แม้ว่าในประเทศไทยเรา รถยนต์ไฟฟ้าอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากมายนัก แต่ในประเทศสหรัฐอเมริการถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและความประหยัด และยังมีจุดเด่นคือวิ่งได้เงียบมากจนแทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลยหากไม่เร่งความเร็วถึงระดับหนึ่ง สำหรับคนขับและผู้โดยสารก็อาจจะมองว่าเป็นข้อดี แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับคนเดินถนนธรรมดาความเงียบของเครื่องยนต์กลับเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการโดนรถชนโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ซึ่งทางผู้หลักผู้ใหญ่ของอเมริกาก็ไม่ได้มองข้ามปัญหาเล็กๆ นี้ไป ล่าสุดจึงได้ออกกฎจราจรใหม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นต้องมีเสียงดังเมื่อวิ่งด้วยความเร็วต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเดินถนนถูกรถชนโดยไม่รู้ตัว
กฎระเบียบใหม่นี้เพิ่งอนุมัติโดยกระทรวงความปลอดภัยทางจราจรแห่งสหรัฐอเมริกา (US National Highway Traffic Safety Administration) โดยกำหนดให้รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4.5 ตันต้องมีเสียงดังเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วตั้งแต่ 30.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงลงไป เพื่อให้คนเดินถนนรับรู้ถึงรถที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้ได้ หากรถวิ่งด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กำหนดก็ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงเตือนเพราะเสียงลมและเสียงล้อหมุนจะดังจนคนทั่วไปสามารถได้ยินและระมัดระวังได้ทันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทางกระทรวงไม่ได้กำหนดตายตัวว่าเสียงเตือนที่ใช้จะต้องเป็นเสียงแบบไหน จึงขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเองว่าจะใช้เสียงเครื่องยนต์จำลอง หรือเสียงสัญญาณอื่นๆ โดยผู้ผลิตจะมีเวลาถึงเดือนกันยายนปี 2019 ในการติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนให้กับรถยนต์ของตนทุกคัน
หลังจากมีกฎข้อบังคับนี้ออกมาก็มีเสียงตอบรับในเชิงบวกจากผู้พิการทางสายตาชาวอเมริกัน ซึ่งพวกเขาเห็นว่ากฎนี้จะทำให้ทั้งผู้พิการทางสายตาและคนทั่วไปเดินบนท้องถนนได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมไปถึงนักปั่นจักรยานด้วย
Porsche Mission E
แม้ว่าการทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เงียบที่สุดจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการพัฒนารถ แต่ก็มีผู้ผลิตหลายยี่ห้อที่คิดสวนกระแสและพยายามทำให้รถยนต์ของตนเสียงดังขึ้นกว่าเดิมด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป เช่น Porsche ที่กำลังพัฒนาให้รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตซีดานรุ่น Mission E มีเสียงดังขึ้นเพื่อเอาใจผู้บริโภคกลุ่มรถสปอร์ตที่ชอบเสียงเครื่องยนต์ดังๆ แต่ยังไม่ค่อยมีเจ้าไหนพยายามทำเสียงรถให้ดังด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ในเมื่อมีกฏข้อนี้ออกมาแล้ว ผู้ผลิตก็ต้องปรับแนวคิดการออกแบบรถใหม่ให้เน้นไปที่ความปลอดภัยของคนเดินถนนมากขึ้น มากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยและสะดวกสบายของคนขับและผู้โดยสารเพียงอย่างเดียว
---------------------------------------
ที่มา : The Verge
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 21/11/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |