ในที่สุด MacBook Pro 2016 ก็เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่แถบ OLED Touch Bar มาถึงตอนนี้หลายคนคงกำลังคิดหนักว่าจะอัปเกรด MacBook ตัวเก่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดดีหรือไม่ เพราะดูเผินๆ แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ส่วนเทคโนโลยีใหม่และการอัปเกรดต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า เพราะราคาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เริ่มต้นก็ครึ่งแสนเข้าไปแล้ว (แถมไม่มี OLED Touch Bar) เพราะฉะนั้นเพื่อช่วยให้ทุกคนได้ตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น เราจึงนำ MacBook Pro 2016 และ 2015 มาเปรียบเทียบให้ดูกันแบบชัดๆ ทั้งสองรุ่นจะมีความแตกต่างกันอย่างไร มีอะไรบ้างที่ได้รับการอัปเกรด ไปดูกันเลยครับ
MacBook Pro 2016 VS MacBook Pro 2015 : ดีไซน์ภายนอก
MacBook Pro 2016 มาพร้อม Touch Bar และ Touch ID (ยกเว้นรุ่นธรรมดา)
MacBook Pro 2016 เบาและบางกว่า MacBook Pro 2015
ทั้งสองรุ่นเป็นบอดี้อลูมีเนียม หน้าจอ LED มีทั้งรุ่น 13 และ 15 นิ้ว และมีสีให้เลือก 2 สีเหมือนกันคือสีเงิน Silver และสีเทา Space Grey แต่สิ่งที่ทำให้ MacBook Pro 2016 แตกต่างออกไปก็คือแถบ OLED Touch Bar และเซ็นเซอร์ Touch ID ที่มาแทนปุ่มฟังก์ชันทั้งหมด ซึ่งแถบ Touch Bar นี้ก็สามารถใช้งานได้หลายอย่างตามแอปพลิเคชันที่เรากำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น สำหรับน้ำหนักและขนาด MacBook Pro 2016 มีความเบาและบางกว่าเล็กน้อย สามารถดูเปรียบเทียบกันได้ด้านล่าง
สรุปแล้วก็คือ ด้านดีไซน์จะแตกต่างกันเล็กน้อยที่ความบาง น้ำหนัก และฟีเจอร์ใหม่อย่าง Touch Bar หากใครที่ชอบความบางเบา MacBook Pro 2016 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ
MacBook Pro 2016 VS MacBook Pro 2015 : หน้าจอแสดงผล
ทั้ง 2 รุ่น มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 13 และ 15 นิ้ว
ใช้หน้าจอ Retina ความละเอียดและ ppi เท่ากัน ทุกรุ่นทุกขนาด
MacBook pro 2016 และ 2015 มีให้เลือก 2 รุ่น คือรุ่นหน้าจอ 13.3 นิ้ว Retina IPS LED ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล 227 ppi และรุ่นหน้าจอ 15.4 นิ้วความละเอียด 2880 x 1800 พิกเซล 220 ppi ในส่วนของหน้าจอแสดงผลจึงไม่แตกต่างกัน
MacBook Pro 2016 VS MacBook Pro 2015 : ฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพ
ทั้ง 2 รุ่น สามารถท่องอินเทอร์เน็ตติดต่อกันได้นาน 10 ชั่วโมง
MacBook Pro 2016 มี Touch Bar และ Touch ID สำหรับรุ่น 15 นิ้ว มีหน่วยประมวลผลกราฟิกที่ดีกว่า
ก่อนอื่นเรามาดูสเปคคร่าวๆ ของ MacBook ทั้ง 2 รุ่นกันก่อน
MacBook Pro 2016 รุ่น 13 นิ้ว + Touch Bar
MacBook Pro 2016 รุ่น 15 นิ้ว + Touch Bar
MacBook Pro 2015 13 นิ้ว
MacBook Pro 2015 15 นิ้ว
MacBook Pro 2016 มีสเปคโดยรวมสูงกว่ารุ่น 2015 เล็กน้อย และมีคุณภาพกราฟิกที่ดีกว่าโดยเฉพาะรุ่น 15 นิ้ว ที่มีทั้งการ์ดจอ Radeon Pro 450 (2GB) และ Intel HD Graphics 530 หากใครที่ต้องการทำงานเน้นกราฟิก MacBook Pro 2016 เหมาะกว่าแน่นอน
MacBook Pro 2016 VS MacBook Pro 2015 : พอร์ตเชื่อมต่อ
MacBook Pro 2016 โละพอร์ตเก่าๆ ออกทั้งหมด เหลือแต่พอร์ต Thunderbolt 3
MacBook Pro 2016 ไม่มีแม้กระทั่งสล็อต SDXC card
MacBook Pro 2016 มีเพียงพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C), DisplayPort, Thunderbolt และ USB 3.1 ในขณะที่ MacBook Pro 2015 มีพอร์ต MagSafe 2, Thunderbolt 2, USB 3, HDMI และสล็อต SDXC card ทั้ง 2 รุ่นมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
MacBook Pro 2016 ทั้ง 4 พอร์ตสามารถใช้โอนถ่ายข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ได้ แต่ไม่รองรับ SD card ถ้า SD card เป็นสิ่งที่ต้องใช้จริงๆ และถ้าไม่ชอบ USB-C MacBook Pro 2015 ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
MacBook Pro 2016 VS MacBook Pro 2015 : ราคาวางจำหน่าย
MacBook Pro 2016 รุ่น Touch Bar มีราคาแพงกว่าโดยรวม
MacBook Pro 2016 เปิดให้สั่งจองแล้วแต่ยังไม่วางจำหน่าย
MacBook Pro 2016 รุ่น 13 นิ้ว พร้อม Touch Bar ราคาเริ่มต้นที่ 67,900 บาท ส่วนรุ่น 15 นิ้วเริ่มต้นที่ 89,900 บาท ในขณะที่ MacBook Pro 2015 รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 49,900 บาท ส่วนรุ่น 15 นิ้วเริ่มต้นที่ 74,900 บาท เห็นได้ชัดว่า MacBook Pro 2016 แพงกว่ารุ่นที่แล้วมากทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยตัวเครื่องที่บางเบายิ่งกว่า เทคโนโลยี OLED Touch Bar และเซ็นเซอร์ Touch ID พร้อมกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น
สรุปแล้วหากใครที่มี MacBook Pro 2015 อยู่แล้วและยังใช้งานดีอยู่ อาจไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตอนนี้ แต่หากใครที่ต้องการโน้ตบุ๊กพรีเมียมสำหรับทำงาน และยังไม่เคยใช้ MacBook ก็อาจจะเลือกซื้อ MacBook 2016 แบบมี Touch Bar มาลองใช้ดูสักเครื่อง เพราะแถบ Touch Bar อาจจะมอบประสบการณ์ใหม่ในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของเราได้ครับ
---------------------------------------
ที่มา : Pocketlint , Apple TH
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 28/10/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |