ผู้ป่วยอัมพาตชาวฝรั่งเศส กลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วย Exoskeleton ชุดหุ่นยนต์เพิ่มพลังที่ควบคุมการเดินและการขยับร่างกายได้ด้วยการคิด

นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยอัมพาตทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อผู้ป่วยอัมพาตรายหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส สามารถฟื้นความสามารถในการกลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของหุ่นยนต์ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยการคิด

โดยคนไข้รายนี้ ทราบชื่อคือ Thibault อายุ 28 ปีจากเมือง Lyon ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เทคโนโลยีดังกล่าวให้ชีวิตใหม่กับตัวเค้าอย่างแท้จริง โดยเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา Thibault เกิดอุบัติเหตุตกจากระเบียงความสูง 12 เมตรซึ่งส่งผลต่อเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้ Thibault เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป

สำหรับอุปกรณ์และเทคโนโลยีในการช่วยเหลือผู้ป่วยอัมพาตให้สามารถกลับมาเดินได้ในครั้งนี้ เป็นผลงานการวิจัยของทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาล Grenoble Alpes, Cinatech บริษัทด้านชีวการแพทย์ และศูนย์วิจัย CEA ด้วยการฝังแผ่นดิสก์ขนาด 5 เซนติเมตรจำนวน 2 แผ่นไว้ที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก ซึ่งแต่ละข้างประกอบด้วยขั้วไฟฟ้าจำนวน 64 เส้น ที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สมอง จากนั้น ทีมนักวิจัยก็จะทำการสร้างแผนที่สมองของ Thibault เพื่อวิเคราะห์ว่า บริเวณใดใช้งานได้บ้างเมื่อ Thibault เริ่มคิดเกี่ยวกับการเดิน หรือการเคลื่อนไหวแขนขา และทางทีมวิจัยก็จะใช้แผนที่เหล่านี้ในการฝึกฝนระบบต่ออีกทีหนึ่ง

แต่กว่าที่ Thibault จะสามารถควบคุมชุด Exoskeleton ได้นั้น ต้องใช้เวลาในการฝึกนานถึง 4 เดือน ซึ่งระยะแรกของการฝึกนั้น Thibault จะต้องใช้สมองจินตนาการถึงการเดินและการเคลื่อนไหวผ่านระบบ avatar บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยเจ้าตัวจะต้องสวมชุดหุ่นยนต์หนักถึง 65 กิโลกรัมเพื่อใช้ในการฝึกเพื่อให้สามารถขยับร่างกายได้สำเร็จ

แม้ว่าระบบดังกล่าวจะยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก เนื่องจากขั้วไฟฟ้ายังไม่ได้ถูกฝังไปที่สมองโดยตรง แต่วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการติดเชื้อในสมองได้ หลังจากที่การทดลองก่อนหน้านั้นพบว่า การฝังขั้วไฟฟ้าที่สมองจะหยุดทำงานเมื่อเซลล์ที่สร้างขึ้นรอบ ๆ ขั้วไฟฟ้าเกิดปัญหา ทำให้ทางทีมนักวิจัยเชื่อว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะยังไม่ถูกนำไปใช้จริงในเร็ว ๆ นี้ และ Thibault จะต้องทำการฝึกฝนต่อไปอีกราว ๆ 27 เดือน แต่ทางนักวิจัยเชื่อว่า เทคโนโลยีนี้จะเป็นตัวสานฝันให้กลุ่มผู้ป่วยอัมพาตสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่ง

-------------------------------------
ที่มา : theguardian.com , engadget.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 07/10/2019

Exoskeleton