บริษัทอังกฤษพัฒนา "โดรนกินได้" รุ่นแรกของโลก หวังใช้แก้ปัญหาความอดอยากในพื้นที่ขาดแคลน เตรียมเผยโฉมรุ่นทดสอบเร็วๆ นี้

โดรนเป็นแก็ดเจ็ตที่มีประโยชน์หลากหลายและนำไปต่อยอดได้มาก ตั้งแต่เป็นงานอดิเรกไว้เล่นยามว่าง เป็นกีฬาผาดโผน เป็นผู้ช่วยส่งของ ไปจนถึงส่งผู้โดยสาร แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดที่โดรนสามารถทำได้ ล่าสุดบริษัทสัญชาติอังกฤษได้คิดค้นการใช้ประโยชน์จากโดรนในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน เพื่อใช้แก้ไขปัญหาความอดอยากในพื้นที่ต่างๆ บนโลก โดยการทำให้โดรนสามารถ “กินได้”

บริษัท Windhorse Aerospace ได้เปิดเผยกับ Financial Times ว่านี่ไม่ใช่ไอเดียที่คิดขึ้นมาขำๆ แต่ทางบริษัทเอาจริง และได้เริ่มพัฒนาโดรนกินได้รุ่นทดสอบแล้วโดยตั้งชื่อว่า Pouncer ซึ่งใช้วัสดุในการสร้างเป็นอาหารทั้งหมด ตัวเครื่องอาจสร้างจากรวงผึ้งหรือผักที่นำมาอัดจนแข็ง มีความยาวปีกตั้งแต่ปลายปีกซ้ายถึงปลายปีกขวาประมาณ 2.7 เมตร ส่วนขาสำหรับลงจอดจะทำจากซาลามี (ไส้กรอกเนื้อตากแห้ง) เนื่องจากทาง Windhorse Aerospace ให้เหตุผลว่า ซาลามี "มีลักษณะทางกายภาพที่แข็งแรง ยืดหยุ่นและทนต่อแรงเค้นได้ดี" โดรนกินได้นี้จะทำหน้าที่ส่งอาหารไปยังพื้นที่เป้าหมายโดยทางอากาศ และเมื่อส่งเสร็จแล้วตัวมันเองก็จะลงจอดและกลายเป็นอาหารด้วยเช่นกัน นอกจากนี้โครงของตัวเครื่องยังนำไปเป็นเชื้อเพลิงสำหรับประกอบอาหารได้ นับว่าบินเที่ยวเดียวส่งอาหารได้ 2 เท่า แถมทำกับข้าวได้อีกต่างหาก

ซาลามี อาหารสามัญประจำบ้านของชาวยุโรป

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับโปรเจ็คท์ดังกล่าว เพราะไอเดียโดรนกินได้นี้ดูเหมือนเรื่องตลกมากกว่า Kevin Watkins หัวหน้าผู้อำนวนการขององค์กร Save the Children ซึ่งเป็น NGO ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั่วทุกมุมโลกเชื่อว่า โดรน Pouncer นี้เป็นแค่ลูกเล่นที่นำมาใช้จริงไม่ได้ และยังกล่าวว่าการช่วยเหลือผู้อดอยากขาดแคลนเป็นงานที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงจัง ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับทดสอบโดรนกินได้ แต่ทาง Windhorse Aerospace ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อความคิดเห็นของ Kevin Watkins แต่อย่างใด

ปัญหาความอดอยากเป็นปัญหาสากลที่เราพยายามแก้ไขอยู่ตลอด แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ปัญหานี้ก็ยังไม่หมดไปจากโลกเสียที ความพยายามต่างๆ ที่ผ่านมาก็ช่วยได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น หากโปรเจ็คท์โดรนกินได้ของ Windhorse Aerospace มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาความอดอยากจริง ก็น่าจะจุดประกายความหวังในการต่อสู้กับปัญหาได้ไม่มากก็น้อยครับ

---------------------------------------
ที่มา : The Verge , Futurism
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 20/03/2017

Drone Pouncer