หลังจากที่ทีมงานได้ทำการรีวิว JBL Endurance SPRINT ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายสำหรับการวิ่งกันไปแล้ว คราวนี้มาดูอีกรุ่นที่อยู่ในซีรี่ส์เดียวกัน นั่นก็คือ JBL Endurance JUMP โดยรุ่นนี้เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบสำหรับการออกกำลังกายที่เน้นการกระโดด, เต้น หรือมีการขยับร่างกายไปมาโดยเฉพาะ
สำหรับดีไซน์ของหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP นั้น จะคล้ายกับรุ่น SPRINT แต่รุ่นนี้มีความโดดเด่นกว่ากับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการเปิด-ปิดตัวเครื่องอัตโนมัติ โดยจะเปิดตัวเครื่องเองเมื่อสวมใส่ และปิดเครื่องเมื่อถอดออก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี TwistLock และ FlexSoft ที่ช่วยทำให้การสวมใส่กระชับมากขึ้น, ไม่เจ็บหู และคล้องพอดีกับใบหู ไม่ว่าจะกระโดด หรือขยับในท่าทางแบบไหน ก็ไม่ร่วงหล่นจากหูระหว่างใช้งาน
เนื่องจากรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการกระโดด ทำให้สายหูฟัง มีความหนากว่าและสั้นกว่ารุ่น SPRINT เมื่อสวมใส่แล้วจะพอดีกับท้ายทอย ไม่ห้อยยาวเกะกะหรือให้ความรู้สึกรำคาญขณะใช้งาน อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว
มาดูกันดีกว่าว่า หูฟังรุ่นนี้จะน่าใช้งานและตอบโจทย์กีฬาสายกระโดดแค่ไหน กับ รีวิวหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP โดยทีมงาน techmoblog
หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP จะมีดีไซน์คล้ายกับ JBL Endurance SPRINT ซึ่งเป็นหูฟังแบบ In-Ear คล้องใบหู ต่างกันตรงที่ตัวสายจะมีความหนากว่าและสั้นกว่า พอดีกับท้ายทอย อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี TwistLock และ SoftFlex ที่ทำให้สวมใส่ได้กระชับมากขึ้น ยึดตัวหูฟังไม่ให้ร่วงหล่นขณะใช้งาน
จุดเด่นของหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP อีกอย่างก็คือ ก้านหูฟังสำหรับคล้องใบหูนั้น มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียกว่า PowerHook ซึ่งเป็นแม่เหล็กเหมือนกับหูฟังรุ่น SPRINT แต่เพิ่มในส่วนของฟังก์ชันการเปิด-ปิดอัตโนมัติ โดยตัวหูฟังจะเปิดใช้งานเมื่อผู้ใช้ทำการสวมใส่ และปิดเครื่องเองเมื่อถอดออก เรียกได้ว่า สะดวกต่อการใช้งานมากเลยทีเดียว
หูฟังด้านขวา จะเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้วยระบบสัมผัส ซึ่งจะมีไฟ LED บ่งบอกสถานะของตัวเครื่อง ถ้าหากเป็นไฟสีแดงนิ่ง หมายถึงตัวเครื่องกำลังเปิด, ไฟสีน้ำเงินกระพริบ หมายถึง กำลังค้นหาสัญญาณ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และไฟสีน้ำเงินนิ่ง หมายถึง ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว
โดยการสัมผัสในแต่ละรูปแบบจะควบคุมการทำงานแตกต่างกัน ดังนี้
แบตเตอรี่บนหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP มีขนาดความจุอยู่ที่ 120 mAh รองรับการใช้งานด้านการฟังเพลงนานสูงสุด 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งการชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ชั่วโมง โดยพอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ส่วนท้ายของหูฟังด้านขวา
ในกล่องผลิตภัณฑ์นั้น จะประกอบไปด้วย สาย USB และจุกยางให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ได้แก่ S, M และ L ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนได้
นอกจากนี้ ยังมีซองสำหรับเก็บหูฟังมาให้ด้วยเช่นกัน โดยเป็นซิลิโคนเนื้อนิ่ม ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สะดวก
สำหรับการจับคู่หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP กับสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก หลังจากเปิดเครื่องแล้ว ให้รอประมาณ 5 วินาที จะมีไฟสีน้ำเงินกระพริบปรากฏ จากนั้นให้ไปที่สมาร์ทโฟน เลือก Settings > Bluetooth > JBL Endurance JUMP ถ้าหากการเชื่อมต่อสมบูรณ์ ไฟแสดงสถานะจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินนิ่ง
ด้านคุณภาพเสียงบนหูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP นั้น ถือว่า ไม่แตกต่างจากรุ่น SPRINT เท่าใดนัก โดยเสียงร้องมีความคมชัด ใส เสียงเบสมีความกระชับ อิมแพคกำลังดี ไม่ล้นจนเกินไป เสียงแหลมมีย่านเสียงที่ชัดใส ไม่บาดหู และเก็บรายละเอียดของเสียงได้เป็นอย่างดี ส่วนเวทีเสียงมีความกว้าง มีมิติ แยกเสียงร้องกับเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน ด้านการตัดเสียงรบกวนรอบข้างถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
โดยรวมแล้ว JBL Endurance JUMP เป็นหูฟังไร้สายที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และถูกออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายที่เน้นการกระโดดโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การเต้นแอโรบิก, การกระโดดเชือก หรือจะเป็นสายคาร์ดิโอ ก็ถือว่าตอบโจทย์เช่นกัน โดยมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง ดังนี้
หูฟังไร้สาย JBL Endurance JUMP มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง, สีเหลือง และสีฟ้า วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 2,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com
--------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 19/04/2019
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |