สำหรับหูฟัง JBL Endurance Series นั้น เป็นหูฟังสายสปอร์ตที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการออกกำลังกายในแต่ละรูปแบบ ซึ่งมีให้เลือกกันถึง 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ JBL Endurance RUN สำหรับการออกกำลังกายแบบทั่ว ๆ ไป หรือใช้ในชีวิตประจำวัน, JBL Endurance SPRINT สำหรับนักวิ่ง, JBL Endurance JUMP สำหรับสายกระโดด, JBL Endurance PEAK สำหรับกีฬาปีนเขา หรือเดินป่า และรุ่นสุดท้าย JBL Endurance DIVE สำหรับกีฬาว่ายน้ำ ที่ทางทีมงาน techmoblog.com นำมารีวิวให้ชมกันในครั้งนี้นั่นเอง
โดยหูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE นั้น มาพร้อมกับดีไซน์, วัสดุ และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ เหมือนกับรุ่น JUMP แต่เนื่องจาก JBL Endurance DIVE เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบมาเพื่อกีฬาทางน้ำ จึงมาพร้อมกับเครื่องเล่น MP3 ในตัว กับขนาดความจุ 1 GB ที่สามารถเก็บเพลงได้มากถึง 200 เพลง และเล่นเพลงขณะว่ายน้ำได้เลยทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่จำเป็นต้องพกพาสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ตัวเพื่อฟังเพลงอีกต่อไป ซึ่งหูฟังมาพร้อมกับมาตรฐานด้านการกันน้ำ IPX7 ที่สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้นาน 30 นาที
นอกจากนี้ หูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth ไว้สำหรับรับสาย หรือฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนได้ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานในน้ำ เรียกได้ว่า เป็นหูฟังที่รองรับการใช้งานทั้งกิจกรรมบนบกและในน้ำได้ในเครื่องเดียว
ในด้านการออกแบบนั้น มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการเปิด-ปิดตัวเครื่องอัตโนมัติ โดยจะเปิดตัวเครื่องเองเมื่อสวมใส่ และปิดเครื่องเมื่อถอดออก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี TwistLock และ FlexSoft ที่ช่วยทำให้การสวมใส่กระชับมากขึ้น, ไม่เจ็บหู และคล้องพอดีกับใบหู ไม่ว่าจะกระโดด หรือขยับในท่าทางแบบไหน ก็ไม่ร่วงหล่นจากหูระหว่างใช้งาน ส่วนแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งการชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง
มาดูกันดีกว่าว่า หูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE จะเหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบการว่ายน้ำแค่ไหน และคุณภาพเสียงที่ได้จะเป็นอย่างไร มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว JBL Endurance DIVE โดยทีมงาน techmoblog.com
หูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE เป็นหูฟังแบบ In-Ear คล้องใบหู ดีไซน์เหมือนกับรุ่น JUMP ซึ่งตัวสายมีความหนาและพอดีกับท้ายทอย พร้อมเทคโนโลยี TwistLock และ SoftFlex ที่ทำให้สวมใส่ได้กระชับมากขึ้น ยึดตัวหูฟังไม่ให้ร่วงหล่นขณะใช้งาน
สำหรับก้านหูฟังคล้องใบหู มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ซึ่งเป็นแม่เหล็กเหมือนกับหูฟังรุ่น JUMP พร้อมฟังก์ชันการเปิด-ปิดอัตโนมัติ โดยตัวหูฟังจะเปิดใช้งานเมื่อผู้ใช้ทำการสวมใส่ และปิดเครื่องเองเมื่อถอดออก
หูฟังด้านขวา จะเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้วยระบบสัมผัส ซึ่งจะมีไฟ LED บ่งบอกสถานะของตัวเครื่อง ถ้าหากเป็นไฟสีแดงนิ่ง หมายถึงตัวเครื่องกำลังเปิด, ไฟสีน้ำเงินกระพริบ หมายถึง กำลังค้นหาสัญญาณ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และไฟสีน้ำเงินนิ่ง หมายถึง ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว
ในส่วนของการสัมผัสเพื่อควบคุมการทำงานบนหูฟังรุ่นนี้ จะมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่
แบตเตอรี่บนหูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE มีขนาดความจุอยู่ที่ 120 mAh รองรับการใช้งานด้านการฟังเพลงนานสูงสุด 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งการชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ชั่วโมง โดยพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ส่วนท้ายของหูฟังด้านขวา
ในกล่องผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วย สาย USB และจุกยางให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ S, M และ L ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนได้ รวมถึงซองสำหรับเก็บหูฟัง ซึ่งเป็นซิลิโคนเนื้อนิ่ม ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก
สำหรับการจับคู่หูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE กับสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก หลังจากเปิดเครื่องแล้ว ให้รอประมาณ 5 วินาที จะมีไฟสีน้ำเงินกระพริบปรากฏ จากนั้นให้ไปที่สมาร์ทโฟน เลือก Settings > Bluetooth > JBL Endurance DIVE ถ้าหากการเชื่อมต่อสมบูรณ์ ไฟแสดงสถานะจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินนิ่ง
ส่วนการนำเพลงจากคอมพิวเตอร์ลง JBL Endurance DIVE ในโหมดเครื่องเล่นเพลง MP3 ก็เพียงแค่เชื่อมต่อหูฟังกับคอมพิวเตอร์ด้วยสาย USB ก็จะปรากฏไดร์ฟของหูฟัง JBL Endurance DIVE ขึ้นไป (จากรูปคือไดร์ฟที่ชื่อ NO NAME) จากนั้นเลือกเพลงที่ต้องการมาใส่ลงในไดร์ฟนี้
โดยเครื่องเล่นเพลง MP3 บน JBL Endurance DIVE นั้น มีขนาดความจุที่ 1 GB รองรับเพลงได้มากกว่า 200 เพลง และเป็นไฟล์ MP3 เท่านั้น ส่วนการเล่นเพลงจะเป็นแบบสุ่ม (Random) และในกรณีที่ต้องการใช้ในขณะว่ายน้ำ จะต้องทำการล็อกระบบสัมผัสก่อนลงน้ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวหูฟังทำงานเอง เมื่อล็อกระบบสัมผัสแล้ว จะปรากฏเป็นไฟสีเขียวกระพริบ
ด้านคุณภาพเสียงของ JBL Endurance DIVE ถือว่า ไม่ต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในซีรี่ส์ Endurance เท่าใดนัก โดยเสียงเบสจะมีความกระชับ อิมแพคลูกไม่ใหญ่ ไม่ล้นจนเกินไป, เสียงแหลมมีความคม ชัดใส ไม่แตกพร่า ไม่บาดหู, เสียงร้องออกโทนสดใส ส่วนเวทีเสียง มีความกว้าง ไม่อึดอัด สามารถแยกเสียงนักร้องกับเสียงเครื่องดนตรีได้ ด้านการตัดเสียงรบกวนรอบข้างถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
เรียกได้ว่า JBL Endurance DIVE เป็นหูฟังไร้สายเพื่อการออกกำลังกายที่ฉีกแนวไปจากหูฟังประเภทอื่น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะสามารถใช้ฟังเพลงในขณะที่ออกกำลังกายบนบกได้แล้ว ยังสามารถฟังเพลงในขณะที่กำลังว่ายน้ำได้อีกด้วย เนื่องจากหูฟังรุ่นนี้ มีความพิเศษกว่าหูฟังในซีรี่ส์ Endurance รุ่นอื่น ๆ เพราะมาพร้อมกับเครื่องเล่นเพลง MP3 ในตัว ที่มีขนาดความจุ 1 GB สามารถเก็บเพลงโปรดได้มากกว่า 200 เพลงโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Bluetooth อีกด้วย ถือว่า เป็นหูฟังที่รองรับการใช้งานทั้งกิจกรรมบนบกและในน้ำได้ในเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
หูฟังไร้สาย JBL Endurance DIVE มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง, สีเขียว และสีเหลือง วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 3,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com
--------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 17/05/2019
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |