ผลวิจัยเผย iOS เกิดปัญหา app crash มากกว่า Android เกือบเท่าตัวพบ iPhone 6 เป็นรุ่นที่เกิดปัญหามากที่สุด!

เป็นที่ทราบกันดีว่าระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนบนท้องตลาดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้น คงหนีไม่พ้น iOS และ Android อย่างแน่นอน เนื่องจากมีสัดส่วนผู้ใช้งานที่มากขึ้น ซึ่งแต่ละระบบปฏิบัติการก็มีฟีเจอร์เด่น และรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ดีล่าสุดมีผลวิจัยการทำงานของสมาร์ทโฟนเปิดเผยว่า ระบบปฏิบัติการ iOS นั้นเกิดปัญหาทางด้านด้านประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า Android ในหลายด้านในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

โดยผลทดสอบดังกล่าวมาจาก Blancco Technology Group ที่ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากสมาร์ทโฟนหลายล้านเครื่องในช่วงไตรมาสที่สอง ปี 2016 ซึ่งจุดที่น่าสนใจอยู่ที่อุปกรณ์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS นั้นมีค่า Failure Rate รวมทั้งหมด 58% ซึ่งทางบริษัทระบุว่าค่า Failure Rate ในที่นี้คืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟน เช่น ปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ปัญหาเครื่องรีสตาร์ทเองอัตโนมัติ และพบว่า iPhone 6 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่พบปัญหาบ่อยที่สุดด้วยสัดส่วน 29% รองลงมาคือ iPhone 6S ด้วยค่าเฉลี่ย 23% ขณะที่ iPhone 5s ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วพบปัญหาเพียง 8% เท่านั้น

ในขณะที่ทางฝั่ง Android ตามรายงานระบุว่าพบปัญหา Failure Rate ทั้งหมด 35% โดย Samsung เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่พบปัญหาบ่อยที่สุดด้วยสัดส่วน 26% รองลงมาคือ Lenovo ซึ่งพบปัญหาจากรุ่น Vibe K5 Plus, Vibe P1m และ K3 Note ส่วนรุ่นที่พบปัญหามากที่สุดได้แก่ Le 1S จากแบรนด์สมาร์ทโฟน LeTV ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ว่ามือถือแต่ละรุ่นที่ติดอันดับนั้น ส่วนมากจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางไม่ใช่รุ่นเรือธงเพียงแต่อย่างใด อีกทั้งถึงแม้ว่า Samsung จะติดอันดับแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เกิดปัญหามากที่สุด แต่กลับไม่มีรายชื่อของสมาร์ทโฟน Samsung ติด 5 อันดับแรก สำหรับปัญหาที่เกิดบ่อยสุดนั้นได้แก่ ปัญหาด้านกล้อง ปัญหาชาร์จแบตเตอรี่ช้า  รวมไปถึงปัญหาด้านหน้าจอ ลำโพงและไมโครโฟน

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่าระบบปฏิบัติการ iOS เกิดอาการ app crash หรืออาการแอปพลิเคชันหยุดทำงานด้วยสัดส่วน 50% มากกว่าระบบปฏิบัติการ Android กว่าหนึ่งเท่าตัว สำหรับแอปพลิเคชัน 3 อันดับแรกที่เกิดปัญหา app crash บน iOS มากที่สุดนั้นได้แก่ Snapchat (17%), Instagram (14%) และ Facebook (9%) ขณะที่แอปพลิเคชันที่พบปัญหา app crash มากที่สุดบนระบบปฏิบัติการ Android คือ Google Play Services (12%) และ Google Contacts Synce (5%) ซึ่งจุดน่าสนใจอยู่ที่แอปพลิเคชันที่ติดอันดับส่วนมากเป็นของ Google ทั้งสิ้น 

ทั้งนี้ ปัญหาที่พบบนอุปกรณ์ iOS นั้น ทางรายงานระบุว่าเนื่องมาจากการอัปเดต iOS เวอร์ชัน 9.3.2 ที่ทางผู้ใช้งานหลายรายพบปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi รวมไปถึงสัญญาณ Wi-Fi ที่อ่อนผิดปกติ ซึ่งทาง Apple ได้ทราบปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดีและได้ชี้แจงไว้ใน Release Note ของ iOS เวอร์ชัน 9.3 ว่า Wi-Fi เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในจุดๆ เดียว จากอุปกรณ์หลายเครื่องจะทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ขณะที่ทางฝั่ง Android ปัญหาเกิดมาจากการอัปเดตเป็น Android Marshmallow 6.0 ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi เช่นเดียวกัน รวมไปถึงอาการแอปเด้ง และอาการบูทวนด้วย

--------------------------------------- 
ที่มา : bgr, blancco technology group
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 26/08/2016

Android iOS