หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

macOS Sierra เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้! รองรับบนอุปกรณ์ Mac รุ่นใดบ้าง ? พร้อมขั้นตอนการอัปเดต ฟีเจอร์ใหม่มีอะไรน่าสนใจ เราสรุปมาให้แล้ว!

หลังจากที่ แอปเปิล ได้เปิดตัว macOS Sierra ในงาน WWDC 2016 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ที่เป็นครั้งแรกกับการเปลี่ยนชื่อใหม่ จาก OS X เป็น macOS ล่าสุด ได้เปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีผ่านทาง Mac App Store

สำหรับ Mac ที่สามารถอัปเกรดเป็น macOS Sierra ได้นั้น จะต้องใช้ระบบปฏิบัติการ OS X 10.7.5 หรือใหม่กว่า (หากใช้เวอร์ชันเก่ากว่านี้ จะต้องทำการอัปเกรดเสียก่อน), มีหน่วยความจำ 2 GB และพื้นที่ภายในตัวเครื่อง 8.8 GB โดยรุ่นที่รองรับการอัปเกรดนั้น จะต้องเป็นรุ่นที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2009 ขึ้นไป

 

Mac รุ่นใดบ้างที่รองรับการอัปเกรดเป็น macOS Sierra

  • MacBook (ปลายปี 2009 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (กลางปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (ปลายปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (กลางปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ปลายปี 2009 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (กลางปี 2010 หรือใหม่กว่า)

 

วิธีการอัปเกรดเป็น macOS Sierra

สำหรับวิธีการอัปเกรดเป็น macOS Sierra นั้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเข้าไปที่ Mac App Store แล้วเลือก macOS Sierra แล้วคลิกที่ปุ่มดาวน์โหลด จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏเพื่อเริ่มทำการอัปเกรด

 

ฟีเจอร์บน macOS Sierra รองรับบนอุปกรณ์ Mac รุ่นใดบ้าง

สำหรับ macOS Sierra นั้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Handoff, Instant Hotspot, AirDrop และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็ใช่ว่า ทุกฟีเจอร์จะรองรับ Mac ทุกรุ่น มาดูกันดีกว่าว่า แต่ละฟีเจอร์นั้น รองรับบนอุปกรณ์ Mac รุ่นใดบ้าง

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ Handoff, Instant Hotspot และคลิปบอร์ดกลาง (Universal Clipboard)

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ AirDrop (Mac > iOS)

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ AirDrop (Mac > Mac)

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook (รุ่นอะลูมิเนียม ปลายปี 2008 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (ปลายปี 2008 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (ปลายปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (กลางปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ต้นปี 2009 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ต้นปี 2009 พร้อมการ์ด AirPort
  • Extreme หรือกลางปี 2010 หรือใหม่กว่า)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ Metal

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (กลางปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (กลางปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (ปลายปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ปลายปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013 หรือใหม่กว่า)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ AirPlay (ใช้ร่วมกับ Apple TV Gen 2 หรือใหม่กว่า)

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (ต้นปี 2011 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (กลางปี 2011 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (กลางปี 2011 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (กลางปี 2011 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013)

รุ่นที่รองรับฟีเจอร์ Power Nap

  • MacBook (ต้นปี 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro จอภาพ Retina (กลางปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (ปลายปี 2010 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (ปลายปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • iMac (ปลายปี 2012 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (ปลายปี 2013)

 

ฟีเจอร์ใหม่บน macOS Sierra มีอะไรบ้าง ?

หลังจากที่มีข่าวลือว่า แอปเปิล จะเปลี่ยนชื่อระบบปฏิบัติการ OS X มาเป็น macOS นั้น ล่าสุด แอปเปิลได้เปิดตัว macOS อย่างเป็นทางการ กับ macOS Sierra ที่นอกจากจะปรับปรุงการใช้งานของแอปพลิเคชันต่าง ๆ แล้ว ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์และคุณสมบัติใหม่ ๆ เข้ามาอย่างมากมาย โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาบน macOS Sierra มีดังนี้

Auto Unlock ไม่ต้องปลดล็อกเครื่องด้วยรหัสผ่านแล้ว

ปกติแล้ว การปลดล็อกตัวเครื่องบนอุปกรณ์ Mac จะต้องใส่รหัสผ่านเท่านั้น แต่ในบางครั้งผู้ใช้พิมพ์ผิดบ้าง พิมพ์ช้าบ้าง ทำให้การปลดล็อกช้าลงไปอีก ทำให้ macOS Sierra ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Auto Unlock เพียงแค่สวม Apple Watch (ที่ได้รับการยืนยันแล้ว) ก็จะสามารถเข้าใช้งานได้ทันที ไม่ต้องใส่รหัสผ่านให้เสียเวลา

Siri บน Mac มาแล้ว!

ครั้งแรกของ Siri บนอุปกรณ์ Mac กับคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ผู้ใช้คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้วบน iOS ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการเพื่อค้นหาข้อมูล หรือไฟล์เอกสารต่าง ๆ รวมไปถึงการโทรผ่าน FaceTime นอกจากนี้ ข้อมูลหรือรูปภาพที่ค้นหาผ่านทาง Siri สามารถนำมาวางบนเอกสาร หรืออีเมลได้เลยทันที

Universal Clipboard คัดลอกเนื้อหาข้ามอุปกรณ์

ฟีเจอร์ใหม่บน macOS Sierra กับ Universal Clipboard คุณสมบัติที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ในคลิปบอร์ดได้จากทุกอุปกรณ์ของ Apple ผ่านทาง iCloud โดยสามารถคัดลอกและวางข้อความ, รูปภาพ และคลิปวีดีโอระหว่าง Mac กับ iPhone หรือ iPad ได้

ช็อปปิ้งบน Mac ด้วย Apple Pay

ปกติแล้ว Apple Pay มีให้ใช้งานบน iOS เท่านั้น แต่สำหรับ macOS Sierra ได้นำ Apple Pay มาให้ใช้งานแล้วผ่านทางเบราว์เซอร์อย่าง Safari เพียงแค่มองหาปุ่ม Apple Pay ในหน้าชำระเงิน พร้อมกับยืนยันการซื้อด้วย Touch ID ซึ่ง Apple Pay จะไม่เก็บบันทึกข้อมูลการซื้ออีกด้วย

Picture in Picture ทำงานอย่างอื่นพร้อมกับดูคลิปไปได้พร้อมกัน

น่าจะเป็นฟีเจอร์ที่ถูกใจชาว Mac ไม่น้อย กับ Picture in Picture สามารถเล่นคลิปวีดีโอจาก Safari หรือ iTunes ในรูปแบบหน้าจอขนาดเล็ก ที่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่ง หรือปรับขนาดได้

เพิ่มแท็บบนแอปพลิเคชัน

macOS Sierra นำคุณสมบัติ แท็บ จาก Safari มาใช้กับแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของ Mac ที่รองรับการใช้งานแบบหลายหน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็น แผนที่, อีเมล, Pages, Numbers, Keynote และ TextEdit รวมไปถึงแอปพลิเคชันของผู้พัฒนารายอื่น ๆ

นอกจากนี้ macOS Sierra ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น

  • เพิ่มพื้นที่ว่างให้กับอุปกรณ์ Mac ที่เก็บข้อมูลจนใกล้เต็ม ด้วยการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ค่อยได้ใช้ไว้ใน iCloud และเตือนให้ผู้ใช้ลบตัวติดตั้งแอปฯ ที่ใช้ไปแล้ว หรือลบไฟล์ดาวน์โหลดที่ซ้ำกัน, Cache, บันทึกการใช้งาน และอื่น ๆ
  • Apple Music บน iTunes ปรับปรุงใหม่ เลือกฟังเพลงพิเศษที่หาฟังที่ไหนไม่ได้ รวมไปถึงเพลงออกใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

 

---------------------------------------
ที่มา : apple.com

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 22/09/2016

macOS Sierra





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy