หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] JBL BAR 500 ลำโพงซาวด์บาร์ พร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 10 นิ้ว รองรับ Dolby Atmos และควบคุมการทำงานง่ายผ่านแอป JBL One

JBL BAR 500 ลำโพงซาวด์บาร์ในตระกูล JBL BAR series ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจาก BAR 300 และเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในรุ่น BAR 300 นั่นก็คือ มีซับวูฟเฟอร์มาให้ โดยเป็นซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 10 นิ้วแบบเดียวกับรุ่นท็อป ช่วยเติมเต็มย่านเสียงเบสที่ขาดหายไป อีกทั้งยังเป็นซาวด์บาร์ที่รองรับเทคโนโลยี MultiBeam และ Dolby Atmos ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พร้อมฟีเจอร์ Easy Sound Calibration ปรับจูนเสียงของซาวด์บาร์ให้เหมาะกับห้องทุกขนาด เพื่อให้ระบบเสียงแบบ 3 มิติ มีความสมบูรณ์แบบที่สุด และเทคโนโลยี PureVoice ปรับเสียงพูดให้คมชัดมากขึ้น

นอกจากนี้ ลำโพงซาวด์บาร์ JBL BAR 500 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน JBL ONE สามารถควบคุมซาวด์บาร์ผ่านสมาร์ตโฟนได้เลย แม้ไม่มีรีโมตคอนโทรลใกล้ตัว รวมถึงสามารถปรับเสียง EQ ผ่านทางแอปพลิเคชันก็ได้เช่นกัน

มาดูกันว่า ลำโพงซาวด์บาร์รุ่นนี้ จะมีฟีเจอร์น่าสนใจอะไรบ้าง และคุณภาพเสียงที่ได้จะเป็นอย่างไร กับ รีวิว JBL BAR 500 โดยทีมงาน techmoblog.com

 

สเปกและคุณสมบัติเบื้องต้นของ JBL BAR 500

  • ขนาดและน้ำหนัก
    • ขนาดซาวด์บาร์ (W x H x D) : 1,017 x 56 x 103.5 มม.
    • ขนาดซับวูฟเฟอร์ (W x H x D) : 305 x 440.4 x 305 มม.
    • น้ำหนักซาวด์บาร์ : 2.8 กิโลกรัม
    • น้ำหนักวูฟเฟอร์ : 10 กิโลกรัม
  • กำลังขับลำโพงทั้งหมด (สูงสุด @THD 1%) : 590W
  • กำลังขับซาวด์บาร์ (สูงสุด @THD 1%) : 290W
  • กำลังขับซับวูฟเฟอร์ (สูงสุด @THD 1%) : 300W
  • Soundbar Transducer : ประกอบด้วย Racetrack Drivers จำนวน 4 ตัว (46×90 มม.) และทวีตเตอร์ 3 ดอก ขนาด 0.75 นิ้ว (20 มม.)
  • Subwoofer Transducer ขนาด 10 นิ้ว (260 มม.)
  • การตอบสนองความถี่ : 35Hz – 20kHz (-6dB)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0
    • โปรไฟล์บลูทูธ : A2DP 1.2, AVRCP 1.5
    • ช่วงความถี่ของเครื่องส่งสัญญาณบลูทูธ : 2400 MHz – 2483.5 MHz
    • กำลังส่งสัญญาณบลูทูธ : <15 dBm (EIRP)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi IEEE 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4GHz/5GHz)
    • ช่วงความถี่เครื่องส่งสัญญาณ Wi-Fi 2.4G 2412 – 2472 MHz (2.4 GHz ISM Band, สหรัฐอเมริกา 11 11 ช่อง, ยุโรปและอื่น ๆ 13 ช่อง)
    • กำลังส่งสัญญาณ Wi-Fi 2.4G <20 dBm (EIRP)
    • ช่วงความถี่เครื่องส่งสัญญาณ 5G Wi-Fi 5.15 – 5.35GHz, 5.470-5.725GHz, 5.725 – 5.825GHz
    • กำลังส่ง 5G Wi-Fi 5.15-5.25GHz <23dBm, 5.25-5.35GHz & 5.47-5.725GHz <20dBm, 5.725-5.825GHz <14dBm (EIRP)
    • ช่วงความถี่เครื่องส่งสัญญาณไร้สาย 2.4G 2406 – 2474MH
    • กำลังส่งสัญญาณไร้สาย 2.4G : <10dBm (EIRP)

 

แกะกล่อง JBL BAR 500

กล่องผลิตภัณฑ์ของ JBL BAR 500 วัดขนาดได้ 1,105 x 370 x 475 มม. น้ำหนักกล่องอยู่ที่ 16.2 กิโลกรัม ซึ่งภายในบรรจุลำโพงซาวด์บาร์ JBL BAR 500, ซับวูฟเฟอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบด้วย

 

ชุดสายไฟ ซึ่งจะเป็นสายที่ต่อกับตัวซาวด์บาร์ และสายที่ต่อกับซับวูฟเฟอร์ (หัวปลั๊กมีให้เลือก 3 แบบตามภูมิภาค)

 

สาย HDMI

 

รีโมตคอนโทรล พร้อมแบตเตอรี่

 

ชุดติดตั้งลำโพงเข้ากับผนัง

 

คู่มือการใช้งาน

 

ดีไซน์สวย เรียบหรู เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ได้ทุกสไตล์

สำหรับซาวด์บาร์ในตระกูล JBL BAR series จะมีดีไซน์ที่คล้าย ๆ กัน ซึ่ง JBL BAR 500 ตัวเครื่องจะมีโทนสีเทาดำ ผิวสัมผัสด้าน ขอบโค้งมน ความยาวตัวเครื่องอยู่ที่ 101 ซม. น้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม สามารถวางเข้ากับทีวีหน้าจอ 55 นิ้วขึ้นไปได้อย่างลงตัว

 

ตรงกลางด้านบนของตัวเครื่อง จะเป็นโลโก้ JBL พร้อมไมโครโฟนสำหรับฟีเจอร์ Easy Sound Calibration ปรับจูนเสียงของซาวด์บาร์

 

ส่วนฝั่งขวาจะเป็นปุ่มควบคุมการใช้งาน

 

ภายในลำโพงจะประกอบด้วย Racetrack Driver ขนาด 46 x 90 มม. จำนวน 4 ตัว และ Tweeter 3 ดอก ขนาด 0.75 นิ้ว กำลังขับอยู่ที่ 290 วัตต์ ด้านหน้าจะมีจอแสดงผลสำหรับแสดงข้อมูลต่าง ๆ อย่างเช่น ระดับความดังของเสียง, การเชื่อมต่อ และระบบเสียงที่กำลังรับฟัง

 

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อ ถือว่าให้มาครบเพียงพอต่อการใช้งาน ประกอบด้วย

  • ช่องเสียบสายไฟ
  • พอร์ต USB Type A จำนวน 1 ช่อง
  • พอร์ต Ethernet จำนวน 1 ช่อง
  • พอร์ต HDMI In และ HDMI Out
    • รองรับการส่งสัญญาณภาพแบบ 4K ทั้ง HDR10 และ Dolby Vision
    • พอร์ต HDMI Out รองรับฟีเจอร์ eARC ระบบเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Atmos ซึ่งถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์นี้อย่างสมบูรณ์ ทีวีต้องรองรับ HDMI eARC ด้วยเช่นกัน
  • พอร์ต Optical

 

ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สาย รองรับทั้ง Wi-Fi 6 และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 รวมถึงรองรับการสตรีมมิ่งเพลงผ่าน AirPlay, Alexa Multi-Room Music และ Chromecast นอกจากนี้ ยังรองรับการสั่งการด้วยเสียงทั้ง Google Assistant, Amazon Alexa และ Siri อีกด้วย

 

มาดูกันที่ตัวซับวูฟเฟอร์กันบ้าง ถึงแม้ว่า JBL BAR 500 จะเป็นซาวด์บาร์ในตระกูล BAR series รุ่นแรกที่มาพร้อมกับซับวูฟเฟอร์ไร้สาย แต่ซับวูฟเฟอร์ที่ให้มานั้น เป็นตัวเดียวกับที่ใช้บนรุ่นท็อปของซีรี่ย์นี้เลยทีเดียว โดยมีหน้าดอกลำโพงขนาด 10 นิ้ว กำลังขับอยู่ที่ 300W ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 31 x 44 x 31 ซม. น้ำหนัก 10 กิโลกรัม

JBL BAR 500 เป็นลำโพงซาวด์บาร์ แบบ 5.1 Channel และมีกำลังขับรวมอยู่ที่ 590W แม้ว่าจะไม่มีลำโพงสำหรับยิงเสียงขึ้นด้านบนเพดาน แต่รุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี MultiBeam และระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ซึ่งทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์ภายในตัวเครื่องในการสร้างมิติเสียง ทำให้เสียงที่ได้จาก JBL BAR 500 มีความคมชัด และมีมิติเสียงที่สมจริง

 

รองรับการใช้งานร่วมกับแอป JBL One ควบคุมลำโพงซาวด์บาร์ผ่านสมาร์ตโฟน

JBL BAR 500 สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน JBL One ซึ่งดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS โดยเป็นแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของลำโพงซาวด์บาร์รุ่นนี้นั่นเอง

 

แอป JBL One ทำอะไรได้บ้าง ? หลังจากเชื่อมต่อลำโพงซาวด์บาร์ JBL BAR 500 กับแอปพลิเคชัน JBL One แล้ว ก็จะสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ได้ที่สมาร์ตโฟนเลย ไม่ว่าจะเป็น

  • ควบคุมการเล่นเพลงที่เชื่อมต่อผ่าน AirPlay
  • In-App Music สามารถเชื่อมต่อกับบริการสตรีมมิ่งเพลงที่เรามี ซึ่งได้แก่ Amazon Music, Calm Radio, Napster, Qobuz, TIDAL, TuneIn และ iHeartRadio โดยที่นิยมใช้ในไทยก็คือ TIDAL ซึ่งรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย
  • ปรับแต่ง Equalizer ได้ตามใจชอบ
  • มีรีโมตคอนโทรลในตัว ซึ่งปุ่มบนแอปพลิเคชัน จะเหมือนกับปุ่มกดบนรีโมตเลย ในกรณีที่หารีโมตไม่เจอ หรือรีโมตอยู่ไกลตัว สามารถหยิบสมาร์ตโฟนแล้วเปิดแอป JBL One เพื่อใช้งานรีโมตคอนโทรลได้เลย
  • Calibration ปรับจูนเสียงอัตโนมัติ
  • Audio Sync มีไว้ปรับในกรณีที่ภาพและเสียงดีเลย์
  • เมนูการตั้งค่าลำโพงซาวด์บาร์ เช่น เชื่อมต่อ Wi-Fi, แอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง, อัปเดตเฟิร์มแวร์ หรือต้องการล้างการตั้งค่าทั้งหมด ก็สามารถเลือก Restore Factory Settings ได้

 

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการเชื่อมต่อใช้งาน JBL BAR 500 เป็นครั้งแรก นั่นก็คือ การทำ Auto Calibration ในการปรับจูนเสียงของซาวด์บาร์ให้เหมาะกับขนาดของห้อง ส่วนใครที่ลืมตอนติดตั้ง สามารถเข้ามา Calibration ได้ในภายหลังผ่านแอป JBL One เช่นกัน

 

ทดสอบคุณภาพเสียง

มาทดสอบคุณภาพเสียงที่ได้จาก JBL BAR 500 กันบ้าง ซึ่ง JBL BAR 500 สามารถฟังได้ทุกแนวเพลง เสียงแหลมคมชัด เสียงกลางมีความนุ่มนวล และเสียงเบสสามารถเก็บรายละเอียดได้ดี แต่เนื่องจากรุ่นนี้มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 10 นิ้ว ทำให้มีบางจุดที่เสียงเบสอาจจะกลบเสียงอื่นไปบ้าง แต่ใครที่ชอบฟังเพลงที่เน้นเสียงเบสเป็นหลักอยู่แล้วน่าจะถูกใจไม่น้อย

ส่วนการดูหนัง ดูซีรี่ย์ หรือดูคลิปวิดีโอ เสียงมีความอิ่มชัด เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี โดยเฉพาะเสียงเบสจากซับวูฟเฟอร์ ให้มวลเสียงลูกใหญ่และกระหึ่ม ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังได้มากเลยทีเดียว

 

สรุปการใช้งาน

โดยรวมแล้ว JBL BAR 500 เป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย แม้ว่าจะไม่มีลำโพงแยกมาเหมือน JBL BAR series รุ่นพี่ แต่ฟีเจอร์ที่ใส่มาให้ก็ถือว่า เพียงพอต่อการใช้งานเช่นกัน ซึ่งลำโพงรุ่นนี้ มาพร้อมกับซับวูฟเวอร์ไร้สายขนาด 10 นิ้ว สามารถปรับระดับความกระหึ่มของเสียงเบสได้ 5 ระดับ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี MultiBeam และ Dolby Atmos ซึ่งจะทำงานควบคู่กับซอฟท์แวร์ในตัวเครื่อง ทำให้เสียงที่ได้นั้นมีมิติแบบรอบทิศทาง แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีลำโพงสำหรับยิงเสียงขึ้นด้านบนเพดานก็ตาม

นอกเหนือจากฟีเจอร์ข้างต้นแล้ว JBL BAR 500 ยังมีเทคโนโลยี PureVoice ซึ่งจะปรับให้เสียงพูดมีความคมชัดมากขึ้น ในขณะที่ยังคงเสียงรอบ ๆ ให้ชัดเจนเหมือนเดิม อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0 รวมถึงรองรับการสตรีมมิ่งเพลงผ่าน AirPlay, Alexa Multi-Room Music, Chromecast และรองรับการสั่งการด้วยเสียงทั้ง Google Assistant, Amazon Alexa และ Siri อีกด้วย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ JBL BAR 500 ก็คือ มาพร้อมฟีเจอร์ Easy Sound Calibration ซึ่งระบบจะทำการปรับจูนเสียงของซาวด์บาร์ให้เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ เพื่อให้เสียงที่ได้มีมิติมากขึ้น

 

นอกจากนี้ JBL BAR 500 ยังสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน JBL One ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของซาวด์บาร์ได้ด้วยปลายนิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเป็นคนขี้ลืม จำไม่ได้ว่าวางรีโมตไว้ที่ไหน ก็สามารถหยิบสมาร์ตโฟนแล้วเปิดแอป JBL One ใช้งานได้เลย เพราะภายในแอปจะมีฟีเจอร์ Remote Controller มาให้ด้วย แต่จากการทดสอบใช้งานพบว่า มีดีเลย์บ้างเล็กน้อย

ทั้งนี้ จุดที่ผู้ใช้งานจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมสำหรับลำโพงซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็คือ โหมดเสียงไม่มีให้เลือกใช้งานมากนัก ทำได้แค่การปรับ EQ ผ่านทางแอปพลิเคชัน JBL One เท่านั้น แต่ก็ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดเสียงจากลำโพงทีวี มาเป็นเสียงที่มีมิติมากขึ้น

โดยราคาปกติของ JBL BAR 500 อยู่ที่ 38,000 บาท แต่ช่วงนี้มีโปรโมชั่น ลดเหลือเพียง 22,900 บาทเท่านั้น สามารถสั่งซื้อได้ที่ Mahajak และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

 

-------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 18/08/2023

JBL BAR 500





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy