หลังจากที่ทางทีมงาน techmoblog ได้ทำการ รีวิวสมาร์ทโฟน ทั้งระดับกลาง และระดับไฮเอนด์ มาแล้วหลายรุ่น ในวันนี้ มาดู สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ อย่าง Nokia Asha 503 กันบ้าง โดยรุ่นนี้ ถือว่า เป็นรุ่นต่อยอดของ Nokia Asha 501 ที่ได้รับความนิยมในตลาดระดับล่างมาแล้วก่อนหน้านั้น แต่ได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ เฉียบกว่าเดิม โดยกรอบด้านนอกที่เป็นพลาสติกโปร่งใสเหมือนคริสตัล จึงทำให้ตัวเครื่องดูมีระดับมากขึ้นไปอีก แต่ยังคงฟีเจอร์ที่ครอบคลุมการใช้งานอย่างครบครัน โดยเฉพาะการใช้งานด้าน Social Network ถือว่า Nokia Asha 503 รุ่นนี้ ไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว มาชมกันว่า Nokia Asha 503 ดีกว่ารุ่นเดิมอย่างไร กับบทความ รีวิว Nokia Asha 503 โดยทีมงาน techmoblog ครับ
สเปค Nokia Asha 503
- จอแสดงผลกว้าง 3.0 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 262,144 สี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล (134 ppi)
- อินเทอร์เฟสแบบ Nokia Asha Software Platform เวอร์ชัน 1.2
- RAM ขนาด 64 MB
- รองรับ microSD card สูงสุด 32 GB
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
- แบตเตอรี่ขนาด 1200 mAh (BL-4U)
- รองรับ Wi-Fi และเครือข่าย 3G (900/2100 MHz)
- มี 6 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง Bright Red, สีเหลือง Yellow, สีเขียว Bright Green, สีฟ้า Cyan, สีขาว White และ สีดำ Black
>> สเปค Nokia Asha 503 อย่างละเอียด คลิกที่นี่
รีวิว Nokia Asha 503 : ดีไซน์ และ การออกแบบ
Nokia Asha 503 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 262,144 สี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล (134 ppi) พร้อมกระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass ป้องกันแรงกระแทก และรอยขีดข่วน
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา และ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน โดย Nokia Asha 503 รุ่นนี้ ไม่มีกล้องด้านหน้า
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มย้อนกลับ (Back) แบบสัมผัส ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งาน 2 แบบ นั่นก็คือ กด 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือกดค้าง เพื่อกลับหน้า Home
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้าย ไม่มีปุ่มควบคุมการทำงานใดๆ
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต microUSB และช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง เป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ด้านหลังตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ส่วนปุ่มด้านล่างนั้น ไว้กดและดันเพื่อแกะฝาด้านหลังออกนั่นเอง
โดยด้านข้างตัวเครื่อง จะเป็นช่องสำหรับใส่ microSD card รองรับสูงสุด 32 GB สามารถใส่ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อน
สำหรับซิมการ์ดที่ใช้นั้น เป็นแบบ microSIM ซึ่งวิธีการใส่ซิมการ์ดก็คือ ดึงถาดใส่ขึ้นมา แล้วสอดซิมการ์ดตามภาพครับ
ส่วนแบตเตอรี่บน Nokia Asha 503 มีความจุอยู่ที่ 1200 mAh (BL-4U)
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ได้แก่ หูฟังสีแดงสด ขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ และคู่มือการใช้งาน
รีวิว Nokia Asha 503 : อินเทอร์เฟส และ การใช้งานเบื้องต้น
Nokia Asha 503 มาพร้อมกับ อินเทอร์เฟสแบบ Nokia Asha Software Platform เวอร์ชัน 1.2 โดยในหน้า Lockscreen จะมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมา เหมือนกับบนแพลทฟอร์ม Android หรือ iOS ให้แตะแล้วสไลด์ เพื่อเปิดดูข้อความดังกล่าว
สำหรับการปลดล็อคหน้าจอ ทำได้ด้วยการปัดไปด้านซ้าย จะเข้าสู่หน้า Homescreen
หรือจะปัดขึ้น เพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูป ซึ่งเป็นเมนูลัดบน Nokia Asha 503 นั่นเอง
แอพพลิเคชั่นพื้นฐานบน Nokia Asha 503 ครับ จะเห็นได้ว่า ตัวไอคอนแอพฯ นั้น มีการจัดเรียงคล้ายกับบน Android หรือ iOS เช่นกัน แต่ไม่สามารถเพิ่ม Widget ได้เหมือนบน มือถือแอนดรอยด์
ส่วนการปัดไปด้านซ้าย จะเข้าสู่ฟีเจอร์ที่เรียกว่า Fastlane ซึ่งจะทำให้เข้าถึง แอพพลิเคชั่น ต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น ทั้ง Social Network เช่น Facebook, Twitter รวมไปถึง แอพพลิเคชั่นอื่นๆ และเกมอีกมากมาย
ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่า จะให้ฟีเจอร์ใดบ้าง ปรากฏบน Fastlane โดยตั้งค่าได้ที่หน้า Settings
เมื่อใช้นิ้วปัดจากด้านบนหน้าจอมาด้านล่าง จะพบกับ Notification Center สำหรับแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ รวมไปถึงสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้ เช่น เปิด-ปิด Bluetooth, เปิด-ปิด อินเทอร์เน็ต และเปิด-ปิด เสียง
มากันที่แอพพลิเคชั่นฟังเพลงอย่าง Music กันบ้างครับ โดยแอพฯ นี้ มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ที่มีชื่อว่า MixRadio ซึ่งจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อ อัพเดทระบบให้เป็นเวอร์ชัน 14.0.4 เสียก่อน ซึ่งจุดเด่นของ MixRadio ก็คือ สามารถฟังเพลงออนไลน์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน
สำหรับวิธีการใช้งานฟีเจอร์ MixRadio ก็ง่ายๆ ครับ เพียงแค่แตะไปที่ไอคอน MixRadio เลือก Mixes จากนั้นเลือกหมวดหมู่เพลงที่ต้องการจะฟัง สมมติว่า อยากฟังรวมฮิตเอเชียน เมื่อคลิกเข้าไป ก็จะมีให้เลือกว่า อยากฟังเพลงเอเชียนของประเทศไหน สมมติว่า เป็นเพลงเกาหลี ระบบก็ทำการสุ่มเพลงเกาหลีที่มีทั้งหมดมาให้ได้รับฟังกันครับ
สำหรับเบราว์เซอร์ที่ใช้บน Nokia Asha 503 จะเป็น Nokia Xpress Browser ซึ่งรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อผ่านทาง Wi-Fi หรือเครือข่าย 3G ได้ แต่เนื่องจากตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดเล็ก ความละเอียดน้อย อาจทำให้การอ่านหน้าเว็บไซต์ ไม่สบายตาเท่ากับมือถือหน้าจอใหญ่
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นครับว่า Nokia Asha 503 รุ่นนี้ รองรับการใช้งานด้าน Social Network อย่างครบครัน ทั้ง Facebook, Twitter รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับขาแชทอย่าง LINE, WhatsApp และ WeChat อีกด้วย
นอกจากนี้ Nokia Asha 503 ยังรองรับแอพพลิเคชั่นพื้นฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง, รองรับวิทยุ FM รวมไปถึง เกมที่มีมาให้ในเครื่องอีกหลากหลายเกม โดยไม่ต้องไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
แต่ถ้าหากอยากดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม คลิกเข้าไปที่แอพพลิเคชั่น Nokia Store แล้วค้นหาแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้เลยทันที
รีวิว Nokia Asha 503 : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
Nokia Asha 503 รุ่นนี้ มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง ที่ละเอียดขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED เพิ่มความสว่างขณะถ่ายภาพในที่แสงน้อย ส่วนระบบโฟกัสภาพ เป็นแบบ Fixed Focus ฉะนั้น Nokia Asha 503 รุ่นนี้ เหมาะสำหรับถ่ายภาพวิว ทิวทัศน์ มากกว่าที่จะเน้นถ่ายภาพแบบโฟกัสจุดใดจุดหนึ่ง สำหรับการชัตเตอร์ภาพ ให้แตะไปที่จุดใดจุดหนึ่งบนหน้าจอครับ
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานถ่ายรูปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปิด-ปิดไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ, ปรับสมดุลสีขาว, ใส่เอฟเฟกต์ให้กับภาพถ่าย, เปิด-ปิดเสียงชัตเตอร์ และกำหนดความละเอียดของภาพถ่ายได้ตามใจ
ส่วนการเปลี่ยนจากการถ่ายภาพนิ่ง มาเป็นการถ่ายคลิปวีดีโอ ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปัดไปด้านซ้าย
นอกจากนี้ ภาพที่ถ่ายแล้ว ยังสามารถส่งเป็นข้อความ, อีเมล หรือแชร์ไปยัง Social Network ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ลองมาดูตัวอย่างภาพจากกล้องบน Nokia Asha 503 กันครับ
รีวิว Nokia Asha 503 : บทสรุปการใช้งาน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับบทความ รีวิว Nokia Asha 503 รุ่นนี้ ซึ่งถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดอีกรุ่นที่น่าสนใจ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณที่จำกัด อีกทั้งยังรองรับแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ครบครัน ด้วยตัวเครื่องขนาดเล็ก กะทัดรัด ทำให้พกพาได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังรองรับทั้งเครือข่าย Wi-Fi และ 3G ได้ ทำให้ไม่ตกยุคด้านการอัพเดทผ่านทาง Social Network ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีราคาอยู่ในระดับสบายกระเป๋า เพียง 2,990 บาทเท่านั้น สามารถทดลอง และสัมผัสใช้งานกันได้ที่ โนเกีย ช็อป และตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านครับ
จุดเด่นของ Nokia Asha 503
• ดีไซน์ตัวเครื่องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ Layered Design ด้วยกรอบนอกซึ่งผลิตจากพลาสติกที่โปร่งใสคล้ายคริสตัล
• จอแสดงผลกว้าง 3.0 นิ้ว แบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 262,144 สี ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล (134 ppi)
• RAM ขนาด 64 MB
• รองรับ microSD card สูงสุด 32 GB
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• รองรับ Wi-Fi และเครือข่าย 3G (900/2100 MHz)
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 3.0 พร้อมฟังก์ชัน SLAM
• มีวิทยุ FM ในตัว
• ราคาจำหน่ายเพียง 2,990 บาท
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
• ระบบโฟกัสภาพเป็นแบบ Fixed Focus ไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสได้
• หน้าจอแสดงผลมีขนาดเล็ก และความละเอียดน้อย ไม่เหมาะกับการอ่านเว็บไซต์เนื่องจากไม่สบายตาเท่ากับ สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ความละเอียดสูง
• รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 3G ได้เพียงแค่ 2 คลื่นความถี่ (900/2100 MHz)
ข้อควรทราบ: “เครื่อง Nokia Asha 503 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง โนเกีย เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com
Update : 02/09/2020
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |