[28-ตุลาคม-2556] ในปีนี้ Apple ยังคงเปิดตัว iPad พร้อมกัน 2 รุ่นเหมือนเช่นเคย ซึ่งได้แก่ iPad Air หรือ iPad 5 กับ iPad mini 2 รุ่นปรับปรุง ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina display แล้ว โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่า มีสเปคที่คล้ายกันมาก จนทำให้ผู้อ่านหลายท่าน เลือกไม่ถูกว่า จะซื้อรุ่นไหนดี เนื่องจากน่าใช้ทั้ง 2 รุ่นนั่นเอง วันนี้ ทีมงาน techmoblog จะมาเปรียบเทียบ สเปค iPad Air (ipad 5) vs iPad mini 2 ให้ชมกัน เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจ iPad ทั้ง 2 รุ่นนี้ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เปรียบเทียบสเปค iPad Air (iPad 5) vs iPad 4 vs iPad 2
ยี่ห้อ - รุ่น |
iPad mini 2
|
iPad Air (iPad 5)
|
ขนาดตัวเครื่อง |
200 x 134.7 x 7.5 มม.
|
240 x 169.5 x 7.5 มม.
|
น้ำหนัก (Wi-Fi) |
331 กรัม
|
469 กรัม
|
ขนาดหน้าจอ |
7.9 นิ้ว
|
9.7 นิ้ว
|
ความละเอียดหน้าจอ |
2048 x 1536 พิกเซล
|
2048 x 1536 พิกเซล
|
เทคโนโลยีบนหน้าจอ |
Retina display
|
Retina display
|
ชิปเซ็ต |
Apple A7 Processor + M7 coprocessor
|
Apple A7 Processor + M7 coprocessor
|
พิกเซลต่อนิ้ว |
326 ppi
|
264 ppi
|
GPU |
PowerVR G6430
|
PowerVR G6430
|
RAM |
1GB
|
1GB
|
หน่วยความจำภายใน |
16, 32, 64 หรือ 128GB
|
16, 32, 64 หรือ 128GB
|
รองรับ microSD card |
ไม่รองรับ
|
ไม่รองรับ
|
ระบบปฏิบัติการ (ล่าสุด) |
iOS 7
|
iOS 7
|
กล้องด้านหน้า |
ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
|
ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
|
กล้องด้านหลัง |
ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
|
ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
|
ไฟแฟลช |
ไม่รองรับ
|
ไม่รองรับ
|
เครือข่าย 2G |
850/900/1800/1900 MHz
|
850/900/1800/1900 MHz
|
เครือข่าย 3G |
850/900/1900/2100 MHz
|
850/900/1900/2100 MHz
|
เครือข่าย 4G |
รองรับ
|
รองรับ
|
เครือข่าย CDMA |
รองรับ
|
รองรับ
|
NFC |
ไม่รองรับ
|
ไม่รองรับ
|
Wi-Fi |
Wi-Fi (802.11a/b/g/n); dual channel (2.4GHz and 5GHz) และ MIMO
|
Wi-Fi (802.11a/b/g/n); dual channel (2.4GHz and 5GHz) และ MIMO
|
Bluetooth |
เวอร์ชัน 4.0
|
เวอร์ชัน 4.0
|
บันทึกวิดีโอ |
1080p
|
1080p
|
แบตเตอรี่ |
23.8 Whr
|
32.4 Whr
|
จากตารางด้านบน จะเห็นว่า iPad Air (iPad 5) กลายเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากได้รับการออกแบบใหม่ ให้คล้ายกับ iPad mini ครับ ซึ่งดีไซน์ใหม่นี้เอง ทำให้ iPad Air บางลง และน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้ามากทีเดียว โดยน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 469 กรัม (สำหรับรุ่น Wi-Fi) เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับ iPad mini 2 แล้ว ถือว่า หนักกว่าไม่มากครับ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่กว่า ที่ 9.7 นิ้วด้วย
แต่สำหรับความน่าสนใจของ iPad mini 2 นั้น อยู่ที่ หน้าจอเป็นแบบ Retina display แล้ว ความละเอียดอยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล เท่ากับ iPad Air ครับ และที่สำคัญ พิกเซลต่อนิ้ว หรือ PPI นั้น ละเอียดกว่า iPad Air ด้วย เนื่องจากหน้าจอที่มีขนาดเล็กกว่านั่นเอง
มากันที่เรื่องของ ซีพียู ครับ ทั้ง iPad Air และ iPad mini 2 ใช้สเปคเดียวกัน นั่นก็คือ ชิป Apple A7 แบบ 64-bit และรองรับชิป M7 coprocessor ด้วย ซึ่งชิปประมวลผลนี้ เป็นชิปเดียวกันกับที่ใช้บน iPhone 5S ครับ ฉะนั้น เรื่องความแรงและเร็ว หายห่วงได้เลย เพราะ Apple การันตีเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
สำหรับความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้ อีก 1 จุดก็คือ ขนาดแบตเตอรี่ครับ โดย iPad mini 2 แบตเตอรี่ความจุอยู่ที่ 23.8 Whr ส่วน iPad Air แบตเตอรี่ใหญ่กว่า อยู่ที่ 32.4 Whr ซึ่งทั้ง 2 รุ่น รองรับการใช้งานที่ 10 ชั่วโมงเท่ากัน
เลือกอะไรดี ระหว่าง iPad Air และ iPad mini 2
เป็นคำถามที่ตอบได้ยากครับ ว่า iPad Air และ iPad mini 2 นั้น จะเลือกรุ่นไหนดี เพราะทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้ใช้เป็นหลักด้วย แต่สำหรับ 2 รุ่นนี้ ถือว่า สามารถตัด choice ออกได้มาก เนื่องจากสเปคเหมือนกับแทบจะทุกจุด ต่างกันตรงที่ ขนาดหน้าจอ น้ำหนัก และชนาดแบตเตอรี่ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการเลือกซื้อแต่อย่างใดครับ ถ้าหากอยากได้ iPad จอใหญ่ๆ ดูหนังแบบชัดๆ ก็ต้องเป็น iPad Air (ipad 5) เนื่องจากหน้าจอใหญ่กว่า แต่ถ้าจะต้องพกพาไปข้างนอกบ่อยๆ iPad mini 2 จะคล่องตัวมากกว่า
ส่วน ราคา ก็เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อเช่นกัน ซึ่ง iPad mini 2 เริ่มต้นที่ $399 สำหรับรุ่น Wi-Fi 16GB ส่วน iPad Air เริ่มต้นที่ $499 สำหรับรุ่น Wi-Fi 16GB ต่างกันแค่ราวๆ 3,200 บาท ครับ
---------------------------------------
ข้อมูลโดย : techmoblog.com
Update : 02/09/2020
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |