อุปสรรคที่เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายต้องเผชิญคือการบริโภคพลังงานแบตเตอรี่อย่างมหาศาลของตัวเกม และปริมาณการใช้ดาต้า 3G/4G ของตัวเกมที่ไม่รู้จะเกินแพ็คเกจเมื่อไหร่ สำหรับปัญหาแรกนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ต้องหนักใจเท่าไหร่เพราะแค่เราพกแบตสำรองติดตัวไว้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว แต่สำหรับปัญหาปริมาณการใช้ดาต้าอาจจะต้องมานั่งวางแผนกันสักหน่อยครับ
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า Pokemon Go ใช้ปริมาณเน็ตเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของสื่อต่างๆ เช่น The Wall Street Journal ให้ข้อมูลว่าประมาณ 10 MB ต่อชั่วโมง ในขณะที่ Sensor Tower ทดสอบอยู่ที่ 20 MB ต่อชั่วโมง ถ้าเราลองนำข้อมูลที่ได้จากทั้ง 2 แหล่งมาเฉลี่ยๆ กัน จะสรุปได้ว่า Pokemon Go ใช้ปริมาณดาต้าเฉลี่ย 15 MB ต่อชั่วโมง
สำหรับผู้ที่เล่นจริงจังอาจใช้เวลาอยู่ในเกมวันละหลายชั่วโมง สมมติว่าใช้เวลาเล่น 8 ชั่วโมงต่อวันก็จะใช้เน็ตไปประมาณ 120 MB หากเล่นทุกวัน ใน 1 เดือนเราจะใช้ดาต้าไปประมาณ 3.6 GB ดังนั้นหากเราต้องการแพ็คเกจ 3G/4G มาใช้เล่น Pokemon Go เป็นหลักโดยไม่ติด FUP จะต้องเลือกแพ็คเกจที่ให้เน็ตเราได้ตั้งแต่ 3.6 GB ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นบางคนอาจจะเลือกใช้แพ็คเกจ 299 บาทซึ่งราคาถูกที่สุดเพราะคิดว่ามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า หากต้องการเน็ตเพิ่มก็ค่อยซื้อแพ็คเกจเสริมเอา เราจึงได้ลองนำแพ็คเกจรายเดือนของทั้ง AIS, Dtac และ Truemove H ในราคา 299 บาท และแพ็คเกจที่ให้เน็ตเกิน 3.6 GB ที่ราคาถูกที่สุดคือ 399 บาทมาเปรียบเทียบกันตามตารางด้านล่าง
จากตางรางเปรียบเทียบดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่า แพ็คเกจที่ถูกที่สุดราคา 299 บาทนั้นจะมีค่าใช้จ่ายต่อ MB สูงกว่าแพ็คเกจ 399 บาทอยู่ถึง 2 เท่า นอกจากนี้แพ็คเกจ 299 ยังให้ปริมาณเน็ตแบบเต็มสปีดมาไม่พอกับความต้องการอีกด้วย หมายความว่าหากเราไม่ต้องการเล่น Pokemon Go แบบติด FUP เราจะต้องจ่ายเงินซื้อแพ็คเกจเสริมเพิ่มอีกถึง 2.1 GB แม้จะเลือกแพ็คเกจที่ราคาถูกที่สุด แต่กลับมีค่าใช้จ่ายรวมที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นแพ็คเกจรายเดือนที่แนะนำสำหรับเกม Pokemon Go จึงต้องเป็นราคา 399 บาทขึ้นไป
อีกประเด็นหนึ่งที่อยากให้ระวังไว้นั่นคือถึงแม้ว่าเมื่อคำนวณเป็นชม.แล้วอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มากนักแต่เมื่อนำมารวมกันก็ถือว่าอาจจะมากพอสมควรสำหรับ นักเรียน นักศึกษา เพราะต้องไม่ลืมว่านอกจาก Pokemon แล้วเราอาจจะต้องใช้ internet สำหรับการเข้าเว็บ หรือ แอพพลิเคชันอื่นๆ ดังนั้นหมายความว่าเราอาจจะต้องใช้ Package ที่สูงกว่า 399 บาทเพื่อที่จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ดังนั้นวิธีที่ดีคือการกำหนดเวลาในการเล่นให้ไม่มากจนเกินไปและพยายามหาจุด Wi-Fi ในการเล่นจะดีที่สุด
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เทรนเนอร์ทุกคนเลือกแพ็คเกจ 3G/4G ให้เหมาะกับการเล่น Pokemon Go ได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ อย่างไรก็ดีควรเล่นแต่พอดีและไม่ควรที่จะออกไปจับโปเกมอนหรือไปหมุนป้าย Pokestop ในสถานที่เปลี่ยวๆ ยามค่ำคืนด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันที่ Pokestop ครับ
---------------------------------------
บทความโดย: techmoblog.com
Update : 17/08/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |