หลังจากมีกระแสสักพักเรื่องพี่เสกหันมาทำมือถือราคาประหยัดในนาม LOSO Phone ล่าสุดมือถือรุ่นประหยัดที่มีกระแสไม่แพ้กัน Obi Worldphone ก็ออกมาสั่นสะเทือนวงการถือว่าเป็นมือถือในกระแสทั้งคู่ วันนี้ทีมงาน techmoblog ได้โอกาสจึงเอามืถือ 2 รุ่นนี้มาเปรียบเทียบกัน Obi Worldphone นั้น พัฒนาโดย John Sculley อดีตซีอีโอของ Apple ที่ถือว่า เป็นคู่รักคู่แค้นของ Steve Jobs และเป็นคนไล่ Steve Jobs ออกก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ส่วน LOSO Phone นั้น เห็นชื่อก็คงจะเดากันออกว่า เป็นมือถือของ เสก โลโซ นั่นเอง ที่มีดีไซน์ เหมือน iPhone 6 แบบไม่ผิดเพี้ยน จุดเด่นของทั้ง 2 รุ่น นั่นก็คือ เปิดตัวด้วยราคาประหยัด มาดูกันว่า มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาททั้ง 2 รุ่นนี้ จะคุ้มค่าสมราคามากแค่ไหน
การเปรียบเทียบไเราม่ได้ต้องการจะบอกว่ามือถือไหนดีกว่ากันนะครับเพราะราคาทั้ง 2 เครื่องถ้าเทียบในแง่ของความต่างก็ถือว่ามีความต่างอยู่ ดังนั้นสเปคของมือถือที่ถูกกว่าย่อมจะต่ำกว่าเป็นธรรมดาโดย losophone นั้นมีราคาอยู่ที่แค่ 3,500 บาท ในขณะที่ Obi Worldphone นั้นถ้าวางขายในปัจจุบันจะมีราคาอยู่ที่ 129 เหรียญ หรือประมาณ 4,500 บาท (ถ้าคิดที่อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาทต่อเหรียญ สหรัฐจะอยู่ที่ 4,128 บาท) ส่วนต่าง 600-1,000 บาท ถ้ามองในแง่ของมือถือราคาประหยัดก็ต้องบอกว่าต่างพอสมควร ดังนั้นเวลาที่เราเทียบความคุ้มค่าคงต้องดูในส่วนนี้ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ในการเปรียบเทียบจึงเป็นการเปรียบเทียบมือถือรุ่นประหยัดในกระแสเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจถึงความคุ้มค่าด้วยตัวผู้อ่านเองมากกว่าตัดสินว่ารุ่นไหนดีกว่ากันครับ อย่างไรก็ดีมาดูส่วนของสเปคกันเลยครับ
เปรียบเทียบสเปค LOSO Phone LS1 vs Obi Worldphone SJ 1.5
Obi Worldphone SJ 1.5 นอกจากจะเด่นในแง่ของชื่อเสียงผู้ผลิตแล้ว รุ่นนี้ ทั้งสเปค และราคาเปิดตัว ถือว่า จัดมาเต็มและคุ้มค่ากับราคา 4,500 บาทรวมถึงดีไซน์ ที่ถือว่า ออกแบบได้อย่างลงตัวอีกด้วย จุดเด่นอยู่ที่ จอ 5นิ้ว ขุมพลัง Mediatek Quad-Core 1.3 Ghz หน่อยความจำ ROM 16 GB และ RAM 1 GB และแบตเตอรี 3000 mAh สำหรับ RAM ต้องถือว่าแค่มาตรฐานของมือถือราคานี้เท่านั้นส่วนสเปคด้านอื่นถือว่าสอบผ่านครับ
LOSO Phone LS1 สำหรับสเปคนั้นน่าจะยังด้อยในเรื่องหน่วยความจำ RAM ที่ให้มาแค่ 512 MB ในขณะที่ มือถือระดับราคาไม่เกิน 5,000 บาทส่วนใหญ่ ใส่มาให้ถึง 1 GBชิปเซ็ต ยังเป็นรุ่นเก่า และระบบปฏิบัติการ Android ที่ยังคงเป็นเวอร์ชันเก่า (ไม่แน่ใจว่าในอนาคตผู้ผลิตจะสามารถให้เราอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ได้หรือไม่) อีกส่วนคือแบตเตอรี่ที่ใส่มาให้อาจจะน้อยเกินไปสำหรับมือถือขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว และไม่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ส่วนขนาดหน้าจอ แม้จะขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว แต่มีความละเอียดเพียง 960 x 540 พิกเซลเท่านั้นซึ่งเมื่อเทียบกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วอาจจะยังดูน้อยไปสักนิด
สำหรับด้านการใช้งาน ทางทีมงาน techmoblog คงจะไม่สามารถฟันธงได้ในตอนนี้ เนื่องจากยังไม่ได้ทดลองใช้งานทั้ง 2 รุ่น อย่างไรก็ดี LOSO phone อาจจะเน้นในเรื่องความชอบส่วนตัวของผู้ผลิตหรือแฟนเพลงอาจจะไม่ได้มองถึงสเปคอย่างเดียวแต่อยากเก็บสะสมก็เป็นได้ อีกสิ่งนึงที่ผมคิดว่าน่าสนใจสำหรับ Obi Worldphone และ John Sculley ที่ลงมาเล่นในตลาดระดับล่าง ที่ apple มองข้ามไปนี้ต้องเรียกว่ามองขาด ถึงราคามือถือระดับนี้จะไม่แพงนักและกำไรไม่สูงเหมือนรุ่นเรือธง แต่การแข่งขันก็ยังไม่มากไม่มีรุ่นเด่นๆที่เห็นได้ชัดเจน แต่การเน้นพัฒนามือถือระดับนี้เรียกได้ว่าเป็นการหาช่องว่างในตลาดที่ฉลาดและเชื่อว่าไม่ใช่แค่เพียง Loso phone เท่านั้น แต่ผู้ผลิตมือถือเจ้าอื่นที่ผลิตมือถือในระดับนี้ก็คงต้องปรับตัวและปรับสเปคให้น่าสนใจมากขึ้นเช่นกัน ไม่แน่ในอนาคตเมื่อ hardware ราคาถูกขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันในตลาดล่างอาจจะส่งผลให้ราคามือถือระดับบน ลดลงเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ก็เป็นได้นะครับ
---------------------------------------
ข้อมูลโดย : techmoblog.com
Update : 08/09/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |