พิสูจน์แล้ว Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) หน้าจอสลัวกว่า เมื่อเทียบกับ Galaxy S และ Galaxy S II

[14-กรกฏาคม-2555] ไม่น่าเชื่อว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ที่มีสเปคดีกว่า 2 รุ่นแรก ทั้ง Samsung Galaxy S และ Samsung Galaxy S II แต่เมื่อทดสอบความสว่างของหน้าจอแล้ว กลับพบว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) กลับมีหน้าจอที่สลัวกว่าครับ โดยผลการทดสอบนี้ มาจากเว็บไซต์ Displaymate ที่ได้นำสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นมาเปรียบเทียบกัน และพบว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) มีประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าทุกด้าน แต่ในเรื่องของความสว่างหน้าจอนั้น เทียบกับ 2 รุ่นก่อนหน้าไม่ได้เลย

Dr. Ramond Soneira ตัวแทนจาก Displaymate Technologies ได้ออกมาเปิดเผยว่า ถึงแม้ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) จะใช้จอแบบ PenTile AMOLED screen ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ซึ่งถือว่า เป็นความละเอียดที่สูงมากก็ตาม แต่กลับมีความสว่างของหน้าจอน้อยกว่า Samsung Galaxy S และ Samsung Galaxy S II เสียอีกครับ ทั้งนี้เป็นเพราะระบบการจัดการพลังงานที่มีอยู่ในตัวเครื่องนั่นเอง โดยซัมซุงต้องการให้แบตเตอรี่ขนาด 2100 mAh กระจายพลังงานให้กับหน้าจอขนาด 4.8 นิ้วอย่างเหมาะสม จึงได้ทำการปรับความสว่างของหน้าจอลง เนื่องจากหน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว ถือว่า เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ตัวเครื่องสูบแบตเตอรี่ไปมากพอสมควรนั่นเอง

เมื่อทดสอบอัตราการใช้พลังงาน พบว่า ซัมซุง ได้ลดการใช้พลังงานบนหน้าจอลง จากเดิม 2.1 วัตต์บน Samsung Galaxy S II เหลือเพียง 1.3 วัตต์บน Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) และลดอัตราความสว่างสูงสุด จากเดิม 289 แคนเดลาต่อตารางเมตร เหลือ 224 แคนเดลาต่อตารางเมตร ซึ่งการใช้พลังงานน้อยลงเช่นนี้ ทำให้ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) มีช่วงเวลา running time ได้นานขึ้น 5.6 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy S II ใช้งานได้เพียง 4.4 ชั่วโมงครับ

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ผลการทดสอบจะพบว่า Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) หน้าจอสลัวกว่ารุ่นก่อนหน้าก็ตาม แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสว่างของหน้าจอถ้าหากนำไปใช้งานในที่ที่มีแสงจ้า ที่เมื่อทำการทดสอบแล้ว สามารถใช้งานได้ดีตามปกติ

Dr. Ramond Soneira ยังได้เสริมว่า เรื่องของความสว่างของหน้าจอ และแบตเตอรี่นี่เอง ที่ทำให้ Apple คงขนาดหน้าจอของ iPhone ไว้ที่ 3.5 นิ้วครับ เนื่องจากเมื่อเทียบ iPhone 4 กับ Samsung Galaxy S พบว่า iPhone 4 นั้น มีอัตราความสว่างสูงสุดที่ 541 แคนเดลาต่อตารางเมตร แต่สามารถใช้งานได้สูงสุด 7.8 ชั่วโมง ในขณะที่ Samsung Galaxy S กลับใช้งานได้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ Dr. Ramond Soneira ยังได้ปิดท้ายว่า ฟังก์ชั่นปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติ บนสมาร์ทโฟนนั้น เป็นฟังก์ชั่นที่ไร้ประโยชน์ และทำให้การใช้งานด้อยค่าลงไปครับ

---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : pgmag.com

Update : 14/07/2012

Samsung Galaxy S III Samsung galaxy S 3 หน้าจอ Samsung Galaxy S III