สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก OPPO อย่าง OPPO Joy นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่าเป็นหลัก ด้วย ราคาเพียง 4,490 บาท แต่สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิม และยังมาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 4 นิ้ว และ ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครัน ซึ่งในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Techmoblog ได้มีโอกาสนำเอาสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมารีวิวให้ทุกท่าได้ชมกัน ลองมาชมกันครับว่า สมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นนี้ จะน่าสนใจแค่ไหน
- หน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล ขนาด 4 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Cortex-A7 แบบ Dual-Core ความเร็ว 1.3 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟฟิค Mali-400 MP1
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 512 MB
- หน่วยความจำภายใน สำหรับเก็บข้อมูลขนาด 4 GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 32 GB
- กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อม LED แฟลช
- กล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด ระดับ VGA
- รองรับการเชื่อมต่อ WCDMA/HSDPA
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi, EDGE, GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
- มีระบบ GSP และ A-GPS ในตัว
- แบตเตอรี่ขนาด 1,700 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Color OS 1.2 (พัฒนาจากระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2)
สำหรับ OPPO Joy นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล ให้สีสันที่คมชัดอยู่พอสมควร ขนาดของตัวเครื่องนั้นไม่เล็กจนเกินไป สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว
ตัวเครื่องส่วนบนนั้นจะมาพร้อมกับ ลำโพงสำหรับสนทนา และ กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด ระดับ VGA ที่สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นประเภท Video Call ได้เป็นอย่างดี
ด้านล่างก็จะเป็นปุ่มควบคุมมาตรฐานสำหรับ ระบบปฏิบัติการ Android นั่นก็คือปุ่ม Menu, Home และ Back นั่นเอง ซึ่งปุ่มดังกล่าวนั้นสามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ตัวเครื่องด้านหลังมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียดระดับ 3 ล้านพิกเซล แต่จุดเด่นก็คือ ยังมาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ LED ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้เป็นอย่างดี
ตัวเครื่องด้านข้างส่วนล่างนั้น มาพร้อมกับช่องสำหรับชาร์จไฟ และ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ แบบ microUSB, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และ ร่องที่ทำไว้เป็นพิเศษ เพื่อสะดวกในการแกะฝาหลัง (ภาพบน) ส่วน ตัวเครื่องด้านข้างส่วนบน (ภาพล่าง) นั้นจะมาพร้อมกับช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ตัวเครื่องด้านข้างฝั่งซ้าย (ภาพบน) มาพร้อมกับ ปุ่มสำหรับเปิดปิดเครื่อง (Sleep/Wake) ส่วนฝั่งขวานั้น ก็จะมีเพียง ปุ่มสำหรับควบคุมเพื่อปรับระดับเสียงเท่านั้น
เมื่อแกะฝาหลังออก ก็จะพบกับแบตเตอรี่ ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามต้องการ โดยแบตเตอรี่บน OPPO Joy นั้น มีขนาดอยู่ที่ 1700 mAh ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
นอกจากนี้ OPPO Joy ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมกับอีกด้วย โดยซิมการ์ดที่ 1 นั้นจะเป็นแบบ miniSIM หรือซิมขนาดปกติ และ ตามมาด้วยซิมการ์ดที่สองที่เป็นแบบ MicroSim นั่นเอง
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า OPPO Joy นั้นรองรับการใช้งาน 2 ซิม ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยนซิมการ์ดได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่เปิดฝาหลังออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่า แต่ละช่องนั้น รองรับซิมที่ต่างชนิดกัน
ส่วนวิธีการใช้งานนั้น บน Color OS มีการแยกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ต้องการโทรออกจากซิมการ์ดใบไหน รวมถึง มีการระบุตัวเลขไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน ในรายการชื่อผู้ติดต่อว่า ผู้ติดต่อเหล่านั้น มีชื่ออยู่ในซิมการ์ดใบไหน หมดกังวลเรื่องความสับสนใจการใช้งานไปได้เลย
OPPO Joy นั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Color OS ซึ่งมีพื้นฐานมาจากระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ซึ่งมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึง อินเทอร์เฟสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในแบบฉบับของ OPPO
ในส่วนของ Notification Center นั้นก็มีเมนูสำหรับเปิดปิด ฟีเจอร์ในส่วนต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิด WiFi, เสียง หรือการหมุนหน้าจอ รวมถึงยังมีปุ่มลัดสำหรับการเข้าไปตั้งค่าเต็มรูปแบบได้ด้วย
แอพพลิเคชั่น ปฏิทิน ที่จะเข้ามาช่วยจัดการตารางนัดหมาย รวมถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าให้ระบบมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงวันและเวลาดังกล่าวได้ด้วย
แอพพลิเคชั่น นาฬิกาบน OPPO Joy นั้นก็สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งปลุก การจับเวลา การนับเวลาถอยหลัง ไปจนถึงการดูเวลาโลก
และในส่วนของแอพพลิเคชั่นสภาพอากาศ ก็มีการแสดง อนิเมชั่น ที่สวยงาม ตามสภาพอากาศนั้นๆ โดยคุณสามารถเพิ่มเมือง หรือประเทศที่ต้องการดูสภาพอากาศเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
หากคุณเป็นที่ต้องจดบันทึกบ่อยๆ แอพพลิเคชั่น จดบันทึกบน OPPO Joy นั้นจะช่วยให้คุณจดบันทึกได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการจดบันทึกโดยการวาดรูปได้อีกด้วย และยังรวมไปถึงการถ่ายรูปเพื่อแทรกลงในบันทึกของคุณด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับแอพพลิเคชั่นเล็กๆ แต่ใช้งานกันบ่อยอย่างเครื่องคิดเลขนั้น ก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นในการคำนวณที่ค่อนข้างจะครบครัน แต่คุณยังสามารถหาเครื่องคิดเลขในระดับโปรเพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ใน Google Play Store
นอกจากนี้ OPPO Joy ยังรองรับการใช้งานเป็น วิทยุ FM อีกด้วย โดยก่อนที่คุณจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อชุดหูฟังเข้ากับตัวเครื่องเสียก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับ OPPO Joy นั้นรองรับการชมภาพยนตร์ ความละเอียดสูงได้ในระดับ HD และด้วยหน้าจอขนาด 4 นิ้วนั้นก็ถือว่าไม่เล็กจนเกินไปที่จะรับชมภาพยนตร์
ในส่วนของเบราว์เซอร์เริ่มต้นนั้นก็จะมี Google Chrome มาให้ได้ใช้งาน แต่อย่างไรก็ดี หากคุณถนัด เบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ก็สามารถหาดาวน์โหลดมาเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
OPPO ยังคงห่วงข้อมูลสำคัญของคุณ จึงได้นำเอาแอพพลิเคชั่นอย่าง แบ็คอัพและคืนค่า มาให้ได้ใช้งานกัน โดยคุณสามารถสร้างแบ็คอัพได้ตลอดเวลา เพื่อย้อนกลับมาใช้ใหม่ในกรณีที่คุณทำข้อมูลบางอย่างหายไป
คุณยังคงสามารถจัดการไฟล์ประเภทต่างๆ ได้ตามต้องการ โดยแอพพลิเคชั่น จัดการไฟล์นั้น จะมีการแยกประเภทของไฟล์ให้ได้เห็นอย่างชัดเจน สะดวกต่อการ ลบ แชร์ และ จัดการหน่วยความจำภายใน
นอกจากนี้ บน Color OS คุณยังคงสามารถเปลี่ยน ธีม, ลูกเล่น, วิดเจ็ต และ Wallpaper ต่างๆ ได้มากมาย โดยจะมีให้เลือกเพิ่มเติมแบบออนไลน์อีกด้วย
OPPO Joy ยังมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณจัดการเรื่องพลังงานของแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น โดยคุณสามารถเปลี่ยนไปใช้โหมดประหยัดแบตได้ หากแบตเตอรี่ของคุณเหลือน้อย
