หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

ผลวิจัยจาก Harvard ชี้ การทำงานในออฟฟิศแบบเปิด (Open-Plan Office) ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง สื่อสารแบบตัวต่อตัวกันน้อยลง เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัว

ปัจจุบัน มีหลายบริษัทที่ออกแบบออฟฟิศให้เป็นแบบเปิด (Open-Plan Office) มากขึ้น โดยมีจุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้มีปฏิสัมพันธ์กัน, ร่วมมือกันทำงานมากขึ้น และสร้างโอกาสในการพูดคุยแบบตัวต่อตัวกันบ่อยขึ้นนั่นเอง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ออฟฟิศแบบเปิด (Open-Plan Office) อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อผลการวิจัยเผยว่า ออฟฟิศแบบเปิด ไม่ได้ทำให้คนสื่อสารกันมากขึ้นแต่อย่างใด

ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัย Harvard ในหัวข้อเรื่องผลกระทบของออฟฟิศแบบเปิด (Open-Plan Office) กับปฏิสัมพันธ์ของผู้ร่วมงาน โดยเข้าไปรวบรวมข้อมูลการออกแบบบริษัทในลิสต์ Fortune 500 ทั่วโลก พบว่า การออกแบบออฟฟิศเป็นแบบเปิดนั้น กลับทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ร่วมงานแบบตัวต่อตัวลดลงถึง 70% และหันไปใช้การสื่อสารแบบออนไลน์ อย่างเช่น การส่งอีเมล หรือแชทผ่าน Messenger สูงขึ้น

นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังเผยอีกด้วยว่า การทำงานในออฟฟิศแบบเปิดนั้น ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกิดจากเสียงรบกวนจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งอาจจะเป็นเสียงพูดคุย, เสียงเคาะคีย์บอร์ด หรือเสียงคุยโทรศัพท์ ส่งผลทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน อีกทั้งยังเกิดความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะกลัวคนรอบข้างจะเห็นหรือได้ยินว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บ้าง

แม้ว่าการทำงานในออฟฟิศแบบเปิด จะทำให้หันไปใช้การสื่อสารแบบออนไลน์มากขึ้น แต่จากผลการวิจัย พบว่า การสื่อสารแบบ video conference กลับลดลง

อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยจาก Harvard กลับได้ผลลัพธ์ที่สวนทางกับผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแอริโซนา ที่เชื่อว่า ออฟฟิศแบบเปิดนั้นทำให้พนักงานสื่อสารกับผู้ร่วมงานได้ดีขึ้น, มีความกระตือรือร้นในการทำงาน แตกต่างจากการมีห้องทำงานส่วนตัว

 

 

-------------------------------------
ที่มา : inc.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 19/08/2019

Business





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy