมจิการช่วยการเข้าถึงใหม่ อิโมจิที่ไม่แบ่งแยกเพศ และการเลือกโทนผิวสำหรับอิโมจิคู่รัก
การรองรับ AirPods
- การแจ้งเตือนข้อความแบบเสียงโดยใช้ Siri เพื่ออ่านออกเสียงข้อความเข้าของคุณไปยัง AirPods
- รองรับ AirPods Pro
Home App
- วิดีโอ HomeKit ที่ปลอดภัย (HomeKit Secure Video) ช่วยให้คุณสามารถบันทึก จัดเก็บ และดูวิดีโอที่เข้ารหัสได้แบบส่วนตัวจากกล้องรักษาความปลอดภัยของคุณและมีคุณสมบัติการตรวจจับผู้คน สัตว์ และยานพาหนะ
- เราท์เตอร์ที่ใช้ได้กับ HomeKit ช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่อุปกรณ์เสริมสำหรับ HomeKit ของคุณสื่อสารด้วยผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือในบ้านของคุณ
Siri
- การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับควบคุมว่าต้องการให้ช่วยปรับปรุง Siri และการป้อนตามคำบอกหรือไม่โดยการอนุญาตให้ Apple เก็บเสียงของการโต้ตอบกับ Siri และการป้อนตามคำบอก
- ตัวเลือกในการลบประวัติของ Siri และการป้อนตามคำบอกของคุณออกจากการตั้งค่า Siri
รายการอัปเดตอื่น ๆ
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถป้อนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติในแอพของบุคคลหรือบริษัทอื่นได้
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถแสดงแป้นพิมพ์เมื่อใช้การค้นหาได้
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้การปัดเพื่อไปยังหน้าจอโฮมใช้ไม่ได้บน iPhone X ขึ้นไป
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้แอพข้อความส่งเพียงการแจ้งเตือนรายการเดียวเมื่อตัวเลือกในการเตือนซ้ำถูกเปิดใช้งาน
- จัดการปัญหาที่อาจทำให้แอปฯ ข้อความแสดงเบอร์โทรศัพท์แทนชื่อผู้ติดต่อ
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้แอปฯ รายชื่อเปิดใช้รายชื่อที่เปิดก่อนหน้าแทนรายชื่อติดต่อ
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถบันทึกคำอธิบายประกอบการทำเครื่องหมายได้
- แก้ไขปัญหาที่ทำให้โน้ตที่บันทึกไว้หายไปชั่วคราว
- แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ดำเนินการสำรองข้อมูล iCloud ไม่สำเร็จหลังจากแตะสำรองข้อมูลตอนนี้ในการตั้งค่า
- ปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อใช้ AssistiveTouch ในการเปิดใช้งานแถบสลับแอปฯ
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13.2 และ iPadOS 13.2
- iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone XS, iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8, iPhone 8 Plus
- iPhone 7, iPhone 7 Plus
- iPhone 6s, iPhone 6s Plus
- iPhone SE
- iPad รุ่นที่ 7
- iPad รุ่นที่ 6
- iPad รุ่นที่ 5
- iPad Air รุ่นที่ 3
- iPad Air รุ่นที่ 2
- iPad mini รุ่นที่ 5
- iPad mini รุ่นที่ 4
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
- iPod Touch รุ่นที่ 7
โดยผู้ใช้ iPhone และ iPad ที่มีรายชื่อข้างต้น สามารถอัปเดต iOS 13.2 ได้ผ่านทาง OTA ด้วยการเข้าไปที่ Settings > General > Software Update
-------------------------------------
ที่มา : 9to5mac.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 29/10/2019
iOS 13.2