เป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาพอสมควรเมื่อวันก่อน เมื่อทาง Tesla ได้ออกมาเผยว่า ทำการซื้อ Bitcoin เป็นมูลค่ากว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการกระจายการลงทุน และอาจรับชำระสินค้าด้วย Bitcoin ในอนาคต
แต่ล่าสุด Michael Burry ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีจากภาพยนตร์เรื่อง The Big Short ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่สร้างมาจากเรื่องจริง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่ Tesla บริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Elon Musk เข้าซื้อ Bitcoin ว่า แท้จริงแล้วเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ เนื่องจาก Tesla กำลังมีปัญหาด้านกฎระเบียบกับประเทศจีนอยู่ในตอนนี้
Michael Burry
โดย Michael Burry ได้ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการลงทุนใน Bitcoin ของ Tesla รวมถึงเตือนราคา Bitcoin ของ Dogecoin ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ว่า จะเป็นหลักฐานของภาวะฟองสบู่ในตลาดแบบครั้งใหญ่ แต่ทั้งนี้ ทวีตดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สำหรับข้อความทวีตของ Michael Burry มีใจความดังนี้
"หน่วยงานด้านการกำกับดูแลของประเทศจีน ได้มีการเรียกให้ทาง Tesla มาพูดคุยเรื่องของปัญหาด้านคุณภาพ เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งเรียกร้องมา แต่ $TSLA กลับซื้อ $BTC ซึ่งในความคิดของเค้า มัน #digitalconfetti อย่างมาก"
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ Burry คิดว่า การที่ Tesla ลงทุนซื้อ Bitcoin กว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศจีนนั่นเอง
โดย Burry เผยว่า ได้ short หุ้น Tesla ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และได้พูดคุยอย่างติดตลกเกี่ยวกับหุ้น Tesla ของ Elon Musk และข้อเท็จจริงเรื่องของราคาหุ้นของบริษัท Tesla ที่เคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin เมื่อวันจันทร์ผ่านมา อย่างไรก็ดี Burry ได้เคยเดิมพันเงินกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเรื่องความล้มเหลวของตลาดการเคหะในสหรัฐฯ ตามเรื่องราวในหนังสือเรื่อง The Big Short ของ Michael Lewis มาแล้วอีกด้วย
ด้าน Tesla ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใด ๆ หลังได้รับการติดต่อจาก Insider
นอกจากนี้ Burry ยังได้ออกมาพูดถึง Dogecoin ที่ราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเจ้าตัวมองว่า Dogecoin เป็นคริปโตที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเรื่องตลก แต่ราคากลับพุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดในสัปดาห์นี้หลังจากที่ Elon Musk ได้ทวีตเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ Dogecoin มีมูลค่าในตลาดถึง 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าไปแล้ว
โดย Burry คอมเมนต์ว่า ในตอนนี้เราอยู่ในจุดสูงสุดของทุกสิ่งแล้ว และตอนนี้ตลาดอยู่ในภาวะฟองสบู่ในระดับที่น่ากลัว และคาดว่า ตลาดน่าจะพังในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
-------------------------------------
ที่มา : businessinsider.com
เรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 11/02/2021
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |