หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[บทความ] จะเลือกซื้อ iphone 5 รุ่นไหนดี 16 GB 32 GB หรือ 64 GB รุ่นไหนคุ้มค่ากว่ากัน ? พร้อมข้อมูล การใช้งานในแต่ละด้าน ว่าจะเปลืองพื้นที่มากเท่าไหร่


[3-พฤศจิกายน-2555] หลายท่านอาจจะกำลังคิดไม่ตกว่า เราจะซื้อ iPhone 5 ความจุเท่าไหร่ดี แน่นอนครับว่า iPhone นั้น ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เราไม่สามารถ เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ เราจึงต้องแน่ใจว่า ความจุที่เราจะซื้อนั้นจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงๆ บางท่านอาจจะกลัวว่าจะไม่พอใช้ จึงตัดสินใจซื้อเผื่อไว้โดยเลือกความจุ 32GB หรือ 64GB มา แต่บางครั้ง เราอาจจะใช้ได้ไม่คุ้มกับความจุที่มีก็เป็นได้

และเนื่องจาก ในแต่ละรุ่นนั้นมีราคาที่ห่างกันอยู่ประมาณ 3,500 บาท การเลือกซื้อในความจุที่เหมาะสม ก็อาจจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า หรือนำเอาส่วนต่างนั้นไปซื้ออุปกรณ์เสริมได้อีกด้วย โดยในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Techmoblog ได้รวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ ในการเลือกซื้อ โดยจะแยกเป็นส่วนๆให้เห็นว่า การใช้งานแต่ละแบบนั้น จำเป็นจะต้องใช้ความจุประมาณเท่าไหร่ถึงจะพอดี ซึ่งก่อนอื่นนั้น เราจะขอแยกการใช้งานออกเป็นหลายๆ ส่วน เพื่อง่ายต่อการเข้าใจครับ เราลองมาดูกันครับว่า จริงๆ แล้ว คุณจะใช้พื้นที่ของตัวเครื่อง ด้วยการใช้งานแบบใดได้บ้าง และแต่ละแบบจะใช้มากน้อยแค่ไหน

หมายเหตุ : ข้อมูลที่ใช้ประกอบบทความ เป็นข้อมูลโดยเฉลี่ยของแต่ละการใช้งาน ความจุที่คำนวณ ได้มีการหักความจุออกไปประมาณ 2.5 GB สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS เรียบร้อยแล้ว การใช้งานจริง อาจใช้งานได้มาก หรือน้อยกว่า ค่าเฉลี่ยที่เห็นในบทความนี้

ใช้งานแอพพลิเคชั่น ขนาดเล็ก (ความจุที่ใช้ : น้อย)


อะไรคือแอพพลิเคชั่นขนาดเล็ก ? สำหรับแอพพลิเคชั่นขนาดเล็กนั้น ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง ก็คงจะเป็น แอพพลิเคชั่นประเภทที่เหมาะสำหรับขาแชท อย่าง LINE, WhatsApp, Instagram, YouTube หรือแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย รวมไปถึง แอพพลิเคชั่นสำหรับดูทีวี ซีรี่ย์ แบบออนไลน์ ซึ่งจริงๆ แล้ว แอพพลิเคชั่นเด่นๆ ที่เป็นกระแสในบ้านเราส่วนใหญ่ จะเป็นแอพพลิเคชั่นขนาดเล็กแทบทั้งสิ้น โดยแอพพลิเคชั่นขนาดเล็กนั้น จะใช้งานพื้นที่ประมาณ 5 - 50 MB ยกตัวอย่าง แอพพลิเคชั่น WhatApps มีขนาดอยู่ที่ประมาณ 12 MB Line ก็มีขนาดแค่เพียง 25 MB เท่านั้น และแน่นอนครับว่าจากค่าเฉลี่ยนั้น ในรุ่น 16 GB ก็สามารถลงแอพพลิเคชั่นได้ ถึง 450 แอพพลิเคชั่นเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์ครับ

ค่าเฉลี่ย : 30 MB ต่อ 1 แอพพลิเคชั่น

ความจุ 16 GB สามารถใช้งาน แอพฯ ขนาดเล็ก ได้ประมาณ : 450 แอพพลิเคชั่น
ความจุ 32 GB สามารถใช้งาน แอพฯ ขนาดเล็ก ได้ประมาณ : 950 แอพพลิเคชั่น
ความจุ 64 GB สามารถใช้งาน แอพฯ ขนาดเล็ก ได้ประมาณ : 2,050 แอพพลิเคชั่น

ใช้งานแอพพลิเคชั่น ขนาดใหญ่ (ความจุที่ใช้ : ปานกลาง)

 



แอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่นั้น โดยมากแล้วจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเน้นการทำงานที่จริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นตัดต่อวีดีโออย่าง iMovies (473 MB) หรือ จัดการภาพถ่ายอย่าง iPhoto (144 MB) และโปรแรกมแต่งเพลงอย่าง Garageband (560 MB) อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่น สำหรับจัดการทำงานด้านเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่น Page (231 MB), Number (255 MB), Keynote (286 MB) แต่ทั้งนี้ แอพพลิคชั่นที่ทำงานจริงจัง บางแอพพลิเคชั่น ก็อาจจะอยู่ในกลุ่มแอพพลิเคชั่นขนาดเล็กได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Sketchbook Mobile ที่มีขนาดไฟล์แค่เพียง 13 MB เท่านั้น

ค่าเฉลี่ย : 400 MB ต่อ 1 แอพพลิเคชั่น

ความจุ 16 GB สามารถใช้งาน แอพฯขนาดใหญ่ ได้ประมาณ : 32 แอพพลิเคชั่น
ความจุ 32 GB สามารถใช้งาน แอพฯขนาดใหญ่ ได้ประมาณ : 70 แอพพลิเคชั่น
ความจุ 64 GB สามารถใช้งาน แอพฯขนาดใหญ่ ได้ประมาณ : 153 แอพพลิเคชั่น

ชอบฟังเพลง (ความจุที่ใช้ : น้อย-ปานกลาง)

 



แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงนั้น ความจุที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับความชอบ และ นิสัยส่วนตัวว่า เราต้องการที่จะเก็บเพลงที่เราชอบไว้ทั้งหมด โดยไม่มีการลบทิ้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในรุ่น 16 GB นั้นก็สามารถเก็บเพลง MP3 ได้กว่า 2,700 เพลงเลยทีเดียว ซึ่งไฟล์ MP3 นั้น อาจจะมีตั้งแต่ขนาด 3 MB (128 Kbps) ขึ้นไปจนถึง 10 MB (320 Kbps) หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเสียงสำหรับไฟล์นั้นๆ

ค่าเฉลี่ย : 5 MB ต่อ 1 เพลง

ความจุ 16 GB สามารถ ลงเพลง ได้ประมาณ : 2,700 เพลง
ความจุ 32 GB สามารถ ลงเพลง ได้ประมาณ : 5,900 เพลง
ความจุ 64 GB สามารถ ลงเพลง ได้ประมาณ : 12,300 เพลง

ชอบดูหนัง (ความจุที่ใช้ : ปานกลาง - มาก)

 



หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการดูวีดีโอ ผ่าน iPhone 5 โดยเฉพาะไฟล์วีดีโอที่มีความละเอียดสูงๆ นั้น รุ่น 16 GB อาจจะกลายเป็นตัวเลือกที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากไฟล์วีดีโอ ยิ่งมีคุณภาพสูงเท่าไหร่ ขนาดไฟล์ก็ยิ่งมากขึ้นไปเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่า จะเป็นไฟล์วีดีโอที่ถูกแปลงให้มีคุณภาพที่ต่ำลงบ้าง ประมาณว่า ชัดพอดูได้ ก็อาจจะช่วยให้คุณจะยังสามารถใช้รุ่น 16 GB ได้อยู่

หมายเหตุ : เนื่องจากไฟล์วีดีโอนั้น มีมากมายหลายแบบ คุณภาพที่ได้มีความแตกต่างกันออกไปตามแต่คุณภาพของไฟล์ที่ได้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง จำนวนเรื่องที่จุได้ อาจจะน้อยกว่าค่าที่ได้ รวมไปถึง ผู้ที่ชมภาพยนตร์ด้วยความละเอียดที่พอดูได้ หรือปานกลาง ก็จะได้จำนวนเรื่องที่มากขึ้นไปอีก




ค่าเฉลี่ย : 800 MB ต่อ 1 เรื่อง (แปลงไฟล์แล้ว)

ความจุ 16 GB สามารถ ลงหนัง ได้ประมาณ : 15 เรื่อง
ความจุ 32 GB สามารถ ลงหนัง ได้ประมาณ : 36 เรื่อง
ความจุ 64 GB สามารถ ลงหนัง ได้ประมาณ : 76 เรื่อง

ชอบถ่ายรูป (ความจุที่ใช้ : น้อย)

 



ด้วยกล้องความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ของ iPhone 5 อาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ชอบการถ่ายรูปไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่า ภาพที่ได้จากการถ่ายด้วย iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะมีขนาดไฟล์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 - 2.5 MB ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่เมื่อภาพถ่ายมีจำนวนที่มากขึ้น พื้นที่บน iPhone ของคุณก็จะหายไปเรื่อยๆ นั่นเอง ลองมาดูตัวเลขกันสักนิดครับว่า iPhone แต่ละรุ่นจะเก็บภาพถ่ายไว้ในเครื่องได้สักกี่ภาพ

ค่าเฉลี่ย : 2.5 MB ต่อ 1 ภาพ

ความจุ 16 GB สามารถ เก็บภาพถ่าย ได้ประมาณ : 5,400 ภาพ
ความจุ 32 GB สามารถ เก็บภาพถ่าย ได้ประมาณ : 11,800 ภาพ
ความจุ 64 GB สามารถ เก็บภาพถ่าย ได้ประมาณ : 24,600 ภาพ

ชอบถ่ายวีดีโอ (ความจุที่ใช้ : ปานกลาง - มาก)

 



การถ่ายวีดีโอ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะทำให้ พื้นที่ของ iPhone หายไปได้มากโดยไม่รู้ตัว และโดยเฉพาะบน iPhone 4S และ iPhone 5 ที่สามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดสูงถึงระดับ Full HD (1080p) จึงทำให้ขนาดไฟล์ที่ได้นั้น ค่อนข้างจะใหญ่มากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งจากการทดสอบนั้นพบว่า การถ่ายวีดีโอประมาณ 1 นาทีนั้น จะใช้พื้นที่ถึง 150 MB เลยทีเดียว

ค่าเฉลี่ย : 150 MB ต่อ การถ่ายวีดีโอ 1 นาที

ความจุ 16 GB สามารถ ถ่ายวีดีโอ ได้ประมาณ :
90 นาที
ความจุ 32 GB สามารถ ถ่ายวีดีโอ ได้ประมาณ : 195 นาที
ความจุ 64 GB สามารถ ถ่ายวีดีโอ ได้ประมาณ : 410 นาที

ชอบเล่นเกม ง่ายๆ ภาพน่ารักสดใส คลายเครียด (ความจุที่ใช้ : น้อย - ปานกลาง)

 



สำหรับเกมที่เล่นง่ายๆ ภาพน่ารักสดใสที่หมายถึง นั้นก็คือเกมประเภท ปลูกผัก ทำสวน ทำไร่ทำนา ขายของสร้างบ้าน อะไรทำนองนั้น นั่นเองครับ ซึ่งจะเป็นเกมประเภทที่ไม่ได้มีกราฟฟิคที่สวยงามสมจริงอะไรมากมายเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังเน้นในเรื่องของภาพที่น่ารักสดใส เล่นง่ายๆ นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่นเกม HayDay นั้นก็มีขนาดไฟล์อยู่ที่เพียง 32 MB เท่านั้นเอง เปรียบได้กับ แอพพลิเคชั่นขนาดเล็ก แอพฯ เดียวเท่านั้น หรือจะเป็น Angry Birds ซีรีย์ทั้งหลาย อย่าง Angry Birds Space ก็มีขนาดแค่เพียง 18.3 MB เท่านั้นและยิ่งเป็นเกมต่อเพชร ยิงไข่ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ใช้ความจุไม่มากมายนักอีกด้วย

ค่าเฉลี่ย : 50 MB ต่อ 1 เกม

ความจุ 16 GB สามารถ ลงเกมขนาดเล็ก ได้ประมาณ :
270 เกม
ความจุ 32 GB สามารถ ลงเกมขนาดเล็ก ได้ประมาณ : 590 เกม
ความจุ 64 GB สามารถ ลงเกมขนาดเล็ก ได้ประมาณ : 1,230 เกม

เป็นนักเล่นเกมตัวยง เน้นความสมจริงสวยงาม (ความจุที่ใช้ : ปานกลาง - มาก)

 



ยิ่งกราฟฟิคของเกมมีความสวยงามและสมจริงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มขนาดไฟล์ของตัวเกมขึ้นเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าบางเกม มีขนาดไฟล์สูงถึง 1 GB เลยทีเดียว อย่างเกม Infinity Blade 2 (ขนาดไฟล์ 1.03 GB) เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณใช้ 16 GB อยู่แล้วเลือกเล่นเป็นเกมๆ ไป ก็อาจจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ตัวยง และต้องการมีเกมติดเครื่องหลายๆ เกม 16 GB นั้นก็อาจจะไม่ใช่คำตอบก็เป็นได้

ค่าเฉลี่ย : 800 MB ต่อ 1 เกม

ความจุ 16 GB สามารถ ลงเกมขนาดใหญ่ ได้ประมาณ :
15 เกม
ความจุ 32 GB สามารถ ลงเกมขนาดใหญ่ ได้ประมาณ : 36 เกม
ความจุ 64 GB สามารถ ลงเกมขนาดใหญ่ ได้ประมาณ : 76 เกม

ซึ่งที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น ก็เป็นสาเหตุหลักๆ ที่จะทำให้พื้นที่การใช้งานของคุณลดลงได้เรื่อยๆ นั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้ว การเลือกความจุนั้น จะออกไปทางนิสัยส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วยว่าต้องการจะเก็บโลกทั้งใบไว้ในเครื่องเดียว หรือว่า จะเลือกลงเฉพาะตามที่ต้องการ และปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งาน แต่ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังตัดสินใจไม่ถูก เราลองมาดูกันนะครับว่า แต่ละรุ่น ตั้งแต่ 16,32 และ 64 นั้น เหมาะสำหรับการใช้งานแบบใดบ้าง

iPhone ความจุ 16 GB เหมาะกับใคร ?

iPhone ความจุ 16 GB นั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้งาน Social Network และโปรแกรมแชทในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, LINE, WhatsApp, รวมไปถึงการเล่นเกมนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นเกมขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ และไม่ใช่คนที่อยากเก็บเกมไว้ในเครื่องเยอะๆ และต้องไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอมากเป็นพิเศษ เพราะ iPhone 16 GB นั้นพอลงแอพพลิเคชั่น หรือเกมไปแล้ว ก็คงจะเหลือเนื้อที่สำหรับการถ่ายวีดีโอได้อีกไม่มากนัก นั่นเอง

ซึ่งจุดเด่นที่เห็นได้ชัดสำหรับรุ่น 16 GB นั่นคือความประหยัด โดยความจริงแล้ว ถ้าเทียบราคากัน iPhone 5 รุ่น 16 GB นั้นจะมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 32 GB ถึง 3,500 บาทเลยทีเดียว ซึ่งนอกเหนือจากราคาของเครื่องที่ถูกกว่าแล้ว ในความเป็นจริง ถ้าคุณสามารถเลือกลงโปรแกรม หรือเกมที่ต้องการ เฉพาะที่ต้องการใช้จริงๆ 16 GB นั้นก็ถือว่าเพียงพออย่างแน่นอน

นอกจากนี้รุ่น 16 GB นั้นยังได้เปรียบในเรื่องของราคาขายต่อ ที่ถือว่าลดลงจากเดิมประมาณ 25 - 35% อีกทั้งยังสามารถขายออกง่ายกว่า รุ่น 32 GB และ รุ่น 64 GB มากเลยทีเดียวครับ

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอ หรือต้องการลงเกมจำนวนมากๆติดเครื่องเอาไว้ล่ะก็ 16 GB นั้นอาจจะไม่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณครับ โดยเฉพาะการถ่ายวีดีโอ เพราะในรุ่น 16 GB นั้นจะสามารถถ่ายวีดีโอได้เต็มที่ประมาณ 90 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งในบางกรณีที่คุณไปต่างประเทศ แล้วต้องการถ่ายวีดีโอตามสถานที่ต่างๆ ที่ชื่นชอบ 90 นาที อาจจะน้อยเกินไป แต่อีก สิ่งหนึ่งที่อาจจะลำบากหน่อยนั่นก็คือ คุณอาจจะใช้แอพพลิเคชั่น iMovie ได้ไม่เต็มที่ เนื่องจาก ตัวแอพเองก็มีขนาดถึง 473 MB แล้ว ยังไม่รวมไฟล์วีดีโอ ที่จะนำมาตัดต่อ จากการถ่ายด้วยกล้อง iPhone 5 ที่ต้องใช้พื้นที่ถึง 150 MB ต่อ 1 นาทีอีกด้วย และยิ่งคลิปวีดีโอยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเผื่อเนื้อที่สำหรับ Export เพิ่มอีก ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายและตัดต่อวีดีโอจริงๆ ล่ะก็ อาจจะต้องขยับรุ่นขึ้นไปอีกนิดครับ

สำหรับรุ่นความจุ 16 GB นั้นบางท่านอาจจะแก้ปัญหาด้วยการ เก็บภาพ และไฟล์วีดีโอ แบคอัพเอาไว้ที่ คอมพิวเตอร์ หรือ Harddisk External แทน ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากพอสมควรครับ

iPhone ความจุ 32 GB เหมาะกับใคร ?

iPhone ความจุ 32 GB นั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้วยแอพพลิเคชั่นตระกูล iWork และ iLife เพราะการที่จะเก็บแอพพลิเคชั่นหลักๆ ติดเครื่องไว้ ก็อาจจะต้องใช้ความจุสูงถึง 3.5 GB เข้าไปแล้ว (สำหรับแอพพลิเคชั่น Page, Keynote, Number, GarageBand, iPhoto, iMovies ว่ากันว่า ในรุ่น 32GB ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบดู ซีรี่ย์เรื่องยาวผ่าน iPhone หรือ ถ่ายวีดีโอเป็นชีวิตจิตใจ ใช้ยังไงก็เหลือครับ

รวมไปถึงคอเกม ที่ต้องการมีเกมติดเครื่องเยอะๆ ซึ่งจริงๆแล้ว ขนาดของเกมที่มีขนาดใหญ่ถึง 1 GB นั้นมีจำนวนน้อย จึงทำให้รุ่น 32 GB น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม และลงเกมไว้ในเครื่องหลายๆ หน้า (แต่เล่นจริงๆ ไม่กี่เกม) นอกจากนี้ พื้นที่ยังอาจจะเหลือเพียงพอสำหรับการถ่ายวีดีโอบ้างในเวลาที่ต้องการ รวมไปถึง อาจจะลงหนังเอาไว้ดูในเวลาที่จำเป็นได้อีกด้วย

จึงทำให้ iPhone ความจุ 32 GB นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระดับปานกลาง ดูหนังบ้างเล่นเกมบ้าง และถ่ายวีดีโอบ้าง แต่แน่นอนครับ สำหรับ iPhone ความจุ 32 GB จะค่อนข้างขายยากกว่ารุ่น 16 GB อยู่นิดหน่อย รวมถึงเราอาจจะต้องกดราคามากขึ้น ถ้าต้องการขายออกไวๆ นั่นเองครับ

iPhone ความจุ 64 GB เหมาะกับใคร ?

iPhone ความจุ 64 GB นั้นจะเหมาะสำหรับ ท่านที่ต้องการดูหนังแบบเต็มอิ่ม ถ่ายวีดีโอ ตัดต่อวีดีโอกันเป็นชีวิตจิดใจ หมดปัญหากับเรื่องพื้นที่ไม่พอ เพราะจริงๆ แล้วมันไม่มีรุ่นที่มีความจุมากกว่าในตอนนี้แล้ว นั่นเองครับ

สำหรับรุ่นที่มีความจุสูงสุดสำหรับ iPhone 5 ในปัจจุบันนั้น มีราคาเหยียบ 30,000 บาท กันเลยทีเดียว แต่แน่นอนครับว่า ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบดูซีรี่ยเรื่องยาว สะสมหนัง ไว้ดูหลายๆเรื่อง และรวมโลกทั้งใบเอาไว้ใน iPhone ล่ะก็ 64 GB ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวีดีโอระดับ Full HD ได้นานเกือบ 7 ชั่วโมง หรือจะลงไฟล์หนังเอาไว้หลายสิบเรื่อง ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ

ซึ่งจากการสำรวจผู้ใช้งานรุ่น 64 GB นั้นก็พบว่า พวกเค้าเลือกซื้อ รุ่น 64 GB เพราะ ไม่ต้องกังวลมากมายว่า เก็บโน่นนี่นั่นเยอะๆ แล้วมันจะเต็ม โดยเฉพาะการลงหนัง และ ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงเป็นระยะเวลานานๆ หรือจะเป็นการเก็บภาพถ่ายแห่งความทรงจำ หลายร้อยหลายพันภาพ ไว้ดูเล่นเวลาเดินทาง เรียกได้ว่า iPhone 5 รุ่น 64 GB นั้นจะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงทุกอย่างที่คุณจะหาได้จากการใช้งาน iPhone กันเลยทีเดียว

ส่วนในเรื่องขายต่อนั้นถือว่า iPhone ในรุ่น 64 GB นั้นจะเป็นรุ่นที่ขายออกยากที่สุดในบรรดาสองรุ่นที่กล่าวมาข้างต้น เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีราคาแพง จนบางครั้งอาจจะไม่คุ้มถ้าหากจะต้องลงทุนมากๆกับเครื่องมือสอง จึงทำให้หลายๆท่านที่ต้องการปล่อย iPhone 64GB นั้นจำเป็นต้องกดราคาขายของตัวเองลงมามากพอสมควร ซึ่งบางครั้ง อาจจะลดจากราคาที่ซื้อมาถึง 40% เลยทีเดียว

ตารางความแตกต่างของราคา ในแต่ละรุ่น

 



จากตารางนั้นจะเห็นได้ว่า รุ่น 16 GB นั้นจะมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 32 GB ถึง 3,600 บาท (ราคาจาก Apple Store Thailand) และนอกจากนี้ ในรุ่น 64 GB ก็จะแพงกว่า 32 GB ถึง 3,400 บาท ซึ่งการเลือกซื้อรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

 

ความจุที่มากขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องหรือไม่

 



ในบางครั้ง เราอาจจะเคยได้ยินคำถามที่ว่า iPhone 16 GB นั้นจะเร็วกว่า iPhone 64 GB หรือไม่ บางท่านอาจจะคิดว่า 16 GB น่าจะใช้งานได้ลื่นไหลกว่า 64 GB ที่ลงไฟล์ไว้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เครื่องช้าลง แต่ความจริงแล้ว ขนาดของความจุในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น 16 GB, 32 GB หรือแม้แต่ 64 GB นั้น จะไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องของประสิทธิภาพเลย เนื่องจาก iPhone นั้นจะใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ Flash Storage การเข้าถึงข้อมูลนั้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีปัญหาใดๆ แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะเป็นปัญหาได้จริงๆ นั่นก็คือ บางครั้งผู้ที่ใช้ 64 GB อาจมีแอพพลิเคชั่นที่ถูก Run เป็น Backgroud มากเกินไป ซึ่งในส่วนนี้ ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการ Force Close (ปิดตัวเองอัตโนมัติ) ได้ในบางกรณี ที่หน่วยความจำ RAM เหลือน้อยจนเกินไป แต่แน่นอนครับว่า ปัญหานี้พบได้ไม่บ่อยนัก

ความคุ้มค่า โอกาส และ ราคา สำหรับการขายต่อ

ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยี และชอบเปลี่ยนรุ่นใหม่ตามไปในทุกๆ ปี การขายต่อนั้นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นก็มีความยากง่ายในการขาย และ ราคาที่ได้ แตกต่างกันออกไป โดยทีมงานได้มีการไปสำรวจตามเว็บไซต์ ที่มีการซื้อขาย iPhone ในหลายๆ เว็บ และได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจแบ่งเป็นส่วนๆ ดังนี้ครับ

iPhone ความจุ 16 GB : สำหรับรุ่น 16 GB นั้นเป็นรุ่นที่มีการซื้อขายเป็น มือ 2 กันมากที่สุด และเป็นรุ่นที่ขายได้ง่ายที่สุด ด้วยเหตุผลในเรื่องของราคาครับ ผู้ที่ต้องการซื้อมือสองเอง ก็ต้องการรุ่นที่ประหยัดที่สุด ทั้งนี้เครื่องของเราก็จำเป็นจะต้องมีสภาพและการใช้งานที่เหมาะสมกับราคาที่สุดด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาขายต่อ เมื่อครบปีแล้ว ราคาของเครื่องจะหายไปประมาณ 25 - 35 % ซึ่งเป็นราคาที่ขายออกง่ายที่สุดครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของเครื่องและการใช้งานด้วยเช่นกัน

iPhone ความจุ 32 GB : สำหรับรุ่น 32 GB นั้น เป็นรุ่นที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับ สอง และบางครั้งอาจจะพบว่า เครื่องในรุ่น 32 GB นั้นจะมีราคาของเครื่องที่อาจจะหายไปถึง 40% เลยทีเดียว เนื่องจากผู้ใช้ที่เลือก 32 GB ส่วนใหญ่ อาจต้องการปล่อยของเดิม เพื่อซื้อรุ่นใหม่ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ผู้ขายบางคน เลือกที่จะกดราคาตัวเอง เพื่อให้ขายออกได้เร็วยิ่งขึ้น แต่โดยเฉลี่ยแล้วในรุ่น 32 GB นั้นจะมีราคาที่ตกลงจากเดิมประมาณ 30-40% ครับ

iPhone ความจุ 64 GB : และสำหรับรุ่น 64 GB เป็นรุ่นที่มีการซื้อขายน้อยที่สุด และมีเซอร์ไพร์สในเรื่องราคามากที่สุด ซึ่งในวันที่ทีมงานได้ทำการลองสำรวจราคา มือสองที่มีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงของรุ่น 64 GB นั้น พบว่าราคามือสองนั้น หายไปสูงสุดถึง 40% เช่นเดียวกันกับ 32 GB และอาจมากกว่านั้นหากเป็นเครื่องที่ถูกเคลม มาแล้ว (รหัส LL และ ZP) หรือมีตำหนิ ซึ่งแน่นอนว่า 40% ของ 64 GB ถึงจะเท่ากับ 32 GB ก็ตาม แต่เมื่อดูตามตัวเลขแล้ว ก็ถือว่าหายไปจากรุ่น 32 GB หลักพันเลยทีเดียวครับ

ทั้งนี้ โอกาสในการขายต่อ รวมไปถึงราคานั้น ขึ้นอยู่กับ สภาพของตัวเครื่องเป็นหลักเช่นเดียวกัน คุณอาจจะขายได้ราคาดี ถ้าเครื่องนั้นไม่มีตำหนิ อุปกรณ์ครบ และ ไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนปัจจัยในการขายต่อได้เร็วมากเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของราคาครับ ซึ่งจากการสำรวจนั้นก็พบว่า รุ่นที่ขายง่ายสุดคือรุ่น 16 GB และ รุ่นที่ขายยากที่สุดจนอาจจะต้องกดราคาตัวเอง ถ้าต้องการขายให้ได้อย่างรวดเร็ว ก็คือรุ่น 32 GB นั่นเองครับ

สรุปส่งท้าย



สุดท้ายแล้วการเลือกซื้อรุ่นที่คุ้มค่ามากที่สุดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ จากข้อมูลข้างต้น อาจจะพอช่วยให้ หลายๆท่านพอจะลองคำนวนการใช้งานของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เราอาจจะลองพิจารณาเล่นๆทีละข้อได้เช่น เราจะถ่ายวีดีโอเยอะขนาดไหน เราชอบเล่นเกมหรือไม่ และมีแอพพลิเคชั่นที่อเราอยากใช้งานจริงๆ มากน้อยเพียงใด เป็นต้น ซึ่งถ้าเราสามารถเลือกได้ครบแล้ว พื้นที่ที่เหลือ จะเหลือไว้ให้เล่นอย่างอื่นมากน้อยแค่ไหน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เราคิดว่าจะตามเทคโนโลยีต่อไปเรื่อยๆหรือไม่ เพราะในบางครั้ง การขายต่อเพื่ออัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกันครับ สุดท้ายนี้ ทีมงานหวังว่า ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ

 

 

 

 

---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com

 

Update : 03/11/2012

iPhone Apple iphone5 buyer guide





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy