สำหรับ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Social Network ชื่อดังอย่าง Facebook นั้น ปกติแล้ว เจ้าตัวจะมีเป้าหมายให้กับตัวเองในทุก ๆ ปี อย่างเช่นในปีที่ผ่าน ๆ มา ที่ Mark Zuckerberg ตั้งเป้าว่า จะเรียนภาษาจีน และอ่านหนังสือให้ได้ 2 เล่มในทุก ๆ เดือน และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กับการตั้งเป้าในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือผู้ช่วยส่วนตัวในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน คล้าย ๆ Jarvis ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Iron Man นั่นเอง (โดย Mark ได้ตั้งชื่อ AI นี้ว่า Jarvis เช่นกัน) ล่าสุด Mark Zuckerberg ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าและเบื้องหลังของการสร้าง Jarvis ให้ได้รับทราบกันแล้ว
โดย Mark Zuckerberg เผยว่า ก่อนจะทำการสร้าง AI เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างแรกก็คือ จะต้องสร้าง API ให้เป็นแบบเดียวกันเสียก่อน ซึ่งปัญหาที่เจอนั่นก็คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ Mark ต้องสร้าง API ขึ้นมาเอง ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์บางอย่าง ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก็ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์แบบต่ออินเทอร์เน็ตได้มาเสียบเพิ่ม รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่าง ก็ต้องไปหาซื้อรุ่นที่เก่ามาก ๆ แล้วนำมาดัดแปลงเอง เป็นต้น
หลังจากที่สร้างระบบ API ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แล้ว ถัดมาก็คือ การควบคุมการสั่งการด้วยภาษา ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ ควบคุมด้วยข้อความจากคอมพิวเตอร์ และเสียงพูดของผู้ใช้ ซึ่งถือว่า เป็นขั้นตอนที่ยาก เนื่องจากการพูดแต่ละครั้ง มีความหมายที่แตกต่างกันไป หรือการพูดประโยคที่ใกล้เคียงกัน ก็สื่อความหมายที่ต่างกันได้ รวมไปถึงเสียงพูดของผู้สั่งการ คำ ๆ เดียวกัน แต่สื่อความหมายไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น Mark พูดว่า My Office จะหมายถึงห้องคนละห้องที่ Mark กับ Priscilla พูดคำเดียวกัน เป็นต้น โดยตัวระบบจะมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ Mark ยังได้สอน Jarvis ในเรื่องของคำสั่งการเปิดเพลง ซึ่งถือว่า เป็นขั้นตอนที่ยากเป็นพิเศษ เนื่องจากเพลง จะมีทั้งชื่อเพลง, ชื่อศิลปิน และชื่ออัลบั้ม ฉะนั้น ประโยคที่มีรูปแบบคล้าย ๆ กัน จะมีความหมายที่แตกต่างกันได้ เช่น play someone like you กับ play some Adele จะมีความหมายที่ต่างกัน แต่ในตอนนี้ที่ Mark สามารถทำได้สำเร็จแล้ว ก็คือ การรองรับคำสั่ง play me some music ที่ Jarvis จะย้อนกลับไปดูประวัติการฟังเพลงของ Mark และเลือกเพลงมาให้ฟัง
อีกอย่างที่น่าสนใจมาก ๆ นั่นก็คือ ระบบการแยกแยะใบหน้า เพื่อตรวจจับใบหน้าของแขกที่มายืนอยู่หน้าบ้านว่า เป็นคนที่รู้จักหรือไม่ ซึ่งหน้าบ้านของ Mark Zuckerberg นั้น มีกล้องติดอยู่หลายตัว พร้อมกับการเขียนระบบขึ้นมา 2 ขั้นตอน นั่นก็คือ Face Detection ระบบตรวจจับใบหน้า กับ Face Recognition ระบบแยกแยะใบหน้า ซึ่งส่วนนี้ จะใช้ระบบของ Facebook เข้ามาช่วยด้วยเช่นกัน และเมื่อทำการแยกแยะใบหน้าของแขกที่มายืนหน้าบ้านได้แล้ว Jarvis จะทำการตรวจสอบกับรายชื่อของแขกที่จะมาบ้านในวันนี้ ถ้าตรงกัน ก็จะเปิดประตูให้เข้ามาในบ้านได้ พร้อมกับแจ้งเจ้าของบ้านว่า แขกได้มาถึงแล้ว
Mark Zuckerberg เผยว่า ในปีนี้ ใช้เวลาประมาณ 100 ชั่วโมงในการสร้างให้ AI Jarvis เข้าใจและสามารถทำงานในระดับพื้นฐานได้ แต่ถึงให้เจ้าตัวใช้เวลามากกว่า 1,000 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถพัฒนาให้ AI สมบูรณ์แบบได้ในตอนนี้ เนื่องจากข้อจำกัดต่าง ๆ ของการพัฒนา AI นั่นเอง
---------------------------------------
ที่มา : gizmodo.com , facebook.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 20/12/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |