หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

Plastc สตาร์ทอัพบัตรเครดิตครอบจักรวาล เชิดเงินสนับสนุนกว่า 300 ล้านบาทประกาศล้มละลายโดยที่ไม่เคยส่งสินค้าให้ลูกค้าแม้แต่ชิ้นเดียว

ในยุคที่ธุรกรรมทางการเงินแบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาทแทนเงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่มักจะพกบัตรเครดิตเอาไว้หลายใบจนกระเป๋าตุง จะดีแค่ไหนหากเราสามารถรวมบัตรเครดิตทุกใบเอาไว้ได้ในบัตรใบเดียว? แน่นอนว่าชีวิตเราคงจะง่ายขึ้นไม่น้อย และนี่คือหนึ่งในไอเดียธุรกิจสตาร์ทอัพที่ได้รับความสนใจมากในช่วง 2-3 ปีก่อน แต่ปัจจุบันมันกลับกลายเป็นความฝันที่สุดท้ายก็สลายไปในอากาศเสียดื้อๆ และล่าสุด Plastc คือตัวอย่างล่าสุดที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แถมยังทิ้งให้ผู้สนับสนุนเงินทุนปวดใจเล่นเพราะไม่ได้ของอีกด้วย


คลิปโปรโมตของบัตร Plastc

Plastc เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2014 นำเสนอโปรเจ็คท์บัตรครอบจักรวาลที่รวมบัตรเครดิตและบัตรเดดิตทุกใบเอาไว้ในบัตรเดียว ในราคา $155 หรือราว 5,300 บาท โปรเจ็ตท์ดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมียอดพรีออร์เดอร์ถึง 80,000 ใบและเงินสนับสนุนจากการเปิดระดมทุนกว่า $9,000,000 หรือราว 300 ล้านบาท แต่กระนั้นทาง Plastc กลับเลื่อนวันจัดส่งสินค้าออกไปหลายต่อหลายครั้ง ลากยาวข้ามปีจนเริ่มไม่ชอบมาพากล ท่ามกลางความผิดหวังและความเดือดดาลของผู้สนับสนุนนับหมื่น ในที่สุดวันนี้ Plastc ก็ออกมาประกาศว่า บริษัทของพวกเขากำลังเข้าสู่ขั้นตอนล้มละลาย ซึ่งหมายความว่าเงินทุนสนับสนุนกว่า 300 ล้านบาท และบัตรครอบจักรวาลที่หลายคนตั้งความหวังเอาไว้กำลังจะหายไปกับสายลม

Plastc ได้ประกาศเรื่องการล้มละลายเอาไว้ในเว็บไซต์ พร้อมกับระบุว่าพนักงานทุกคนถูกเลย์ออฟหมดแล้ว แผนกดูแลลูกค้า และช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งหมดก็ถูกปิดไปด้วยเช่นกัน แม้ที่ผ่านมา พวกเขาจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะผลักดันให้สินค้าออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็ตาม และยอมรับว่าผลลัพธ์ที่ออกมาล้วนน่าผิดหวังทั้งต่อพวกเขาเองและต่อผู้สนับสนุนทุกคน

นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่สตาร์ทอัพบัตรครอบจักรวาลพบกับจุดจบเช่นนี้ ก่อนหน้า Plastc เคยมี Coin สตาร์ทอัพอนาคตไกลเคยทำมาก่อนแล้ว และได้รับความสนใจอย่างมากจากความสำเร็จของคลิปไวรัลที่มียอดวิวกว่า 10 ล้าน ตามที่เห็นด้านล่าง :

ในตอนแรก Coin ตั้งเป้ายอดระดมทุนไว้ที่ $50,000 หรือราว 1.7 ล้านบาทก่อนถึงปลายปี 2013 ซึ่งบรรลุตามเป้าที่วางไว้ภายในเวลาแค่ 47 นาทีเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับไม่มีการจัดส่งสินค้าใดๆ เกิดขึ้น จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี สุดท้าย Coin ก็ปิดตัวลงไปดื้อๆ และขายเทคโนโลยีอุปกรณ์ wearable ให้กับ FitBit ปล่อยให้ผู้ที่วางเงินพรีออเดอร์ไปในทีแรกต้องคอยเก้อ โดยที่ไม่สามารถไปเรียกร้องอะไรจากใครได้

ที่น่าแปลกก็คือทั้งกรณีของ Plastc และ Coin ต่างก็ได้รับเงินทุนสนับสนุนไปแล้วจำนวนมาก แต่ทำไมถึงไม่สามารถส่งสินค้าให้ถึงมือผู้พรีออร์เดอร์ได้แม้แต่คนเดียว

ท่ามกลางสตาร์ทอัพที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในปัจจุบันยังมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกมากไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คท์แบบใด และส่วนใหญ่ผู้บริโภคอย่างเราก็มักจะไม่มีโอกาสได้รู้ว่าปัญหาที่อยู่เบื้องหลังความล้มเหลวนั้นคืออะไรกันแน่ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการลงทุนของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพอย่างจริงจังกันเสียที?

 

---------------------------------------
ที่มา : The Verge, Plastc, Magnifymoney

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 21/04/2017

Plastc





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy