หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงาน WWDC 17 เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมานั่นก็คือ new iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหม่ที่ Apple ไม่เคยทำมาก่อน โดยสำหรับ iPad Pro 10.5” นั้น ทาง Apple ได้นำมาแทนที่ iPad Pro รุ่นเก่าขนาด 9.7 นิ้ว พร้อมยกเลิกการวางจำหน่ายรุ่น 9.7 นิ้ว อย่างเป็นทางการแล้ว โดยถึงแม้ว่าภายนอกของทั้งสองรุ่นอาจดูไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ภายในของ iPad Pro 10.5” ได้รับการยกเครื่องใหม่แบบรอบด้านเลยทีเดียว ซึ่งภายในวันนี้ ทางทีมงาน techmoblog จะพาทุกท่านไปรับชมว่า iPad Pro รุ่นใหม่ 10.5 นิ้ว ที่เข้ามาแทนที่รุ่นเดิม 9.7 นิ้ว จะมีความแตกต่างกันอย่างไร หากพร้อมแล้ว เราลองไปรับชมพร้อมๆ กันดีกว่าครับ
ดีไซน์ และการออกแบบ
iPad Pro 10.5" ยังคงเลือกใช้งานดีไซน์ที่เหมือนรุ่น 9.7" เช่นเดิม แต่ที่หน้าจอได้รับการขยายพื้นที่การแสดงผลให้มากขึ้น 20% เป็น 10.5 นิ้ว ในขณะที่ยังรักษาขนาดตัวเครื่องให้เท่ากับรุ่นก่อนได้ เนื่องจากพื้นที่จอที่เพิ่มมานั้น เป็นผลมาจากการลดขนาดขอบข้างของตัวเครื่อนั่นเอง ด้านการแสดงผล iPad Pro 10.5" ยังคงเลือกใช้งานจอภาพแบบ Retina Display เหมือนรุ่นก่อน แต่ได้รับการอัปเกรดความละเอียดมากขึ้นเป็น 2,224 x 1668 พิกเซล ต่างจาก iPad Pro 9.7" ที่มาพร้อมกับความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล อีกทั้ง iPad Pro 10.5 ยังมาพร้อมกับค่า Refresh Rate ที่ระดับ 120Hz ทำให้สามารถแสดงผลได้ลื่นมากขึ้น และตอบสนองการทำงานร่วมกับ Apple Pencil ได้ดีขึ้นด้วย
ประสิทธิภาพการทำงาน
อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า iPad Pro 10.5” ได้รับการยกเครื่องฮาร์ดแวร์ใหม่ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับขุมพลังตัวใหม่ Apple A10X ที่ทาง Apple ระบุว่า จะมีประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU เร็วกว่ารุ่นก่อนอย่าง Apple A9X ที่ใช้บน iPad Pro 9.7” ถึง 30% และมี GPU ถึง 12 Cores ทำให้ประมวลผลกราฟิกได้แรงขึ้นถึง 40% ด้วยกัน นอกจากนี้ iPad Pro 10” ยังได้ขยับความจุไปเริ่มต้นที่ 64GB แล้ว ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่เริ่มต้นด้วยความจุ 32GB เท่านั้น
ด้านแบตเตอรี่ของ iPad Pro 10.5” ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นเดียวกัน โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 30.4 Wh ต่างจาก iPad Pro 9.7” ที่มีแบตเตอรี่ 27.5Wh แต่ทาง Apple ระบุว่า iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเท่ากันครับ
ฟีเจอร์เด่นด้านอื่นๆ
นอกเหนือจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และสเปกที่แรงขึ้นแล้ว iPad Pro 10.5” ยังได้มีการปรับปรุงกล้องดิจิทัลให้ดีขึ้นกว่า iPad Pro 9.7” ด้วย โดยมาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียดเท่าเดิม 12 ล้านพิกเซล โครงสร้าง 6 ชิ้นเลนส์ แต่เพิ่มขนาดรูรับแสงกว้างขึ้นที่ f/1.8 พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ด้านกล้องหน้าได้รับการยกเครื่่องใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยความละเอียดกล้องมากขึ้นที่ 7 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ Full HD 1080p แล้ว
ส่วนระบบปฏิบัติการนั้น iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นจะได้อัปเกรดเป็น iOS 11 ในช่วงปลายปีนี้ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Split View แบ่งการทำงานออกเป็น 2 หน้าจอ หรือ Drag and Drop ที่สามารถย้ายรูปภาพ และข้อความจากหน้าต่างอื่นได้ง่ายๆ เพียงแค่ลากเท่านั้น
ปิดท้ายด้วยราคาวางจำหน่าย โดย iPad Pro 10.5” รุ่น Wi-Fi ความจุเริ่มต้น 64GB เปิดราคาในประเทศไทยเอาไว้ที่ 24,500 บาท ส่วน iPad Pro 9.7” รุ่น Wi-Fi ความจุเริ่มต้น 32GB เปิดราคาในประเทศไทยเอาไว้ที่ 22,900 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า iPad รุ่นใหม่นั้นมีราคาวางจำหน่ายที่สูงกว่ารุ่นเก่าเกือบ 2,000 บาทด้วยกัน แต่ก็แลกมากับหน้าจอแสดงผลที่กว้างขึ้น, ชิปเซ็ตประมวลผลที่เร็วขึ้น, แบตเตอรี่ที่มากขึ้น รวมถึงความจุภายในที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ซึ่งสุดท้ายแล้วคงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่า ต้องการ iPad ที่ตอบโจทย์ด้านใดมากที่สุดครับ
---------------------------------------
ที่มา : engadget, Apple
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 06/06/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |