หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

[รีวิว] Redmi Note 10 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ราคาดีที่สุด เริ่มที่ 5,999.- มาพร้อมชิป Dimensity 700, กล้อง 48MP, แบตอึด 5,000 mAh บนจอใหญ่ 6.5 นิ้ว

หลังจากที่ทีมงาน techmoblog.com ได้รีวิว Redmi Note 10S สมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้ม กล้อง 64MP ให้ชมกันไปแล้ว ในวันนี้จะมีรีวิวสมาร์ทโฟนอีกรุ่นในซีรี่ส์เดียวกัน นั่นก็คือ Redmi Note 10 5G ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นที่น่าสนใจที่สุด และคุ้มค่าที่สุด ณ ชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้

โดยจุดเด่นของ Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ก็คือ รองรับเครือข่าย 5G และรองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด, หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว แบบ DotDisplay ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล และเป็นหน้าจอแบบ AdaptiveSync Display ที่สามารถเลือกปรับอัตรารีเฟรชได้ โดยรองรับสูงสุดที่ 90Hz, มาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร, กล้องด้านหลัง เป็นกล้อง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วอีกด้วย

แม้จะเป็นมือถือ 5G แต่ราคาของ Redmi Note 10 5G ถือว่าอยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้ และเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เพราะเริ่มต้นที่ 5,999 บาทเท่านั้น ส่วนด้านการใช้งานจะมีฟังก์ชันและฟีเจอร์อะไรบ้างนั้น มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Redmi Note 10 5G โดยทีมงาน techmoblog.com

 

สเปก Redmi Note 10 5G
  • ขนาดตัวเครื่อง: 161.81 x 75.34 x 8.92 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 190 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว แบบ DotDisplay ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 90Hz
    • รองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync Display สามารถเลือกปรับได้ระหว่าง 30Hz, 50Hz, 60Hz และ 90Hz
    • Contrast Ratio: 1500:1
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบตัวเครื่อง 360 องศา
  • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.2 GHz
  • ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G57 MC2
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB หรือ 8 GB แบบ LPDDR4X
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.0)
  • กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
    • เลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79)
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)
    • เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 18W
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง
  • รองรับระบบสแกนใบหน้า (AI Face Unlock)
  • รองรับเครือข่าย 5G, 4G LTE, 3G
  • รองรับ Wi-Fi a/b/g/n/ac (2.4 GHz/5 GHz) และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.1
  • มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • รองรับโหมดอ่านหนังสือ (Reading Mode 3.0) 
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ MIUI 12 ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11
  • มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue และ Aurora Green
  • ราคา
    • RAM 4 GB + ROM 128 GB ราคา 5,999 บาท
    • RAM 8 GB + ROM 128 GB ราคา 6,999 บาท

 

ดีไซน์ และการออกแบบ

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย ตัวเครื่อง Redmi Note 10 5G ที่มีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว, Adapter สำหรับชาร์จแบตเตอรี่, สาย USB-C, เคสซิลิโคนใส, อุปกรณ์ถอดถาดใส่ซิมการ์ด, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

 

Redmi Note 10 5G มาพร้อมกับหน้าจอ DotDisplay แบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล บนอัตราส่วนขนาด 20:9 รองรับอัตรารีเฟรชที่ 90Hz อีกทั้งยังเป็นหน้าจอแบบ AdaptiveSync ที่สามารถปรับอัตราการแสดงผลตามคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น เล่นเกมที่ระดับ 90Hz หรือรับชมวิดีโอที่ระดับ 30Hz/60Hz เป็นต้น

 

ด้านบนตัวเครื่องเป็นกล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.0) เหนือกล้องเป็นลำโพงสนทนา ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ แต่สามารถเปลี่ยนเป็นการควบคุมแบบปัดได้ในหน้าการตั้งค่า

 

ด้านขวาตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power เปิด-ปิดตัวเครื่อง ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้านใน ซึ่งจากการทดสอบพบว่า สามารถสแกนปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

 

ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ Hybrid Slot ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดและ microSD Card พร้อมกันได้ จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

 

ด้านบนตัวเครื่อง เป็นช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, เซ็นเซอร์อินฟราเรด ซึ่งจะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Mi Remote ที่มีอยู่ในตัวเครื่อง สำหรับควบคุมการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากระยะไกล และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

 

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, พอร์ต USB-C และไมโครโฟนสำหรับสนทนา

 

สำหรับ Redmi Note 10 5G ที่นำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ เป็นตัวเครื่องสี Graphite Gray ซึ่งมุมบนซ้ายติดตั้งกล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) พร้อมไฟแฟลชคู่ อยู่ในโมดูลรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีความนูนเล็กน้อย โดยกล้องทั้ง 3 ตัว ได้แก่

  • เลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79)
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)
  • เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)

 

อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI เวอร์ชัน 12.0.2

 

อินเทอร์เฟสของ MIUI เวอร์ชัน 12.0.2 นั้น ก็ถือว่าออกแบบมาได้เรียบง่าย โดยหน้าจอหลักสามารถเลือกได้ทั้งแบบคลาสสิก (แอปฯ ทั้งหมดอยู่ในหน้า Home Screen) และแบบลิ้นชัก (ปัดขึ้นเพื่อดูแอปฯ ทั้งหมด)

 

สามารถเลือกเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และ Widget ได้ตามสไตล์การใช้งาน รวมถึงตั้งค่าการใช้งานอื่นจากเมนูลัดได้

 

การปัดจากขอบจอด้านบนลงมา จะเป็นส่วนของการแจ้งเตือนทั้งหมด (Notification Center) และเมนูลัดสำหรับการเปิด-ปิดใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น Wi-Fi, ไฟฉาย, โหมดเงียบ, จับภาพหน้าจอ, Bluetooth, ปรับความสว่างหน้าจอ และอื่น ๆ

 

ปุ่ม Recent Apps จะแสดงแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งานมาแล้วทั้งหมด สามารถกดเลือกสลับแอปฯ ได้เลย นอกจากนี้ เมนูด้านบนยังมีทางลัดเข้าใช้งานฟังก์ชันตัวทำความสะอาด, สแกนความปลอดภัย, ทำความสะอาดเชิงลึก และจัดการแอปฯ

 

หน้าต่างลอย จะเป็นการย่อหน้าต่างแอปพลิเคชันให้มีขนาดที่เล็กลง และสามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ

 

รองรับโหมดมืด ด้วยการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้นเมื่อต้องใช้งานในที่แสงน้อย ซึ่ง Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 90Hz อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync Display ที่สามารถปรับอัตราการแสดงผลตามคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ

 

รองรับโหมดอ่านหนังสือ (Reading Mode 3.0) ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบคือ โหมดคลาสสิค เปลี่ยนเป็นสีอุ่นเพื่อลดปริมาณแสงสีน้ำเงิน และโหมดกระดาษ เปลี่ยนเป็นสีอุ่นและเพิ่มพื้นผิวกระดาษเป็นพื้นหลังเพื่อลดอาการปวดตา นอกจากนี้ ยังสามารถกำหนดเวลาในการเปิด-ปิดโหมดอ่านได้อีกด้วย

 

ด้านความปลอดภัย รองรับทั้งการสแกนลายนิ้ว (เซ็นเซอร์อยู่ที่ปุ่ม Power) และรองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (AI Face Unlock)

 

สำหรับแบตเตอรี่บน Redmi Note 10 5G มีขนาดความจุอยู่ที่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 18W พร้อมโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งมีให้เลือก 2 โหมดด้วยกัน

 

สำหรับเมนูคุณสมบัติพิเศษ จะประกอบด้วย Game Turbo, กล่องเครื่องมือวิดีโอ, หน้าต่างลอย และโหมดง่าย

 

Game Turbo เป็นฟีเจอร์ที่ทำหน้าที่จัดการทรัพยากรภายในตัวเครื่อง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมนั่นเอง โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้จากมุมซ้ายบน ซึ่งมีเมนูลัดมากมายให้ใช้งาน เช่น เคลียร์ RAM, ถ่ายภาพ Screenshot, บันทึกวิดีโอการเล่น, สลับการใช้งาน Wi-Fi และอื่น ๆ ที่สามารถตั้งค่าได้จากส่วนนี้โดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา รวมถึงสามารถเปิดแอปฯ อื่นขึ้นมาเป็นหน้าต่างลอยได้

 

Redmi Note 10 5G รุ่นที่นำมารีวิวนี้ มาพร้อมกับชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.2 GHz, ชิปประมวลผลภาพกราฟิก ARM Mali-G57 MC2, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile, Honkai Impact 3 และ ROV พบว่า ตอบสนองการเล่นเกมได้ดี แต่ทั้งนี้ ตัวเครื่องจะมีการสะสมความร้อนบ้างเมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง โดยรวมแล้วถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ตอบสนองการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับราคาค่าตัว

 

ทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนทดสอบได้ 543 คะแนน (Single-Core) และ 1,623 คะแนน (Multi-Core) ส่วนโปรแกรม PCMark ในชุดทดสอบ Work 3.0 Performance ได้ 8,977 คะแนน

 

ทดสอบกล้องถ่ายรูป

Redmi Note 10 5G มีกล้องด้านหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79), เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4) และเลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4) ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล (F/2.0)

สำหรับฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพของรุ่นนี้ ก็ถือว่ามีให้ใช้งานกันอย่างจุใจเช่นกัน โดยมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่าย, โปร, วิดีโอ, ภาพบุคคล, กลางคืน, 48M, วิดีโอสั้น, Panorama, สโลโมชั่น และ Time-Lapse

นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกขนาดของภาพถ่าย (1:1, 3:4, 9:6, Full), ตั้งเวลาถ่าย (3S, 5S, 10S), แสดงตาราง, ปรับเบลอ หรือเปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายภาพมาโครได้เช่นกัน

 

โหมดโปร (Pro) สามารถเลือกปรับ White Balance, ระยะโฟกัส, รูรับแสง, ISO และชดเชยแสง (EV)

 

สามารถตั้งค่ากล้องได้อีกมากมาย เช่น ใส่ลายน้ำ, เลือกคุณภาพรูปถ่าย, เปิด-ปิดโหมดโฟกัสแล้วถ่าย, จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งพิกัด, เปิด-ปิดเสียงชัตเตอร์ และอื่น ๆ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

บทสรุปการใช้งาน

สำหรับ Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง โดยเป็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับสเปกที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแบบ DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชที่ 90Hz AdaptiveSync ที่สามารถปรับอัตราการแสดงผลตามคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ, ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.2 GHz, หน่วยความจำ RAM สูงสุด 8 GB รองรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และกล้องด้านหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล

ไม่เพียงเท่านั้น Redmi Note 10 5G ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดที่ 18W นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับ 5G ทั้ง 2 ซิมอีกด้วย

 

โดย Redmi Note 10 5G ที่วางจำหน่ายในไทยนั้น จะมีให้เลือก 2 รุ่น นั่นก็คือ 4GB + 128GB ราคา 5,999 บาท และ 8GB + 128GB ราคา 6,999 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue และ Aurora Green วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Mi Store, ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์

และผู้ที่ซื้อ Redmi Note 10 5G ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายนนี้ รับฟรี Note 10 5G Box Set ประกอบด้วย Mi True Wireless Earbuds Basic 2 และ เสื้อยืด พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ในระยะเวลา 6 เดือน มูลค่ารวม 3,090 บาท

 

จุดเด่นของ Redmi Note 10 5G

  • รองรับเครือข่าย 5G ทั้ง 2 ซิมการ์ด
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว แบบ DotDisplay ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 90Hz
    • รองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync Display สามารถเลือกปรับได้ระหว่าง 30Hz, 50Hz, 60Hz และ 90Hz
    • Contrast Ratio: 1500:1
    • เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบตัวเครื่อง 360 องศา
  • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.2 GHz
  • ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G57 MC2
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB หรือ 8 GB แบบ LPDDR4X
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.0)
  • กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ประกอบด้วย
    • เลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79)
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)
    • เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (F/2.4)
  • แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 18W
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง
  • รองรับระบบสแกนใบหน้า (AI Face Unlock)
  • รองรับเครือข่าย 5G, 4G LTE, 3G
  • รองรับ Wi-Fi a/b/g/n/ac (2.4 GHz/5 GHz) และ Bluetooth เวอร์ชัน 5.1
  • มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • รองรับโหมดอ่านหนังสือ (Reading Mode 3.0) 
  • รองรับโหมดมืด ด้วยการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้นเมื่อต้องใช้งานในที่แสงน้อย
  • รองรับฟีเจอร์ Game Turbo สำหรับจัดการทรัพยากรภายในตัวเครื่อง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ MIUI 12 ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11
  • ราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นที่ 5,999 บาทเท่านั้น

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

  • ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดและ microSD Card พร้อมกันได้ จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
  • ไม่มีเลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide) และเลนส์ Telephoto

 

ข้อควรทราบ : เครื่อง Redmi Note 10 5G ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 08/06/2021

Redmi Note 10 5G รีวิว Redmi Note 10 5G






Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy