หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] OPPO N1 mini มือถือ Selfie กล้องหมุนได้ 195 องศา กับความสามารถที่ไม่มินิ ในราคาหมื่นต้นๆ

หลังจากที่ ออปโป้ ได้เปิดตัว OPPO N1 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่สร้างความฮือฮาด้วยคอนเซปท์ "กล้องหมุนได้" ด้วยการหมุนจากกล้องด้านหลัง มาเป็นกล้องด้านหน้า ทำให้กลายเป็น มือถือ Selfie ที่มีความละเอียดมากที่สุด และล่าสุด ออปโป้ ได้เปิดตัวรุ่นสานต่อออกมา นั่นก็คือ OPPO N1 mini ซึ่งถือว่า เป็นรุ่นประหยัดของ OPPO N1 นั่นเอง

สำหรับดีไซน์ของ OPPO N1 mini นั้น ต้องบอกว่า ถอดแบบมาจาก OPPO N1 เลยก็ว่าได้ แต่มีขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่า ตามชื่อ mini นั่นเอง อย่างไรก็ดี ในส่วนของสเปคอื่นๆ ต้องบอกว่า ไม่ได้ตามคำว่า มินิ แต่อย่างใดครับ เพราะมาพร้อมกับสเปคแบบจัดเต็มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor, RAM 2 GB และที่สำคัญ กล้องด้านหลัง ยังละเอียดสุดๆ ถึง 13 ล้านพิกเซล และเมื่อหมุนใช้งานเป็นกล้องด้านหน้า ทำให้สามารถ ถ่ายภาพ Selfie แจ่มๆ ได้สบายเลยทีเดียว และที่สำคัญ ลูกเล่นของกล้องถ่ายภาพบน OPPO N1 mini อย่างโหมด Beauty Plus หรือโหมดหน้าสวย ถือว่า เป็นโหมดที่ถูกอกถูกใจ ขา Selfie เป็นอย่างมากอีกด้วย มาดูกันครับว่า OPPO N1 mini รุ่นนี้ จะมีความน่าใช้ และน่าสนใจตรงไหนอีกบ้าง กับบทความ รีวิว OPPO N1 mini โดยทีมงาน techmoblog ครับ

สเปค OPPO N1 mini

- จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8928 chipset) ความเร็ว 1.6 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 305 GPU
- RAM 2 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB
- ระบบปฏิบัติการ Color OS เวอร์ชัน 1.4 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 (Jelly Bean)
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
- กล้องด้านหน้า ใช้การหมุนสลับจากด้านหลัง มาด้านหน้า โดยโมดูลกล้อง สามารถหมุนได้ 195 องศา
- แบตเตอรี่แบบ Li-Ion 2140 mAh

>> สเปค OPPO N1 mini อย่างละเอียด คลิกที่นี่

รีวิว OPPO N1 mini : ดีไซน์ และ การออกแบบ

OPPO N1 mini มาพร้อมกับจอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi) ซึ่งมีดีไซน์เหมือนกับ OPPO N1 ครับ แต่ขนาดเล็กกว่า แต่ก็ถือเป็นข้อดีตรงที่ จับใช้งานได้ถนัดมือมากขึ้น

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor โดย OPPO N1 mini นั้น ไม่มีกล้องด้านหน้า แต่เราสามารถหมุนสลับ กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาเป็นกล้องด้านหน้าได้ ซึ่งหมุนได้ 195 องศา ถ่ายภาพ Selfie ได้สบายๆ ครับ

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงาน 3 ปุ่มแบบสัมผัส พร้อมไฟ LED ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ (Back)

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อคหน้าจอแสดงผล

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ซิมการ์ด

ด้านบนของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มควบคุมการทำงาน หรือพอร์ตการเชื่อมต่อใดๆ ครับ แต่เราสามารถหมุนกล้อง ให้มีลักษณะดังภาพด้านบนได้

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ microUSB, ช่องเสียบสายหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนสำหรับสนทนา

OPPO N1 mini ถูกออกแบบให้เป็นแบบตัวเครื่องชิ้นเดียว ไม่สามารถถอดฝาหลังได้ โดยฝาหลัง จะมีลักษณะเป็นพลาสติกผิวเรียบลื่น ประกอบด้วยกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และเหนือโลโก้ OPPO คือ ไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง

สำหรับอุปกรณ์เสริมของ OPPO N1 mini ชิ้นนี้ มีชื่อว่า O-Click Control ครับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมการทำงานของตัวเครื่องแบบไร้สาย โดยการออกแบบของ O-Click Control นั้น มีลักษณะเป็นทรงกลม สามารถนำไปคล้องกับลูกกุญแจ เพื่อทำเป็นพวงกุญแจได้ โดยคุณสมบัติของ O-Click Control นั้น มีมากมายหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

• สะดวกมากขึ้นในการถ่ายภาพหมู่ ไม่จำเป็นต้องตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพอีกต่อไป เพราะเราสามารถใช้ O-Click Control กดถ่ายภาพได้เลยทันที ซึ่งระยะการถ่ายภาพ อยู่ที่ 5-8 เมตร
• ในกรณีที่จำไม่ได้ว่า วางสมาร์ทโฟนไว้ที่ใด สามารถกด O-Click Control เรียกหาได้ทันที ซึ่งมีระยะการค้นหาอยู่ที่ 10-15 เมตร
• หมดห่วงเรื่องลืมมือถือไปได้เลย เพราะ O-Click Control มีระบบแจ้งเตือน ในกรณีที่ผู้ใช้ลืมทิ้งไว้ หรืออยู่นอกเขตสัญญาณ

รีวิว OPPO N1 mini : อินเทอร์เฟส และ การใช้งานเบื้องต้น

OPPO N1 mini มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Color OS เวอร์ชัน 1.4 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 (Jelly Bean) โดยการปัดไปด้านขวา คือการปลดล็อค ส่วนการกดปุ่ม Power ค้างไว้ จะเข้าสู่เมนูลัด ซึ่งได้แก่ ปิดเครื่อง, รีสตาร์ท, เปิด-ปิดเสียง, เปิด-ปิดสั่น และโหมดเครื่องบิน

ในส่วนของหน้า Homescreen นั้น ผู้ใช้สามารถปรับแต่งวอลเปเปอร์ หรือ เลือกแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยมาสร้างเป็น shortcut ซึ่งสามารถเพิ่มหน้า Homescreen ได้สูงสุด 9 หน้าด้วยกัน

การแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง จะสามารถเปลี่ยน Widget, วอลเปเปอร์, เอฟเฟกต์ และธีมได้ตามใจชอบ

การปัดหน้าจอไปยังด้านขวา จะเป็นการเข้าสู่โหมดถ่ายภาพด่วน หรือ Photo Space โดยสามารถเข้าสู่โหมดกล้องเพื่อถ่ายภาพได้ทันที ซึ่งภาพที่แสดงนั้น จะเป็นแบบไทม์ไลน์ เรียงตามวัน และเวลาที่ถ่ายภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าสู่ แอปพลิเคชั่นกล้อง, คลังภาพ (Gallery), หน้าแอปพลิเคชั่นรวม รวมถึงการเข้าสู่โหมดการถ่ายคลิปวีดีโอ และบันทึกเสียง ได้จากส่วนนี้เช่นกัน โดย Photo Space ไม่สามารถลบออกจากหน้า Homescreen ได้

Notification center หรือแถบการแจ้งเตือน สามารถเลือกตั้งค่า เมนูลัด ที่ใช้งานบ่อย ได้จากส่วนของ การตั้งค่า นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความสว่างของหน้าจอ, เปิด-ปิดการเล่นเพลง และเข้าสู่ แอปพลิเคชั่น การตั้งค่า (Settings) ได้จากส่วนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

Task manager ฟีเจอร์ที่สามารถสลับใช้งานเป็นแอปพลิเคชั่นอื่น (Multitasking) หรือปิดแอปพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่มหน่วยความจำ RAM ให้กับตัวเครื่อง

ส่วนการแตะปุ่ม Home ค้างไว้ จะเป็นการใช้งาน Google Now ครับ

มากันที่หน้า แอปพลิเคชั่นรวม บน OPPO N1 mini กันบ้างครับ ซึ่งประกอบด้วย แอปพลิเคชั่นพื้นฐาน ของ มือถือแอนดรอยด์ ที่มีให้ใช้กันอย่างครบครัน ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น เพิ่มเติม ได้จาก Play Store

สำหรับส่วนของ Multi Finger Gesture หรือการใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหว ผู้ใช้สามารถ กำหนดท่าทางสำหรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การหมุนกล้อง เพื่อเปิดใช้งานกล้องด้านหน้า, ป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ, วาดเป็นรูปวงกลม เพื่อเปิดกล้อง, โหมดถุงมือ และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ OPPO N1 mini ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Gesture Panel หรือการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยท่าทาง เช่น เปิดใช้งานกล้องดิจิตอล ให้วาดเป็นรูปตัว O หรือเปิดใช้งานไฟฉาย ให้วาดเป็นรูปตัว V ซึ่งสามารถทำได้แม้ว่าหน้าจอจะดับอยู่ครับ

สำหรับ เบราว์เซอร์ บน OPPO N1 mini นั้น เป็น Google Chrome ครับ ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งแนวตั้ง และแนวนอน รองรับการแสดงผลภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ

ในส่วนของโหมดการใช้งานโทรศัพท์ ถือว่า มีอินเทอร์เฟสการใช้งานที่เรียบหรู ใช้งานง่าย ซึ่ง OPPO N1 mini รองรับการใช้งานซิมการ์ดเดียว

แอปพลิเคชั่น นาฬิกา รองรับการใช้งานได้ 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ เป็นนาฬิกาปลุก, ดูเวลาโลก, นับถอยหลัง หรือเป็นนาฬิกาจับเวลาในตัว

Weather แอปพลิเคชั่นสภาพอากาศ ซึ่งจะแสดงผลตามตำแหน่งที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ นอกจากนี้ ยังสามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้อีกด้วย โดยอินเทอร์เฟสที่ใช้ จะเป็นไปตามสภาพอากาศ ณ เวลานั้น

OPPO N1 mini นั้นมาพร้อมกับระบบ GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นประเภท นำทาง ได้ทันที รวมถึงแอปพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง Google Maps ครับ

สำหรับ เครื่องเล่นเพลง หลายๆ ท่านคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วใน มือถือออปโป้ หลายๆ รุ่น ซึ่งมีอินเทอร์เฟสที่สวยงาม โดยเป็นรูปแผ่นเสียงนั่นเอง วิธีการเปิดเพลงก็คือ กดที่ปุ่ม Play หรือลากเข็มไปไว้บนแผ่นเสียง

แอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง เครื่องคิดเลข ก็มีให้ใช้งานบน OPPO N1 mini เช่นกัน

รวมไปถึง เครื่องบันทึกเสียง และ ไฟฉายครับ

ทดสอบการเล่นเกมกันบ้าง โดย OPPO N1 mini มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8928 chipset) ความเร็ว 1.6 GHz ซึ่งจากการทดสอบ ถือว่า เล่นได้ลื่นไหล ไม่กระตุก

มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 10779 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 19471 คะแนน

ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 5 จุดครับ

รีวิว OPPO N1 mini : แอปพลิเคชันแนะนำจาก ออปโป้

แบ็คอัพ แอปพลิเคชั่นสำหรับแบ็คอัพข้อมูลทั้งหมดบนสมาร์ทโฟน

ตัวจัดการไฟล์ เป็นการจัดระเบียบให้กับตัวเครื่อง เนื่องจาก OPPO N1 mini มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card ได้ ฉะนั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องบริหารพื้นที่ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน

O-Cloud เป็นแอปพลิเคชั่นสำรองข้อมูล (backup) บนกลุ่มเมฆ (cloud) โดยสามารถสำรองข้อมูลได้ทั้ง รายชื่อผู้ติดต่อ และ SMS ซึ่งถือว่า มีความปลอดภัยสูง

แอปพลิเคชั่น จัดการแบตเตอรี่ จะเป็นการบอกสถานะของแบตเตอรี่ว่า เหลือกี่เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้งานได้นานกี่ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีโหมด ประหยัดแบตเตอรี่ และโหมดแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 40%

แอปพลิเคชั่น ข้อมูลการใช้งาน เป็นการกำหนด data การใช้งานอินเทอร์เน็ตในแต่ละเดือน ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่า สามารถใช้งานได้ทั้งหมด กี่ MB / GB ต่อเดือน พร้อมกับการแจ้งเตือน เมื่อมีการใช้งานเฉลี่ยต่อวันมากเกินไป นอกจากนี้ ยังสามารถดูข้อมูลการใช้งาน Wi-Fi ได้อีกด้วย

O-Click แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์เสริมอย่าง O-Click Control ซึ่งจำเป็นต้องเปิดใช้งาน Bluetooth เสียก่อน

ปกป้องแอปพลิเคชั่น เป็นการเข้ารหัสเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอก เข้าใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว เช่น Facebook, LINE หรือ Twitter ซึ่งการปลดล็อค มีทั้งแบบใส่รหัสผ่าน และการใช้รูปแบบเพื่อปลดล็อค

Guest mode สามารถตั้งค่าได้ว่า ถ้าหากใช้งานแบบ Guest mode จะสามารถเข้าถึง แอปพลิเคชั่นใดได้บ้าง

โหมดวันหยุด เมื่อเปิดใช้งาน ผู้ติดต่อที่ไม่ได้ถูกตั้งค่าให้ยกเว้นโหมดดังกล่าว ทั้งสายเรียกเข้า และการแจ้งเตือนต่างๆ จะไม่ส่งเสียง และถ้าหากผู้ติดต่อทั่วไป โทรเข้ามา 3 ครั้ง ภายใน 3 นาที ครั้งที่ 3 จะมีเสียงเรียกเข้าแจ้งให้ทราบ

แอปพลิเคชั่น บล็อค สำหรับบล็อคเบอร์แปลก, เบอร์ขายประกัน หรือบล็อคข้อความขยะที่ไม่ต้องการได้

รีวิว OPPO N1 mini : ทดสอบกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมจุดเด่น กับกล้องหมุนได้

อย่างที่ทุกท่านทราบกันอยู่แล้วครับว่า OPPO N1 mini รุ่นนี้ เป็นรุ่นสานต่อของ OPPO N1 ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซปท์ กล้องหมุนได้ ที่ผู้ใช้สามารถสลับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาเป็นกล้องด้านหน้าได้ โดยโมดูลกล้อง สามารถหมุนได้ 195 องศา อย่างไรก็ดี ฟีเจอร์การใช้งานกล้อง สำหรับการใช้งานด้านหลัง และด้านหน้า จะแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้

สำหรับการถ่ายด้วยกล้องด้านหลังแบบปกติ จะมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือก 8 แบบด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, HDR, Ultra-HD, Beauty, พาโนรามา, Slow Shutter, รูปถ่ายมีเสียง และภาพ GIF

แต่เมื่อสลับมาใช้งานกล้องด้านหน้า จะเหลือแค่ 4 โหมดครับ ได้แก่ ปกติ, Beauty, รูปถ่ายมีเสียง และ GIF ซึ่งส่วนใหญ่ ผู้ใช้มักจะเลือกโหมด Beauty กันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นการถ่ายภาพแบบ Selfie นั่นเอง

นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกฉากถ่ายภาพได้ 6 แบบด้วยกัน ได้แก่ อัตโนมัติ, บุคคล, ทิวทัศน์, เคลื่อนไหว, กลางคืน และดวงอาทิตย์ตก

รวมไปถึงการเปิด-ปิดไฟแฟลช และการตั้งค่าถ่ายภาพอื่นๆ เช่น เลือกความละเอียดของภาพถ่าย, ปรับ White Balance, การตั้งค่าการถ่ายวีดีโอ, เปิด-ปิดการสัมผัสหน้าจอเพื่อถ่ายรูป, เปิด-ปิด Time Lapse, เปิด-ปิดเสียงชัตเตอร์ และเปิดตำแหน่งของภาพถ่าย

ลองมาชมตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล บน OPPO N1 mini กันครับ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดเต็ม แบบไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ)

รีวิว OPPO N1 mini : บทสรุปการใช้งาน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับบทความรีวิว OPPO N1 mini มือถือกล้อง Selfie ที่มีจุดเด่นตรงกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถหมุนได้ 195 องศา สลับมาเป็นกล้องด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซลได้ นอกจากนี้ กล้องของ มือถือออปโป้ ยังมีจุดขายตรงโหมด Beauty หรือโหมดหน้าสวย เรียกได้ว่า ถูกอกถูกใจสาวๆ กันอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น OPPO N1 mini ยังรองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม หรือท่องเว็บ โดยราคาของ OPPO N1 mini อยู่ที่ 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และสีฟ้ามินท์ เรียกได้ว่า คุ้มค่าเกินราคามากทีเดียวครับ

จุดเด่นของ OPPO N1 mini

• จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi)
• หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor (Qualcomm Snapdragon MSM8928 chipset) ความเร็ว 1.6 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 305 GPU
• RAM 2 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, ชุดเลนส์ 6 ชิ้น และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.0
• กล้องด้านหน้า ใช้การหมุนสลับจากด้านหลัง มาด้านหน้า โดยโมดูลกล้อง สามารถหมุนได้ 195 องศา
• แบตเตอรี่แบบ Li-Ion 2140 mAh
• รองรับการใช้งานร่วมกับ O-Click Control อุปกรณ์เสริมแบบไร้สาย
• รองรับการใช้งานผ่านระบบ 3G ทุกเครือข่าย
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
• โหมดถ่ายภาพแบบ Ultra-HD ด้วยการถ่ายภาพจำนวน 6 ภาพ แล้วเลือกภาพที่ดีที่สุดมารวมกัน ทำให้ได้ภาพความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล
• Super Zoom ซูมภาพได้คมชัด แบบไม่สูญเสียรายละเอียดของภาพถ่าย

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
• ระบบปฏิบัติการที่ใช้ ยังไม่ใช่เวอร์ชันอัพเดทล่าสุด (OPPO N1 mini มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Color OS เวอร์ชัน 1.4 ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean)
• ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย microSD card ได้
• ไม่รองรับการใช้งานกับเครือข่าย 4G LTE

ข้อควรทราบ: “เครื่อง OPPO N1 mini ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ออปโป้ เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

 

---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com

Update : 26/03/2015

OPPO N1 Mini รีวิว OPPO N1 mini





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy