เชื่อว่าเทรนเนอร์ Pokemon Go ทั้งหลาย เมื่อสะสมโปเกมอนได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็คงจะหันมาสนใจเรื่องการ power up และการ evolve เพื่อปั้นโปเกมอนสำหรับการต่อสู้ชิงยิมกันแน่นอน หากรักจะก้าวมาเป็นสายแบทเทิ่ลเต็มตัวแล้ว การ power up และ evolve จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะตัดสินใจแบบไม่คิดหน้าคิดหลังไม่ได้ เพราะโปเกมอนแต่ละตัวนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่เราคิดมาก การตัดสินใจผิดพลาดจะทำให้เราเปลือง stardust และ candy โดยใช่เหตุ และอาจได้โปเกมอนที่ไม่เหมาะกับการต่อสู้มา ในวันนี้ เราจึงได้รวมเทคนิคช่วยในการตัดสินใจ power up และ evolve อย่างคุ้มค่า ประหยัดทั้ง stardust และ candy ได้ตัวเทพแน่นอนไม่ต้องเสียแรงปั้นใหม่มาฝากกันครับ
เราจะ Power Up และ Evolve โปเกมอนได้อย่างไร?
การ Power Up คือการเพิ่มค่า CP และเพิ่มค่า stats โดยรวมของโปเกมอนให้สูงขึ้น ส่วนการ Evolve คือการวิวัฒนาการให้เป็นร่างถัดไปที่แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยโปเกมอนแต่ละชนิดก็มีทั้งที่วิวัฒนาการได้และไม่ได้
การ power up แต่ละครั้ง จะใช้ stardust และ candy จำนวนหนึ่ง ยิ่งโปเกมอนเรามี CP สูง ก็จะยิ่งใช้ทรัพยากรในการอัพมากขึ้น เราสามารถหา stardust ได้จากการจับโปเกมอน, การส่งโปเกมอนเฝ้ายิม และการเลเวลอัพ สำหรับ candy จะแตกต่างกันไปตามชนิดของโปเกมอน เช่น Pikachu Candy หรือ Charmander Candy เป็นต้น หาได้จากการ Transfer โปเกมอน, การจับโปเกมอน และการฟักไข่
พูดง่ายๆ ก็คือ หากเราต้องการปั้นโปเกมอนขึ้นมาสักตัวหนึ่ง เราต้องจับโปเกมอนชนิดเดียวกันจำนวนมากเพื่อสะสม candy และ stardust เพื่อใช้ในการ power up และ evolve นั่นเอง
ข้อควรรู้ก่อนการ Power Up
- การ power up จะเพิ่ม CP ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกความแข็งแกร่งของโปเกมอนตัวนั้นๆ ยิ่งมี CP มากก็ยิ่งเก่งมาก แต่ไม่ได้หมายความว่ามี CP สูงอย่างเดียวแล้วจะเก่ง ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย
- โปเกมอนที่สมควร power up คือโปเกมอนที่มีอัตราการเติบโตของ CP สูง ซึ่งดูได้จากค่า IV ดูรายละเอียดเรื่อง IV ที่นี่
- เกจสีขาวบนโปเกมอนเป็นตัวบ่งบอกว่า โปเกมอนเราได้ power up มาใกล้จุดสูงสุดแค่ไหนแล้ว การ power up แต่ละครั้งจะเพิ่มขีดสีขาวขึ้น และเมื่อเพิ่มจนสุดจะไม่สามารถ power up ได้อีก จนกว่าเทรนเนอร์จะมีเลเวลสูงขึ้น หรือโปเกมอนมีการพัฒนาร่าง
- เนื่องจากการ power up จะใช้ stardust และ candy จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ การลงทุน power up กับโปเกมอนที่มี CP ต่ำจึงเป็นการสิ้นเปลืองมาก และไม่คุ้มค่าในระยะยาว
ควรหลีกเลี่ยงการ Power Up โปเกมอนเมื่อ
- โปเกมอนนั้นมี IV ต่ำ
- โปเกมอนนั้นยังไม่พัฒนาร่างถึงขั้นสุดท้าย เพราะการพัฒนาร่างจะสุ่มท่าโจมตีของโปเกมอนใหม่ทั้งหมด และอาจได้ท่าที่แย่กว่าเดิม
- โปเกมอนนั้นมี CP ต่ำมาก แม้จะมี IV สูง เพราะการ Power Up จะสิ้นเปลือง stardust มากขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเลเวลสูงขึ้นเรามีโอกาสที่จะเจอโปเกมอนที่แข็งแกร่งพอๆ กันซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่ต้องเปลือง stardust หรือ candy
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการ Evolve (วิวัฒนาการ) โปเกมอน
- จุดประสงค์ของการ Evolve หรือการวิวัฒนาการมี 3 อย่างคือ เก็บ EXP เพื่อเลเวลอัพอย่างรวดเร็ว, เพิ่มโปเกมอนชนิดใหม่ลงใน Pokedex และ เพื่อทำให้โปเกมอนแข็งแกร่งเหมาะแก่การต่อสู้ยิ่งขึ้น
- การ Evolve ให้ EXP จำนวนมาก จึงเหมาะกับการเก็บเลเวลแบบเร่งด่วน โดยสามารถใช้ไอเทม Lucky Egg เพื่อช่วยให้เลเวลอัพเร็วขึ้นอีก ดูเทคนิคการอัพเลเวลอย่างรวดเร็ว
- โดยทั่วไปแล้วไม่ควร evolve โปเกมอนใดๆ ในช่วงต้นเกมนอกจากใช้เทคนิคเก็บเลเวลกับ Lucky Egg เพราะเราจะยังไม่เจอโปเกมอนที่เหมาะจะเอาไปสู้ในยิมได้จนกว่าเราจะมีเลเวล 10 -15 แม้เราจะ evolve ในตอนนี้ เมื่อเราเลเวลสูงขึ้นก็จะเจอโปเกมอนที่แข็งแกร่งกว่าอยู่ดี
- IV ของโปเกมอนจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อ evolve
- ท่าโจมตีของโปเกมอนจะเปลี่ยนแปลงแบบสุ่มเมื่อ evolve และยังไม่มีวิธีอื่นใดที่จะเปลี่ยนท่าโจมตีได้นอกจากวิธีนี้
- หากเป็นไปได้ควร evolve ให้สุดในคราวเดียว เพราะในระหว่างที่เราหา candy 100 เม็ดมาเพื่อพัฒนาเป็นร่างสุดท้าย เราอาจจะมีเลเวลมากขึ้นจนเจอโปเกมอนที่มี CP มากกว่าเดิมแล้ว และสามารถเอามา power up ต่อได้โดยที่สิ้นเปลืองน้อยกว่า
สำหรับเทรนเนอร์ที่ต้องการต่อสู้ในศึกยิมแบทเทิ่ลอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องคิดให้รอบคอบก่อน evolve ซึ่งหลักการต่อไปนี้จะสามารถช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
ควร Evolve โปเกมอนเมื่อ
- โปเกมอนนั้นมี IV สูง หรือ IV 100%
- โปเกมอนนั้นไม่มี CP ที่ต่ำเกินไป เพราะเมื่อเรายังเป็นเทรนเนอร์เลเวลน้อย เราจะมีโอกาสเจอโปเกมอนตัวเดียวกันที่มี CP เทียบเท่าหรือสูงกว่า เมื่อเรามีเลเวลสูงขึ้น
ควรหลีกเลี่ยงการ Evolve เมื่อ
- โปเกมอนนั้นมี IV ต่ำ และเราต้องการนำไปใช้ต่อสู้
- พัฒนาร่างจนสุดแล้ว แต่มีท่าโจมตีไม่ดี แม้จะมี IV สูง ควรเลิกปั้นไปเลยเพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนท่าโจมตีจากการ evolve ได้อีกแล้ว จะทำให้สู้ลำบาก
- มีค่า CP ต่ำมาก อาจเป็นเพราะเรายังเป็นเทรนเนอร์เลเวลน้อย แม้จะมี IV สูง เพราะเมื่อเราเลเวลสูงขึ้น เรามีโอกาสที่จะเจอโปเกมอนที่มี IV และ CP สูงกว่า และเปลือง stardust และ candy ในการปั้นน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วการ power up หรือการ evolve ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นเป็นหลัก หากเป็นเทรนเนอร์สายสะสมก็อาจไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะแค่ evolve เพื่อเก็บโปเกมอนใหม่ๆ เพิ่มเท่านั้น แต่สำหรับสายแบทเทิ่ล สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจครับ
---------------------------------------
ที่มา : Eurogamer
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 29/08/2016
Pokemon Go