ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็น Gadget ที่ส่วนใหญ่มีไว้ติดบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านมีเวลาในการทำอย่างอื่นได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลามาทำความสะอาดบ้าน อย่างเช่น กวาดบ้าน หรือถูบ้าน ด้วยตนเอง ซึ่งในปัจจุบัน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายราคา ตามฟังก์ชันการใช้งานที่มี
สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ทีมงาน techmoblog.com จะนำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ ก็คือ Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro จากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Xiaomi ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นรุ่นที่ถูกอัปเกรดฟังก์ชันการใช้งานหลายอย่างเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งจุดเด่นของ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacumm-Mob 2 Pro ก็ได้แก่
แกะกล่อง Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro
อุปกรณ์ในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย ตัวเครื่อง Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro, ถังเก็บฝุ่น, แปรงหลัก, ฝาครอบแปรงหลัก, แปรงด้านข้าง, ถังน้ำ, แผ่นถูพื้น, แท่นชาร์จ, สายไฟ, แปรงสำหรับทำความสะอาดตัวกรอง และคู่มือผู้ใช้งาน ซึ่งในกล่องมีอุปกรณ์สำรองแถมมาให้ 2 อย่างคือ แผ่นถูพื้น และแปรงด้านข้าง
Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro ที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นบอดี้สีดำ ดีไซน์วงกลมตามสไตล์ของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 3.6 กิโลกรัม
ด้านบนตัวเครื่องเป็นปุ่มกดควบคุมการทำงาน ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง (กดค้างไว้ 3 วินาที) หรือทำงาน-หยุดพักชั่วคราว (กด 1 ครั้ง) ส่วนปุ่มรูปบ้าน จะมีไว้สำหรับสั่งการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกลับไปยังแท่นชาร์จ ซึ่งทั้ง 2 ปุ่มจะมีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
ระบบนำทางด้วยเลเซอร์ LDS มีไว้เพื่อสแกนและสร้างแผนผังบ้าน เพื่อวางแผนเส้นทางการทำความสะอาดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งระบบนำทาง LDS รุ่นใหม่นี้ สามารถนำทางได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าบริเวณดังกล่าวจะแสงน้อย
นอกจากนี้ จุดเด่นของ Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro ก็คือ สามารถสร้างแผนผังได้หลายชั้น หลายห้อง เหมาะอย่างมากสำหรับบ้าน 2 ชั้นขึ้นไป เพราะสามารถยกขึ้นไปทำความสะอาดต่อได้เลย ต่างจากรุ่นก่อน ๆ ที่สร้างแผนผังได้เพียงชั้นเดียวและห้องเดียว
ด้านบนจะมีฝาเปิด-ปิด ภายในเป็นถังเก็บฝุ่น สามารถถอดเพื่อทิ้งฝุ่น-ขยะต่าง ๆ และล้างทำความสะอาดกล่อง รวมถึงแผ่นกรอง ซึ่งไม่ควรปล่อยให้ถังเก็บฝุ่นเต็มเพราะจะส่งผลต่อการทำงาน รวมถึงแผ่นกรองต้องคอยหมั่นทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงปัด (แถมมาให้ในกล่อง)
รอบ ๆ ตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดสำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว ส่วนด้านหลังจะเป็นช่องตะแกรงระบายอากาศ และแถบแม่เหล็กสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับแท่นชาร์จ
ส่วนใต้เครื่องนั้น ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ตรวจจับการตกถึง 6 ระดับ ถ้าหากใช้งานบริเวณที่ใกล้กับบันได ก็มั่นใจได้ว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้จะไม่กลิ้งร่วงตกบันไดอย่างแน่นอน
แปรงหลักจะมีลักษณะเป็นลูกกลิ้ง เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดฝุ่น ส่วนแปรงด้านข้างจะมี 3 แฉก ช่วยกวาดฝุ่นที่อยู่รอบ ๆ ให้เข้าไปในถังเก็บฝุ่น
ล้อหลัก 2 ด้านสามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่เกิน 20 มิลลิเมตร ส่วนล้อด้านหน้าจะเป็นล้อช่วยหมุน 360 องศา
มาดูกันที่ถังน้ำกันบ้าง ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro รุ่นนี้ สามารถดูดฝุ่นและถูเปียกได้พร้อมกัน โดยฟังก์ชันการถูพื้นของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ จะเป็นการถูพื้นแบบสั่นด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งจะมีการสั่นถึง 10,000 ครั้ง/นาที ทำให้ทำความสะอาดพื้นได้อย่างทั่วถึง และขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนผ้าถูพื้น จะเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ ทำให้น้ำซึมผ่านได้เท่ากันและสม่ำเสมอ ทำให้พื้นแห้งเร็ว หมดกังวลเรื่องคราบน้ำและไม่ทำให้พื้นบวมหรือเสียหาย
เปิดเครื่องและทดสอบใช้งาน
สำหรับการใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro ครั้งแรก จะต้องเชื่อมต่อตัวเครื่องกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home เสียก่อน (ดาวน์โหลดฟรีทั้งบน Android และ iOS) ซึ่งใครที่เคยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ภายในบ้านของแบรนด์ Xiaomi มาก่อน คงจะทราบกันดีกว่าเป็นแอปพลิเคชันที่สะดวกมาก เพราะสามารถสั่งการได้เลยผ่านสมาร์ทโฟน
โดยเมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Mi Home แล้ว ให้เปิดแอปฯ แล้วคลิกที่เครื่องหมายบวกเพื่อเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ และทำการจับคู่เครื่องดูดฝุ่นกับสมาร์ทโฟน ด้วยการกดปุ่ม Power และปุ่มรูปบ้านพร้อมกันค้างไว้ 7 วินาทีจนกระทั่งได้ยินเสียงตอบรับ จากนั้นเชื่อมต่อกับ Wi-Fi บ้าน ซึ่งจะรองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz เท่านั้น และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว การใช้งานในครั้งต่อไป ก็สามารถสั่งให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานได้เลยโดยสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน
ทั้งนี้ การใช้งาน Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro ในครั้งแรก จะต้องทำการสร้างแผนที่ของห้องที่ต้องการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานเสียก่อน เพื่อให้ตัวเครื่องคุ้นเคยกับสิ่งกีดขวาง, ขนาดห้อง รวมถึงบริเวณต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งถ้าหากต้องการให้ตัวเครื่องทำงานได้สมูธขึ้น ควรนำสิ่งกีดขวางต่าง ๆ อย่างเช่น พรมเช็ดเท้า (ที่มีลักษณะเป็นผ้าหรือพรมที่มีเส้นใยยาว ๆ) และเก็บสายไฟให้พ้นรัศมีการเดินของตัวเครื่อง เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกดูดเข้าไป ทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถทำงานต่อได้ รวมถึงห้องต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป อย่างเช่น ห้องน้ำ ให้ปิดประตูเสียก่อน
และเมื่อตัวเครื่องได้ทำการสำรวจและสร้างแผนที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่มเริ่มการทำงานได้เลย โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำงานตามแผนที่ที่สร้างไว้จนเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่ที่ต้องการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไปทำงานได้ หรือสร้างกำแพงเสมือน/พื้นที่ห้ามเข้า (Virtual Wall/Restricted Area) กั้นบริเวณที่ไม่ต้องการให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป อย่างเช่น ห้องน้ำ ซึ่งการทำงานในครั้งถัดไปก็ไม่จำเป็นต้องปิดประตูห้องน้ำแล้ว
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าเวลาการทำงานสะอาดได้ อย่างเช่น ทำความสะอาดเวลา 6 โมงเย็นทุกวัน เมื่อถึงเวลาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะเปิดเครื่องและทำงานให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดสั่งการแต่อย่างใด ซึ่งคือความสะดวกของการใช้งานผ่านแอปฯ Mi Home นั่นเอง
มาดูกันที่โหมดทำความสะอาดกันบ้าง มีให้เลือก 3 รูปแบบด้วยกันคือ ดูดฝุ่นอย่างเดียว (Vacumm), ดูดฝุ่นและถูพื้น (Vacumm & Mop) และถูพื้นอย่างเดียว (Mop) ซึ่งสามารถเลือกความแรงได้ 4 ระดับคือ เงียบ (Silent), มาตรฐาน (Standard), แรง (Medium) และเทอร์โบ (Turbo) โดยแต่ละแบบจะมีเสียงดังในขณะทำงานที่ต่างกัน รวมถึงการใช้พลังงานแบตเตอรี่ในแต่ละครั้ง
ส่วนระดับน้ำที่จะถูกปล่อยใส่แผ่นถู สามารถเลือกได้ 3 ระดับเช่นกันคือ ระดับต่ำ (Low), ปานกลาง (Medium) และสูง (High)
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro เป็นรุ่นที่สามารถสร้างแผนที่ได้หลายห้อง บางบ้านอาจจะมีการแบ่งแยกว่า ห้องนั่งเล่นเน้นดูดฝุ่นอย่างเดียว ส่วนห้องรับประทานอาหารจะต้องดูดและถู เป็นต้น ในกรณีนี้ให้เข้าไปที่โหมด Custom Cleanup แล้วเลือกโปรแกรมทำความสะอาดที่ต้องการใช้ในแต่ละห้อง เรียกได้ว่า สะดวกมากเลยทีเดียว
สำหรับรูปแบบการทำงานดูดฝุ่นและถูพื้นของ Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro จะเป็นแบบจากซ้ายไปขวา วนไปจนกว่าครบ และเมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินกลับแท่นชาร์จ Dock Station อัตโนมัติ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดความจุสูงถึง 5,200 mAh ซึ่งมากกว่ารุ่นเดิม ทำให้ทำความสะอาดพื้นที่ได้กว้างขึ้นและนานขึ้น โดยจากการทดสอบกับพื้นที่ราว ๆ 20 ตรม. ใช้เวลาในการทำความสะอาด (ดูด) 28 นาที แต่แบตเตอรี่ยังเหลือมากถึง 87% เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ผู้ใช้จะต้องนำเศษฝุ่นและขยะต่าง ๆ ที่อยู่ในถังเก็บฝุ่นไปทิ้ง รวมถึงถังเก็บน้ำก็ต้องเทน้ำทิ้งด้วยเช่นกัน ส่วนผ้าไมโครไฟเบอร์นั้น สามารถซักทำความสะอาดและผึ่งแห้งได้เลย
บทสรุปการใช้งาน
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัดในการทำความสะอาดบ้าน ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันที่เหนือกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็น แรงดูดสูงถึง 3,000Pa, ระบบถูทำงานด้วยแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง, สามารถสร้างแผนที่ได้หลายชั้น หลายห้อง, ระบบนำทาง LDS อัปเดตล่าสุด ที่ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในที่แสงน้อย รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับการตกได้ถึง 6 ระดับ นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home สามารถสั่งการผ่านแอปฯ ได้เลยอีกด้วย
แม้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการกวาดบ้าน-ถูบ้าน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เนื่องจากดีไซน์ตัวเครื่องเป็นวงกลม ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดตามซอกมุม หรือจุดที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไม่ถึง เจ้าของบ้านจำเป็นต้องทำความสะอาดเองอีกที รวมถึงเส้นผมที่หล่นตามพื้นก็จะต้องเก็บให้หมดก่อนที่จะเริ่มเปิดเครื่องเพื่อทำความสะอาด เพราะเส้นผมมีโอกาสที่จะไปพันล้อ และแปรงหลัก ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้งานในครั้งต่อ ๆ ไป แต่ถ้ามองในแง่ของความสะดวกก็ถือว่า ช่วยทุ่นแรงและมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากเลยทีเดียว
โดย Mi Robot Vacuum-Mob 2 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และสีดำ ราคา 10,999 บาท รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี วางจำหน่ายแล้ววันนี้ผ่านทาง Mi Flagship Store ไม่ว่าจะเป็น
-------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 05/02/2022
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |