หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

เจาะลึก iPad Pro 10.5" และ iPad Pro 12.9" รุ่นใหม่ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดดเด่นแค่ไหน มีดีกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่

Apple ได้เปิดตัว iPad Pro ใหม่ 2 รุ่นตามที่คาดกันไว้ในงาน WWDC 2017 เมื่อคืนนี้ ได้แก่ iPad Pro 10.5 นิ้ว และ iPad Pro 12.9 นิ้ว ซึ่งนับเป็นการอัปเกรดสู่ iPad Pro Generation 2 อย่างเป็นทางการ โดย iPad Pro 10.5 นิ้ว มีความโดดเด่นที่ขอบจอที่บางกว่า iPad รุ่นอื่น บนบอดี้บางเฉียบที่มีขนาดเท่ากับ iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว แต่มีหน้าจอแสดงผลใหญ่กว่า และได้รับการอัปเกรดทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบจัดเต็ม โดยจะมาแทนที่ iPad Pro 9.7 นิ้วรุ่นเก่า ส่วน iPad Pro 12.9 นิ้วรุ่นใหม่ ก็ได้นำ iPad Pro 12.9 รุ่นที่แล้วมายกเครื่องใหม่ด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน กลายเป็นคู่หูแท็บเล็ตทรงพลังที่ตอบโจทย์การทำงานและความบันเทิงได้ครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม ส่วนความโดดเด่นของ iPad Pro 10.5 นิ้ว และ iPad Pro 12.9 นิ้วรุ่นใหม่ จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ

 

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลถือเป็นส่วนเชิดหน้าชูตาที่สุดของ iPad เลยก็ว่าได้ ซึ่งในครั้งนี้ Apple ก็ได้ยกระดับเทคโนโลยีการแสดงผลขึ้นไปอีก จนถึงกับกล้าพูดว่าเป็น "หน้าจอที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก" กันเลยทีเดียว ในเมื่อกล้ายืนยันขนาดนี้ก็ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน โดยหน้าจอของ iPad Pro รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถแยกแยะโทนสีได้มากกว่า และสว่างขึ้นกว่าเดิมถึง 50% (600 nits) นอกจากนี้กระจกหน้าจอยังลดการสะท้อนเงาได้มากกว่า จึงสามารถรีดเอาความสวยงามของคอนเทนต์ HDR ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดคือเทคโนโลยี ProMotion ซึ่งสามารถดึง refresh rate ของหน้าจอได้สูงสุดถึง 120Hz (จากปกติ 60Hz) ช่วยให้การทำงานด้านกราฟิกไหลลื่นนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในแท็บเล็ตรุ่นไหน ไม่ว่าจะแต่งภาพ หรือตัดต่อวิดีโอ ก็สามารถทำได้อย่างสบาย และยังสามารถปรับลดค่า refresh rate ให้เหมาะสมกับคอนเทนต์แต่ละประเภทเพื่อประหยัดแบตเตอรีได้ด้วย

นอกจากหน้าจอแสดงผลแล้ว Apple Pencil ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ iPad Pro เช่นกัน ซึ่งในคราวนี้ Apple Pencil ก็ได้รับการอัปเกรดขึ้นให้มีความแม่นยำกว่าเดิม ตอบสนองได้รวดเร็วโดยมีความหน่วง (latency) แค่ 20 มิลลิวินาทีเท่านั้น พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมายที่มากับ iOS 11 เช่น Instant Notes ที่ทำให้เราจดโน้ตลงบนหน้าจอ Lock Screen ได้ทันที เป็นต้น

 

ฮาร์ดแวร์

iPad Pro 10.5 และ iPad Pro 12.9 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Apple A10X Fusion แบบ 6 คอร์ โดยแบ่งเป็นคอร์ที่ใช้พลังงานต่ำและพลังงานสูงอย่างละ 3 คอร์สลับกันทำงานตามความหนักเบาของการประมวลผลเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และที่สำคัญคือชิปเซ็ตรุ่นนี้ ยังมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงกว่ารุ่นที่แล้วถึง 30% และรีดพลังการประมวลกราฟิกออกมาได้มากกว่าถึง 40% ตอบสนองการทำงานด้านกราฟิกได้มากกว่าที่เคย ไม่แพ้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเลยทีเดียว

กล้องดิจิทัลของ iPad Pro รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น ก็ได้รับการอัปเกรดจนเทียบเท่ากับกล้องดิจิทัลของ iPhone 7 ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์ทุกอย่างที่มีอยู่ใน iPhone 7 จะมีให้ใช้ใน iPad Pro รุ่นใหม่ด้วยอย่างแน่นอน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่น OIS เซ็นเซอร์จับภาพความเร็วสูง รูรับแสงกว้างสุด f/1.8 ไฟแฟลช LED True Tone 4 ตัว รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Retina

ในส่วนของแบตเตอรี แม้จะยังไม่มีตัวเลขความจุออกมาแน่ชัด แต่ Apple ยืนยันว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง และที่สำคัญคือ iPad Pro รุ่นใหม่ได้ปรับเพดานความจุขึ้นไปอีกขั้น โดยเริ่มต้นที่ 64 GB ตามมาด้วย 256 Gb และ 512 GB ตามลำดับ สามารถเก็บไฟล์ภาพและไฟล์วิดีโอได้จุใจยิ่งขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ใช้ iPad Pro ทำงานด้านกราฟิกเป็นหลัก

 

ซอฟต์แวร์

iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 10 แต่จะได้รับการอัปเกรดเป็น iOS 11 ทันทีเมื่อ Apple ปล่อย iOS 11 เวอร์ชันสมบูรณ์อย่างเป็นทางการแล้ว นับว่าเป็นข่าวดีเพราะ iOS 11 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับ iPad Pro มากมาย และหลายอย่างก็ไม่เคยมีมาก่อนใน iPad รุ่นไหนๆ เช่น ฟีเจอร์ Split Screen สำหรับการทำงาน 2 หน้าจอ ฟีเจอร์ Drag and Drop ที่ทำให้เราโยนคอนเทนต์ข้ามไปข้ามมาระหว่างแอปพลิเคชันได้ และแถบ Dock แบบเดียวกับใน macOS ที่ทำให้เราเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ใช้บ่อยได้สะดวกยิ่งขึ้น

iOS 11 ยังมีลูกเล่นอีกมากมายที่รอการอัปเดตเข้ามา และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้น AR Kit ที่ทำให้การแสดงผล AR (Augmented Reality) อย่างในเกม Pokemon Go มีมิติและแสงเงาที่สมจริงยิ่งขึ้น และเทคโนโลยี Machine learning ที่จะเรียนรู้ลักษณะการใช้งานของเราและปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การทำงานของเรามากที่สุด นอกจากนี้ยังมี App Store ใหม่ และแอปพลิเคชันใหม่ๆ อีกเพียบ

 

ราคาและการวางจำหน่าย

iPad Pro 10.5 นิ้ว และ iPad Pro 12.9 นิ้ว (2017) เปิดให้พรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มจัดส่งสินค้าในสัปดาห์หน้า สำหรับวันเวลาที่แน่นอนในการวางจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลในขณะนี้ แต่มีราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยออกมาแล้ว ดังนี้

ราคา iPad Pro 10.5 นิ้ว

  • 64GB WiFi ราคา 24,500 บาท / WiFi + Cellular 29,500 บาท
  • 256GB WiFi ราคา 27,900 บาท / WiFi + Cellular 32,900 บาท
  • 512GB เริ่มต้นที่ 34,700 บาท  / WiFi + Cellular 39,700 บาท

ราคา iPad Pro 12.9 (รุ่นใหม่)

  • 64GB WiFi ราคา 30,900 บาท / WiFi + Cellular 34,300 บาท
  • 256GB เริ่มต้นที่ 34,300 บาท / WiFi + Cellular 39,300 บาท
  • 512GB เริ่มต้นที่ 41,100 บาท / WiFi + Cellular 46,100 บาท

 

 

----------------------------------
ที่มา : PhoneArena , Apple TH , The Verge

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 06/06/2017

ipad pro IT





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy