หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

เจาะลึกจอไร้ขอบ iPhone X ในอัตราส่วนใหม่ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร แถบเซ็นเซอร์ด้านบนส่งผลแค่ไหนต่อการดูวิดีโอ พบคำตอบได้ที่นี่

หลังจากที่ iPhone X เปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเชื่อว่าเรือธงไร้ขอบรุ่นนี้คงจะเข้าไปอยู่ในใจใครหลายๆ คนเรียบร้อยแล้ว ทั้งดีไซน์ภายนอกที่ดึงดูดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ตอนนี้ iPhone X ถูกจับตามองอย่างมากตั้งแต่ยังไม่เปิดพรีออร์เดอร์ สำหรับวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้กันมากขึ้น ผ่านการเจาะลึกข้อมูลหน้าจอแสดงผลแบบใหม่และไขคำตอบในสิ่งที่หลายคนสงสัยกันอยู่ครับ

 

ขนาดที่แท้จริงของจอ iPhone X

ความโดดเด่นของ iPhone X ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือดีไซน์หน้าจอไร้ขอบขนาด 5.8 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่มากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด แต่จริงๆ แล้ว จอ 5.8 นิ้วของ iPhone X อาจไม่เหมือนกับจอ 5.8 นิ้วที่เรารู้จัก และอาจไม่ได้ "ใหญ่" อย่างที่เราคิด เพราะ iPhone X มีอัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ต่างจากสมาร์ทโฟนปกติที่มีจอ 16:9 ทำให้จอของ iPhone X เพรียวยาวกว่า การวัดขนาดหน้าจอของสมาร์ทโฟน จะวัดจากความยาวของเส้นทแยงมุม ด้วยความเพรียวยาวนี้เอง จะทำให้เส้นทแยงมุมยาวกว่าปกติ เพราะฉะนั้นหากเราอยากรู้ว่า iPhone X จอใหญ่แค่ไหน เราต้องแปลงสัดส่วน 19.5:9 เป็น 16:9 เสียก่อน เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีแถบเซ็นเซอร์ด้านบนหน้าจอที่กินพื้นที่เข้ามาอีก การจะหา "ขนาดที่แท้จริง" ของจอ iPhone X จึงยุ่งยากยิ่งขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี Apple พยายามที่จะเก็บขอบจอบริเวณแถบเซ็นเซอร์เอาไว้เพื่อแสดงสถานะต่างๆ โดยบอกนักพัฒนาแอปพลิเคชันให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ตรงนี้ หากเราตัดส่วนนี้ออก หน้าจอของ iPhone X จะมีอัตราส่วน 18.5:9 เท่ากับ Samsung Galaxy S8 พอดี เราจึงเอาข้อมูลของ Galaxy S8 มาอ้างอิงได้ ดังนี้ :

จะเห็นได้ว่า พื้นที่ของหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ในอัตราส่วน 18.5:9 นั้น น้อยกว่าพื้นที่ของจอ 16:9 ดังนั้นหน้าจอ iPhone X จึงเล็กกว่าที่ควรจะเป็นนิดหน่อยครับ


การแสดงผลวิดีโอ

สิ่งที่หลายคนสงสัยกันก็คือหน้าจอยาวๆ กับแถบเซ็นเซอร์ที่ยื่นเข้ามานั้นจะส่งผลกับการดูวิดีโออย่างไร ดูจากดีไซน์แล้ว หน้าจอของ iPhone X คงออกแบบมาให้รองรับวิดีโอคอนเทนต์ขนาด 2:1 ซึ่งภาพยนตร์และซีรีส์สมัยใหม่นิยมใช้กัน แต่ถึงกระนั้น คอนเทนต์แบบ 2:1 ยังมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่วิดีโอบนโลกนี้รวมถึงวิดีโอบน YouTube จะอยู่ในอัตราส่วน 16:9 ดังนั้นเมื่อมันมาอยู่บนหน้าจอของ iPhone X มันจะมีชะตากรรมเหมือนวิดีโอบน Galaxy S8 คือ เหลือขอบดำๆ ไว้ด้านข้าง หรือไม่ก็ขยายจนล้นขอบ ตามที่เห็นด้านล่าง

จากข้อมูลล่าสุด iPhone X จะมีค่า default การแสดงผลวิดีโอ 16:9 แบบเหลือขอบข้าง เมื่อแตะที่จอ 2 ครั้ง จะขยายภาพจนเต็มจอโดยล้นขอบออกไปเล็กน้อย พร้อมกับมีแถบเซ็นเซอร์กินเข้ามาด้วย สรุปแล้วก็คือ ถ้าเลือกให้แสดงผลแบบคงอัตราส่วนเดิมไว้ ก็จะเหลือขอบดำข้างๆ ถ้าขยายเต็มขอบภาพก็จะล้นออกไป และถูกแถบเซ็นเซอร์บัง ซึ่งอยู่ที่ผู้ใช้แล้วว่าจะเลือกแบบไหน เพราะได้อย่างเสียอย่างทั้งคู่ครับ

 

การท่องเว็บและโซเชียลมีเดีย


เทียบการแสดงผลแนวตั้งของ iPhone X และ iPhone 8 Plus

ปกติแล้วเวลาเราเล่นโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram และการท่องเว็บ เราจะทำในแนวตั้ง ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีของหน้าจอที่เพรียวยาวขึ้นของ iPhone X เพราะทำให้มีพื้นที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับจอ 16:9 และไม่ต้องเลื่อนจอบ่อย อีกทั้งเวลาเรียกคีย์บอร์ดขึ้นมาก็ไม่กินพื้นที่หน้าจอเท่าแบบ 16:9 ด้วย

 

การแสดงผลของแอปพลิเคชัน

อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอยากรู้คือแอปพลิเคชันทั้งหลายจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบน iPhone X อย่างที่บอกไปแล้วในตอนต้นว่า Apple พยายามให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันหลีกเลี่ยงพื้นที่บริเวณแถบเซ็นเซอร์ด้านบนและพื้นที่ว่างข้างๆ นอกจากนี้ Apple ยังแนะให้นักพัฒนาระวังมุมโค้งทั้ง 4 ด้านและแถบ home แบบใหม่ด้านล่างด้วย ซึ่งจะมี layout ดังนี้ :

แอปพลิเคชันแบบ full screen จะต้องเว้นพื้นที่ตรงแถบเซ็นเซอร์ และแถบโฮมแบบใหม่ด้านล่างไว้ด้วย

เนื่องจาก iPhone X และ iPhone รุ่นอื่นๆ มีอัตราส่วนหน้าจอต่างกัน ทำให้ภาพอาร์ตเวิร์กของแอปพลิเคชันอาจถูก crop หรือแสดงผลไม่เต็ม นักพัฒนาจึงต้องระวังจุดนี้ด้วย

 

สรุป

อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่บน iPhone X จะมีปัญหาด้านการแสดงผลแบบเต็มจอสำหรับคอนเทนต์บางประเภทเช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S8 และ Note 8 แต่อาจจะดูยุ่งยากกว่าเพราะมีแถบเซ็นเซอร์ด้านบนที่ยื่นเข้ามา อาจจะดูวิดีโอขนาด 16:9 ลำบาก แต่อ่านคอนเท็นต์และท่องเว็บได้ดีกว่า สำหรับแอปพลิเคชันก็ต้องขึ้นอยู่กับนักพัฒนาว่าจะจัดการกับความยุ่งยากนี้อย่างไร

น่าสังเกตว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S8, Note 8, LG V30 รวมถึง iPhone X ต่างหันมาทำหน้าจอเพรียวยาวอัตราส่วนประมาณ 2:1 กันหมดแล้ว นี่อาจจะเป็นเทรนด์ใหม่ของสมาร์ทโฟนในปี 2018 ก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า นักพัฒนาแอปพลิเคชันและผู้ใช้จะยอมรับเทรนด์ใหม่นี้หรือไม่ครับ

 

---------------------------------------
ที่มา : GSM Arena, Phone Arena, Apple

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 16/09/2017

iPhone X





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy