เรียกได้ว่า เป็นฟีเจอร์ที่สาวก iPhone ต่างรอคอยมานานหลายปีเลยก็ว่าได้ เมื่อ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ไอโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ก็รองรับหน้าจอ 120Hz เป็นที่เรียบร้อยตามคาดแล้ว เรียกได้ว่า การมาของ iPhone 13 Pro ในปีนี้ มีแต่คำว่า โปรสมชื่อ เหมือนอย่างที่ Tim Cook ได้กล่าวไว้ในงานเปิดตัวว่าเป็น the most Pro iPhone ever นั่นเอง
หน้าจอ 120Hz ProMotion บน iPhone 13 Pro ดีอย่างไร ?
iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่นนั้น ใช้จอภาพแบบ Super Retina XDR เหมือนกัน แต่สิ่งที่รุ่น Pro มีต่างออกไป นั่นก็คือ เป็นจอภาพที่รองรับเทคโนโลยี ProMotion ที่ Apple ได้เคยเปิดตัวบน iPad Pro มาก่อน และเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กับ iPhone ประเดิมด้วย iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max
ซึ่งหน้าจอแบบ 120Hz ProMotion นี้ จะเป็นแบบ Adaptive Refresh Rate ที่มีค่าระหว่าง 10-120Hz ที่ปรับเองอัตโนมัติขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่ใช้งาน โดยการปรับค่าสูงสุด จะรู้สึกได้เลยว่า ภาพบนหน้าจอจอจะเคลื่อนไหวได้เนียนและสบายตามาก เหมาะกับการใช้งานเล่นเกม แต่ถ้าหากเป็นคอนเทนต์ปกติ ระบบจะปรับค่า Refresh Rate ให้ต่ำลง ส่วนหนึ่งก็เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ การที่จะได้ภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและสบายตา นอกจากเทคโนโลยี 120Hz ProMotion แล้ว จำเป็นจะต้องอาศัยปัจจัยอย่างอื่นควบคู่กันไปด้วย นั่นก็คือ ประสิทธิภาพของชิป Apple A15 Bionic ที่มีทั้งคอร์ประสิทธิภาพและคอร์ประหยัดพลังงาน รวมถึงชิปกราฟิก GPU แบบ 5‑core
หน้าจอ 120Hz ProMotion กินแบตเตอรี่แค่ไหน ?
อย่างที่หลาย ๆ ท่านทราบกันว่า หน้าจอแบบ 120Hz นี้ จะค่อนข้างสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่พอสมควร ซึ่ง Apple เอง ก็เล็งเห็นปัญหาในจุดนี้ จึงได้เพิ่มขนาดความจุแบตเตอรี่ทั้งบน iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max โดยใช้งานได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมงบน iPhone 13 Pro และ 2.5 ชั่วโมงบน iPhone 13 Pro Max
ทั้งนี้ หน้าจอ 120Hz ไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วที่ระดับนั้นตลอดเวลา เพราะจะสิ้นเปลืองแบตเตอรี่โดยไม่จำเป็น ซึ่งวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้ประหยัดพลังงานได้ ก็คือ การตั้งอัตราเฟรมแบบมาตรฐานสำหรับคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ เช่น 10 fps สำหรับหนังสือ และ 120 fps สำหรับเกม
แต่สำหรับหน้าจอ ProMotion ไม่จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าใด ๆ เพราะอัตรา Refresh จะเปลี่ยนไปตามคอนเทนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นบนหน้าจอ เช่น หากอัตราเฟรมในเกมตกลงไปอยู่ที่ 30 fps แล้ว ProMotion ก็จะลดลงไปอยู่ที่ 30 fps ด้วย หรือหากกำลังดูวิดีโอที่ถ่ายทำมาที่ 24 fps เครื่องก็จะเล่นที่ 24 fps ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยในการประหยัดพลังงานนั่นเอง
-------------------------------------
ที่มา : apple.com
เรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 15/09/2021
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |