หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] JBL Charge 4 ลำโพงเสียงพกพาบอดี้กันน้ำ แบตอึดใช้งานยาวนาน 20 ชั่วโมง ใช้เป็น Powerbank ได้ เบสแน่นทรงพลังกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์ JBL Connect+ เคาะราคาที่ 6,590 บาท

เดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 แล้ว สำหรับ JBL Charge 4 ลำโพงพกพาบอดี้กันน้ำ ที่นอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของขนาดที่พกพาได้อย่างสะดวกแล้ว ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,800 mAh ที่สามารถใช้เป็น Powerbank สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

สำหรับดีไซน์โดยรวมของ JBL Charge 4 นั้น ยังคงคล้ายกับ JBL Charge 3 รุ่นที่แล้ว กับดีไซน์ในรูปทรงกระบอก และรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย แต่รุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงทั้งในเรื่องของ Driver และ Bass Radiator คู่ ที่มีกำลังขับถึง 30W ข้อดีก็คือ สามารถขับเสียงเบสได้ดีขึ้น และมีมวลเสียงแน่นมากกว่าเดิม ส่วนแบตเตอรี่เพิ่มขนาดความจุจากรุ่นเดิมที่ 6,000 mAh เป็น 7,800 mAh นอกจากจะใช้ฟังเพลงได้อย่างยาวนานถึง 20 ชั่วโมงแล้ว ยังเป็น Powerbank ได้ในตัว ทำให้สามารถฟังเพลงและชาร์จสมาร์ทโฟนได้พร้อม ๆ กัน

JBL Charge 4 ยังรองรับ JBL Connect+ ซึ่งเป็นฟังก์ชันสำหรับเชื่อมต่อลำโพงของ JBL แบบไร้สายได้สูงสุดถึง 100 ตัวพร้อมกัน นอกจากจะสามารถเชื่อมต่อกับ JBL Charge 4 รุ่นเดียวกันได้แล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อกับลำโพง JBL รุ่นอื่น ๆ ที่รองรับฟังก์ชันดังกล่าวเช่นกัน

นอกจากนี้ JBL Charge 4 ยังรองรับคุณสมบัติด้านการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที นั่นหมายความว่า ถ้าหากเผลอทำลำโพง JBL Charge 4 ตกน้ำ ก็หมดกังวลว่าตัวเครื่องจะเกิดความเสียหายจากน้ำ ทำให้ JBL Charge 4 รุ่นนี้เหมาะอย่างมากสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ หรือจะเป็นงานปาร์ตี้ริมสระน้ำก็ได้เช่นกัน

ส่วน JBL Charge 4 รุ่นอัปเกรดนี้ จะน่าใช้งานมากกว่ารุ่นเดิมแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว JBL Charge 4 โดยทีมงาน techmoblog.com

 

สเปกและคุณสมบัติเบื้องต้นของ JBL Charge 4

  • ขนาดตัวเครื่อง : 220 x 95 x 93 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 965 กรัม
  • รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 (A2DP V1.3, AVRCP V1.6)
  • Transducer : 50 x 90 mm.
  • Rated Power : 30W RMS
  • Frequency Response : 60Hz–20kHz
  • Signal-to-Noise Ratio : >80dB
  • แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 7,800 mAh ใช้เวลาในการชาร์จ 4 ชั่วโมง (5V/2.3A)
  • รองรับการเล่นเพลงได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
  • Bluetooth Transmitter Power : 0-20 dBm
  • Bluetooth Transmitter Frequency Range : 2.402 – 2.480 GHz
  • Bluetooth Transmitter Modulation : GFSK, π/4 DQPSK, 8DPSK
  • คุณสมบัติด้านการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
  • รองรับฟังก์ชัน JBL Connect+ สามารถเชื่อมต่อกับลำโพง JBL ได้พร้อมกันถึง 100 ตัว

 

JBL Charge 4 มาพร้อมกับดีไซน์รูปทรงกระบอกแบบเดียวกับรุ่น Charge 3 ด้านหน้าประดับด้วยสัญลักษณ์ของ JBL ตัวลำโพงหุ้มด้วย Durable Fabric ทำให้ทนทานต่อการใช้งาน ส่วนผิวสัมผัสมีลักษณะขรุขระ ทำให้จับถือได้อย่างถนัดมือและไม่ร่วงหล่นง่าย

ทั้ง 2 ด้านซ้ายและขวา คือ JBL Bass Radiator ข้างละ 1 ตัว ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ มีกำลังขับถึง 30W ส่งผลทำให้เสียงเบสมีมวลมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ส่วน Driver เป็นระบบเสียงใหม่ มีขนาดอยู่ที่ 50 x 90 มิลลิเมตร

ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นปุ่มควบคุมการใช้งาน ซึ่งประกอบด้วย (จากซ้ายไปขวา) ปุ่ม JBL Connect+, ปุ่มลดระดับเสียง, ปุ่ม Power เปิด-ปิดตัวเครื่อง, ปุ่มค้นหาสัญญาณ Bluetooth, ปุ่มเพิ่มระดับเสียง และปุ่มเล่นเพลง-หยุดเพลง (ถ้าหากกด 2 ครั้ง จะเป็นการเล่นเพลงถัดไป) โดยปุ่มเหล่านี้จะมีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อย กดได้ง่ายขึ้น

ท้ายเครื่องจะเป็นฐานยางซิลิโคน ทำให้ตัวเครื่องยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี ส่วนไฟ LED สีขาว แสดงสถานะของแบตเตอรี่

ด้านหลังของลำโพง เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย (จากซ้ายไปขวา) พอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่อกับ Adapter เพื่อชาร์จไฟ, พอร์ต AUX สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ไม่มี Bluetooth และพอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ โดยจะมีจุกยางปิดอีกชั้นเพื่อป้องกันน้ำเข้า ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ในรุ่นนี้ ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

JBL Charge 4 มีคุณสมบัติด้านการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นานสูงสุด 30 นาที นั่นหมายความว่า ต่อให้ใช้งานในช่วงฤดูฝน หรือเผลอทำลำโพงตกน้ำก็ไม่สร้างความเสียหายใด ๆ กับตัวลำโพง แต่จะต้องมั่นใจว่า จุกยางนั้นปิดสนิท และไม่ควรนำไปแช่น้ำทะเลโดยเด็ดขาด

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย ลำโพง JBL Charge 4, คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน และสาย USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งรุ่นนี้ ไม่มีการแถม Adapter สำหรับชาร์จไฟมาให้ แต่ผู้ใช้สามารถใช้ Adapter ตัวเดียวกับที่ชาร์จสมาร์ทโฟนมาใช้งานได้เช่นกัน ซึ่งจากสเปกของ JBL Charge 4 ระบุว่า Adapter ขนาด 5V/2.3A จะใช้เวลาในการชาร์จราว ๆ 4 ชั่วโมง

นอกจากนี้ JBL Charge 4 ยังสามารถควบคุมการใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า JBL Connect ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS

เมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JBL Connect เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเชื่อมต่อลำโพง JBL Charge 4 กับสมาร์ทโฟนเสียก่อน ด้วยการเปิดเครื่องและกดปุ่ม Bluetooth 1 ครั้ง จากนั้นไปที่สมาร์ทโฟนด้วยการเข้าไปที่ Settings > Bluetooth และเลือก JBL Charge 4 เพื่อทำการเชื่อมต่อ

หลังจากเชื่อมต่อลำโพง JBL Charge 4 กับสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว ให้กลับมาที่แอปพลิเคชัน JBL Connect ซึ่งหน้าแรกจะระบุชื่อรุ่นของลำโพง JBL ที่ทำการเชื่อมต่อ พร้อมกับสีของตัวเครื่อง ในทีนี้คือ JBL Charge 4 ตัวเครื่องสีแดง

สำหรับโหมดควบคุมการทำงานผ่านทางแอปพลิเคชัน JBL Connect นั้น จะมี 2 โหมด ได้แก่

  • Party Mode คือการนำเอาลำโพง JBL รุ่นที่รองรับฟังก์ชัน JBL Connect+ มาเชื่อมต่อกันได้สูงสุดถึง 100 เครื่อง โดยเมื่อทำการเชื่อมต่อเสร็จแล้ว เพลงที่เปิดจะถูกเล่นจากทุกลำโพงพร้อมกัน ซึ่งลำโพงที่รองรับฟังก์ชันดังกล่าว ก็ได้แก่ JBL Charge 4, JBL Charge 3, JBL Flip 4, JBL Flip 3, JBL Pulse 3, JBL Pulse 2, JBL Xtreme 2, JBL Xtreme และ JBL Boombox
  • Stereo Mode คือ การแบ่งลำโพงแบบแยกเสียงซ้ายและขวา ซึ่งต้องมีการเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวพร้อมกัน สามารถเลือกได้ด้วยว่า อยากให้ลำโพงตัวไหนเสียงออกซ้ายหรือขวา

ในกรณีที่มีการออกเฟิร์มแวร์ใหม่ สามารถอัปเดตได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน JBL Connect เช่นกัน

 

ทดสอบคุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพง JBL Charge 4

อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า JBL Charge 4 รุ่นนี้ ได้มีการอัปเกรดส่วนของ Bass Radiator ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวา ซึ่งมีกำลังขับรวมกันถึง 30W มากกว่ารุ่นเดิมที่ 20W ส่งผลทำให้เสียงเบสมีมวลแน่นขึ้น ลูกใหญ่ กระชับ แรงกระแทกพอสมควร ออกแนวฟังสนุก ๆ แต่ไม่หนักจนเกินไป, เสียงกลาง มีความสด ชัดเจน โดดเด่น, เสียงร้องและเสียงกลาง มีความชัดเจน คม แต่ไม่แหลมบาดหู ส่วนเวทีเสียงมีความโปร่ง สามารถแยกชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน

 

บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ JBL Charge 4 ลำโพงบลูทูธไร้สายรุ่นนี้ ถือว่าเป็นลำโพงที่มีระดับราคากลาง ๆ แต่อัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานแบบสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็น สามารถใช้เป็น Powerbank สำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่น สามารถชาร์จแบตเตอรี่และฟังเพลงไปพร้อม ๆ กันได้, แบตเตอรี่ขนาดความจุมากถึง 7,800 mAh รองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 20 ชั่วโมง, คุณสมบัติด้านการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที, รองรับการฟังเพลงผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.2 หรือในกรณีที่อุปกรณ์ที่ต้องการจะเชื่อมต่อไม่มี Bluetooth ก็สามารถเสียบสายผ่านช่อง AUX ได้

ด้านการเชื่อมต่อนั้น รองรับฟังก์ชัน JBL Connect+ ที่ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน JBL Connect ทำให้สามารถเชื่อมต่อลำโพง JBL Charge 4 กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับฟังก์ชันดังกล่าวได้สูงสุดถึง 100 ตัวพร้อมกัน หรือจะแบ่งเป็นลำโพงแบบแยกเสียงซ้ายและขวา ก็สามารถทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชันดังกล่าว

ด้านคุณภาพเสียงนั้น JBL Charge 4 รุ่นนี้ ถูกอัปเกรดทั้งในส่วนของ Driver ขับเสียงซึ่งเป็นระบบใหม่ และ Bass Radiator ที่มีกำลังขับถึง 30W มากกว่ารุ่นก่อน ส่งผลทำให้ย่านเสียงเบส, เสียงกลาง และเสียงสูง ทรงพลังมากกว่าเดิม

นอกจากนี้ JBL Charge 4 ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น น่าเสียดายที่ในชุดจำหน่ายมาตรฐานไม่มีการแถม Adapter สำหรับชาร์จไฟมาให้ แต่สามารถใช้ Adapter ชาร์จสมาร์ทโฟนมาใช้งานแทนได้เช่นกัน

สำหรับราคาของ JBL Charge 4 นั้น อยู่ที่ 6,590 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีเขียว Forest Green, สีดำ, สีเทา, สีแดง, สีชมพู และสีเขียว โดยผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อมาใช้งานกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 09/05/2019

JBL Charge 4 รีวิว JBL Charge 4





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy