DJI Mavic 3 Pro พลิกโฉมการเล่าเรื่องทางอากาศด้วยโดรที่มีกล้องออพติคอล 3 ตัวเครื่องแรกของโลก

กล้อง Wide-Angle จาก Hasselblad กล้อง Medium telephoto และกล้อง Telephoto รวมเข้าด้วยกันเพื่อมอบตัวเลือกในการถ่ายภาพที่สร้างสรรค์มากกว่าที่เคยมีมา

25 เมษายน 2566 DJI บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำโลกของอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และการสร้างสรรค์การถ่ายภาพ วันนี้ได้เปิดตัว Mavic 3 Pro โดรนระดับเรือธงพร้อมกับกล้องถึง 3 ตัว เสมือนเป็นผู้นำทางด้านอากาศในการถ่ายคอนเทนต์ในยุคนี้ มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวที่มีระยะโฟกัสแตกต่างกัน และกล้องหลักเป็นกล้องจาก Hasselblad แบรนด์กล้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง กล้อง telephoto แบบคู่ ระยะเวลาการบินสูงสุดอยู่ที่ 43 นาที ตรวจจับสิ่งกีดขวางได้รอบทิศทางซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ DJI และสามารถส่งสัญญาณวิดีโอคมชัดระดับ HD แบบไร้สายได้ถึง 15 กิโลเมตร ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
 

“DJI เราได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้สามารถบันทึกภาพวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งและสามารถเล่าเรื่องผ่านทางภาพนิ่งและวิดีโอได้” Ferdinand Wolf ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ DJI ได้กล่าว “การผสมผสานกล้องทั้ง 3 ตัวรวมกัน ทำให้ผู้ใช้ Mavic 3 Pro สามารถสลับ composition ได้เพียงแค่แตะเพียง 1 ครั้ง ทำให้นักสร้างสรรค์คอนเทนต์สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลงกว่าเดิม เราแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายที่ผู้ใช้งานโดรนจะเปลี่ยนการรับรู้ของผู้ชมเกี่ยวกับพื้นที่และระยะทางได้อย่างไร”

 

โดรนกล้อง 1 ตัว ที่มีถึง 3 เลนส์

 

ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ได้กับสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายสภาพแวดล้อมแบบมุมกว้าง ย้ายเข้าสู่ตำแหน่งเฉพาะด้วยกล้อง telephoto ระดับกลางและกล้องตัวสุดท้ายที่สามารถโฟกัสไปยังพื้นที่หรือวัตถุที่เฉพาะเจาะจง กล้องแต่ละตัวช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดจาก Hasselblad

 

ส่งต่อความพรีเมียมจาก Mavic 3 Series ด้วยกล้อง Hasselblad ที่มีเซนเซอร์ขนาด 4/3 CMOS Mavic 3 Pro คือบันไดไปสู่การสร้างสรรค์งานระดับมืออาชีพด้วยมาตรฐานที่สูง กล้อง Hasselblad รองรับการถ่ายภาพแบบ 12-bit RAW ด้วย dynamic range สูงสุด 12.8 stops นำเสนอรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างน่าจดจำ มากไปกว่านั้น Hasselblad Natural Colour ต่อในภายหลังและไม่ต้องตั้งค่าสีที่ซับซ้อน

 

ด้วยชุดข้อมูลจำเพาะของวิดีโอที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถบันทึกภาพได้ความละเอียดสูงสุด 5.1K ที่ 50fps[1] หรือ DCI 4K ที่ 120fps รับรองได้ว่าทั้งครีเอเตอร์และโปรดักชั่นเฮ้าส์จะไม่ผิดหวังแน่นอน

 

พระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก จะมีการเกลี่ยสีได้อย่างเป็นธรรมชาติพร้อมรายละเอียดที่ครบถ้วน เพื่อประสบการณ์การรับชมภาพที่เป็น full-spectrum นอกจากนี้โหมด D-Log M ที่ช่วยปรับลดความยากของการเกลี่ยสี ทำให้ขั้นตอนของการตัดต่อนั้นมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเสียคุณภาพและความคมชัดของภาพอีกด้วย

 

สําหรับผู้ที่ต้องการยกระดับคุณภาพของภาพจาก Mavic 3 Pro ให้ถึงขีดสุด Mavic 3 Pro Cine มีตัวเลือกมากมายสําหรับสำหรับครีเอเตอร์ระดับมืออาชีพ กล้องทั้ง 3 ตัว รองรับ Apple ProRes 422 HQ, Apple ProRes 422 และ Apple ProRes 422 LT นอกจากนี้ภายในยังมี 1TB SSD[2] และ สายเคเบิ้ลที่ส่งข้อมูลได้รวดเร็วถึง 10Gbps ช่วยให้การทำงานระดับมืออาชีพไหลลื่นขึ้น

 

การจัดเฟรมภาพแบบมีประสิทธิภาพ

 

กล้อง telephoto ระยะกลาง (ระยะเลนส์ 70 มม.) เหมาะกับหลากหลายสถานการณ์ทั้งการถ่ายตึกและรถยนต์เพื่อไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ด้วยเซนเซอร์ CMOS 1/1.3 นิ้ว และ 3x optical zoom ความละเอียดภาพ 48MP/12MP ความละเอียดวิดีโอ 4K/60fps และรองรับ D-log M ตัวใหม่ โดยจะบีบระยะชัดลึกและความลึกของโฟกัสเพื่อเน้นตัวแบบและเพิ่มมิติความลึกแบบไม่เหมือนใคร สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับคนดูด้วย Hyperlapse ที่น่าทึ่ง ถือว่าเลนส์ 3x optical zoom เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก

 

ขอบฟ้าไม่ไกลเกินเอื้อม

 

การยกระดับกล้อง telephoto ของ Mavic 3 ทำให้กล้องของ Mavic 3 Pro มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น ค่ารูรับแสงกว้างขึ้นจาก f4.4 เป็น f3.4 และ video frame rate รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K/60fps ด้วย 7x optical zoom และมีความละเอียดของภาพถ่าย 12MP ด้วย hybrid zoom ที่สูงถึง 28x จึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเพื่อบินไปใกล้วัตถุ เช่น ภูเขาหรืออาคารที่มีหิมะปกคลุมและยังสามารถถ่ายภาพสัตว์ได้อย่างง่ายดายในระยะที่ปลอดภัยโดยไม่เข้าไปรบกวน

 

มุ่งเน้นไปกับเรื่องราวของคุณ
 

Mavic 3 Pro บินได้นานถึง 43 นาที ช่วยให้ครีเอเตอร์มีเวลามากพอที่จะพิจารณาองค์ประกอบของภาพและไม่ต้องกังวลกับแบตเตอรี่ เพิ่มความอุ่นใจไปกับการตรวจจับรอบทิศทางและ APAS 5.0. เซนเซอร์ตรวจจับการมองเห็นแบบ wide-angle 8 ตัว ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง ตรวจจับสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำในทุกทิศทางและวางแผนเส้นทางการบินได้อย่างปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง

 

ระบบส่งสัญญาณภาพแบบไร้สาย O3+ transmission ของโดรน DJI ให้ภาพที่เสถียร คมชัดและสามารถส่งสัญญาณความชัดแบบ HD ได้ถึง 1080p/60fps ในเฟรมเรทที่สูง ส่งสัญญาณได้ระยะไกลด้วยระยะทางมากถึง 15 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามระยะการส่งสัญญาณภาพจะเป็นตัวกำหนดความแรงของสัญญาณและ Mavic 3 Pro ควรบินอยู่ในสายตาของนักบินเสมอ

 

ฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม เช่น Waypoint Flight การควบคุมความเร็วแบบคงที่ Cruise Control และ Advanced RTH ขั้นสูงช่วยยกระดับประสบการณ์การบินแบบอัตโนมัติ

 

Waypoint Flight: การวางแผนเส้นทางการบินแบบอัตโนมัติโดยอิงตามจุดอ้างอิงที่ผู้ใช้งานได้กําหนดไว้ล่วงหน้าและ     สามารถบินในเส้นทางซ้ำได้อย่างแม่นยำ

 

การควบคุมความเร็วแบบคงที่ Cruise Control : ทำการตั้งค่า Mavic 3 Pro ให้บินไปในทิศทางใดก็ได้โดยไม่ต้องดัน     แกนบังคับเพื่อการเคลื่อนที่ของกล้องได้ราบรื่นขึ้นระหว่างการควบคุมระยะทางด้วยตนเองจากระยะไกล

 

Advanced RTH : กำหนดเส้นทางการบินกลับได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกีด     ขวางบนเส้นทาง RTH ได้อย่างง่ายดาย

 

คุณสมบัติอัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของ DJI 

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มในถ่ายภาพแบบเล่าเรื่องทางอากาศหรือมืออาชีพ โหมดอัจฉริยะเต็มรูปแบบของ DJI จะช่วยสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ทุกคนประทับใจแน่นอน

 

            FocusTrack3 : กล้อง Hasselblad และกล้อง telephoto ระยะกลางของ Mavic 3 Pro รองรับ FocusTrack รวมถึง   ActiveTrack 5.0 สปอร์ตไลท์ และ Point of Interest ช่วยให้สามารถ tracking shots ได้แบบมีประสิทธิภาพ

 

            MasterShots4 : สามารถใช้งาน Mastershots ได้แค่แตะเพียงครั้งเดียว โดรนจะถ่ายภาพ แก้ไข เพิ่ม soundtracks ของฟุตเทจภาพยนตร์ได้อย่างอัตโนมัติ

 

            QuickShots5 : เคลื่อนไหวกล้องได้หลายทิศทาง เช่น Dronie, Rocket, Circle, and Helix

 

            Panorama6 : ถ่าย Panorama แบบไม่สูญเสียรายละเอียดถึง 100MP เพื่อถ่ายภาพวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลและงดงาม

           

เมื่อ Mavic 3 Pro ลงจอดที่พื้น จะเปลี่ยนภาพไฟล์ RAW ให้เป็นคอนเทนต์ยอดเยี่ยมได้ง่ายกว่าที่เคย ด้วย QuickTransfer แบบ High-Speed ที่ช่วยให้สามารถดาวน์โหลดภาพและวิดีโอจากโดรนไปยังสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นผ่าน Wi-Fi 6 ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 80 MB ต่อวินาทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับรีโมตคอนโทรล

 

สำหรับผู้ที่ต้องการทำคอนเทนต์แบบรวดเร็ว DJI ขอแนะนำ LightCut แอพพลิเคชั่นสำหรับตัดต่อวิดีโอ ซึ่งจะมอบฟังก์ชั่นการตัดต่อและการถ่ายภาพที่มีลูกเล่นอีกมากมาย สามารถดูตัวอย่างฟุตเทจได้โดยไม่ต้องทำการ export ออกมาจาก Mavic 3 Pro และ One-Tap Edit โดย AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขและสร้างสรรค์งานได้จากทุกที่อย่างง่ายดาย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dji.com/downloads/djiapp/lightcut

 

DJI Care Refresh

 

DJI Care Refresh เป็นแผนความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับผลิตภัณฑ์ DJI พร้อมให้บริการแล้วสำหรับ DJI Mavic 3 Pro และ DJI Mavic 3 Pro Cine  บริการเปลี่ยนเครื่องคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมถึงความเสียหายจากการบินหาย การชน และความเสียหายจากน้ำ คุณสามารถเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่เสียหายได้หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อย

DJI Care Refresh (แผน 1 ปี) รวมการเปลี่ยนเครื่องสูงสุดสองครั้งในหนึ่งปี DJI Care Refresh (แผน 2 ปี) รวมการเปลี่ยนเครื่องสูงสุดสามครั้งในสองปีและขยายการรับประกันดั้งเดิมเป็นสูงสุด 2 ปีนับจากวันที่ซื้อ บริการอื่น ๆ ของ DJI Care Refresh รวมถึงบริการพิเศษทางเทคนิคและการจัดส่งฟรี ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ https://www.dji.com/service/djicare-refresh
 

 

ราคาและการจัดจำหน่าย

DJI Mavic 3 Pro พร้อมให้ pre-order แล้วที่ DJI Experience Store ทุกสาขาทั่วประเทศและตัวแทนจำหน่าย และจะเริ่มทำการจัดส่งในเดือนพฤษภาคมนี้

 

DJI Mavic 3 Pro (DJI RC) ราคา 73,990 บาท

DJI Mavic 3 Pro Fly More Combo (DJI RC) 93,990 บาท

DJI Mavic 3 Pro Fly More Combo (DJI RC Pro) 119,790 บาท

DJI Mavic 3 Pro Cine Premium Combo 168,990 บาท

 

Mavic 3 Pro, Mavic 3 Classic และ Mavic 3 สามารถใช้รวมกันได้กับ DJI Goggles Integra, DJI Goggles 2 และ DJI RC Motion 2 รุ่นล่าสุดเพื่อยกระดับประสบการณ์การบิน แว่นตา Goggle ตัวใหม่และ RC Motion Controller combos ได้ถูกผลิตขึ้นมาเพิ่มคือ DJI Goggles 2 Motion Combo และ DJI Goggles Integra Motion Combo สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dji.com

 

 

Update : 26/04/2023

DJI DJI Mavic 3 Pro