OPPO Joy มาพร้อมกับ GPS และ A-GPS ในตัว จึงสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นประเภทนำทางได้ ยกตัวอย่างเช่น Google Maps เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่า การจับสัญญาณ GPS ของ OPPO Joy นั้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
และถ้าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการรับชมคลิปวีดีโอผ่าน Youtube แล้วล่ะก็ คุณจะสามารถสนุกกับการรับชมคลิป ได้ทุกที่ ทุกเวลา กับ OPPO Joy ของคุณ
อย่างไรก็ดี ยังคงมีแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายนับแสนรายการ ที่รอให้คุณเข้าไปค้นหา และ ดาวน์โหลดบน Google Play Store
สำหรับ OPPO Joy นั้นมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิคเฉพาะ แบบ Mali-400 MP1 ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยประมวลผลกราฟฟิคในระดับกลางที่สามารถเล่นเกมทั่วไปได้
ซึ่งจากการทดลองเล่นเกม 3D แล้ว ก็พบว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล รวมถึง มีการแสดงผลที่ชัดเจนและสวยงามพอสมควร แต่สำหรับบางเกมนั้น จะมีบางครั้งที่อาจจะโหลดนานนิดหน่อย
แต่ถึงแม้จะโหลดนานกว่าเนื่องจาก ชิปประมวลผลเป็นแบบ Dual-Core แต่หลังจากโหลดแล้วก็สามารถเล่นได้ตามปกติ และ ไม่มีอาการหน่วงมากมายจนเกินไป ก็ถือว่าการทดสอบการเล่นเกมนั้น ผ่านครับ
สำหรับกล้องดิจิตอลบน OPPO Joy นั้นจะสามารถตั้งค่าได้อยู่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของ Scene ที่สามารถเลือกรูปแบบการถ่ายได้ โดยมาตรฐานแล้วจะถูกตั้งไว้ที่โหมด Auto
โดยคุณสามารถเลือกถ่ายภาพแบบ พาโนรามา รวมถึง Beauty ช็อตได้ด้วย โดย Beauty Shot จะช่วยให้หน้าของคุณดูเนียนขึ้นมากพอสมควร เหมาะสำหรับสาวๆ เป็นอย่างยิ่ง
ส่วนการถ่ายวีดีโอนั้น ก็จะรองรับการถ่ายด้วยความละเอียดระดับ 480p (ระดับ SD) และ ระดับ 720p (HD) ซึ่งก็ถือว่าชัดเจนดีในระดับหนึ่ง โดยคุณสามารถเลือกถ่ายวีดีโอได้ด้วยการกดปุ่มสีแดงดังภาพด้านบน
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ไม่เล็ก และ ไม่ใหญ่จนเกินไป
- รองรับการเชื่อมต่อ WCDMA/HSDPA
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi, EDGE, GPRS
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน BLuetooth
- มี GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นประเภทนำทางได้ทันที
- มีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคเฉพาะแบบ Mali-400 MP1
- มี LED แฟลช ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ
- แบตเตอรี่ขนาด 1,700 mAh ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน
- รองรับการใช้งานเป็นวิทยุ FM
- สามารถถ่ายวีดีโอได้ในระดับ HD
- รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 32 GB
- ราคาไม่แพง เพียง 4,490 บาทเท่านั้น
- แรมในตัวเครื่องมีเพียง 512 MB ถือว่าน้อยแต่พอใช้งานได้
- กล้องดิจิตอลด้านหลังมีความละเอียดที่เพียง 3 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผลเป็นเพียงแค่แบบ Dual-Core
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มครับ สำหรับ OPPO Joy รุ่นนี้ ด้วยราคาเพียง 4,490 บาท แต่สิ่งที่ได้กลับมาไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องขนาดกระทัดรัด และสเปคที่อยู่ในระดับคุ้มค่า ตินิดหน่อยตรงที่แรมมีเพียงแค่ 512MB เท่านั้น แต่โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรองรับการใช้งาน GPS รวมถึงรองรับการเชื่อมต่ออย่างครบครัน ก็ถือว่า OPPO Joy เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจสำหรับคนงบน้อยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้อย่าลืมว่า สมาร์ทโฟนสุดคุ้มตัวนี้ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมอีกด้วย ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาถูก แต่ครบครันทุกฟังก์ชั่นอยู่ในตอนนี้ล่ะก็ ห้ามพลาดทดลองชมลองใช้ OPPO Joy เป็นอันขาดครับ
Update : 26/03/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |