สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางในบ้านเรา Samsung Galaxy A-Series ถือว่าได้รับความนิยมพอสมควร เพราะตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อปี 2015 ก็มีเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด นำไปสู่การพัฒนาต่อยอดออกมาเป็นเวอร์ชัน 2016 และในปีนี้ Galaxy A-Series ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการอัปเกรดในหลายๆ ด้าน แถมคราวนี้ยังมาพร้อมกันถึง 3 รุ่นคือ Galaxy A3 (2017), Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A7 (2017) ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของการกลับมาครั้งนี้คือดีไซน์กันน้ำตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หายากมากในสมาร์ทโฟนระดับกลาง พร้อม Secure Folder สำหรับปกป้องข้อมูลส่วนตัว และสเปคที่ครบเครื่องทุกการใช้งานเช่นเคย
แต่บางครั้งข้อมูลในกระดาษก็อาจไม่เพียงพอ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Samsung ประเทศไทยจึงจัดงานเปิดตัว Samsung Galaxy A (2017) ทั้ง 3 รุ่นโดยเชิญสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อด้านไอที รวมไปถึงพวกเรา Techmoblog เข้าร่วมสัมผัสตัวจริงของ Galaxy A3 (2017), Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A7 (2017) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมพิสูจน์คุณสมบัติต่างๆ ของตัวเครื่องด้วยตนเองผ่านการใช้งานจริงในกิจกรรมพิเศษ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อดึงเอาความสามารถของตัวเครื่องออกมาให้เห็นกันชัดๆ ซึ่งทางทีมงานของเราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศของกิจกรรมและข้อมูลที่น่าสนใจมาให้ชมกันด้วยครับ
ก่อนอื่นก็มารู้จัก Samsung Galaxy A (2017) ทั้ง 3 รุ่นกันก่อนว่าจะมีจุดเด่นอะไรบ้าง โดยครั้งนี้ทาง Samsung (ประเทศไทย) ก็ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์มาอธิบายข้อมูลของต่างๆ อย่างละเอียด
Galaxy A 2017 มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์หลัก “อยู่ได้ในทุกที่ ถ่ายได้ทุกรูปแบบ และมีเทคโนโลยีขั้นสุด” ซึ่งจะสื่อถึงอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ
“อยู่ได้ทุกที่” หมายถึงคุณสมบัติของ Galaxy A 2017 ที่สามารถอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที เทียบเท่าสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S7 หรือ Galaxy S7 edge เลยทีเดียว คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นแบบนี้แทบหาไม่ได้ในสมาร์ทโฟนระดับกลางในปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Galaxy A 2017 ที่น่าสนใจมาก
ระบบกันน้ำกันฝุ่นของ Galaxy A 2017 เป็นแบบซีลยางที่ช่อง USB Type-C, ช่องหูฟัง, ถาดใส่ซิมการ์ด และถาดใส่การ์ดหน่วยความจำ และการเคลือบกอร์เท็กซ์ (Gore-Tex) ที่ไมโครโฟน, ลำโพง และตัวรับสัญญาณ ซึ่งกอร์เท็กซ์เป็นสารที่มีคุณสมบัติกันน้ำ แต่จะปล่อยให้อากาศไหลผ่านได้ ตัวเครื่องด้านหลังไม่สามารถถอดฝาได้เพื่อลดความเสี่ยงที่น้ำจะซึมเข้าไปภายในเครื่อง นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนก่อนการเชื่อมต่อสายชาร์จในกรณีที่พบว่ามีน้ำเข้าที่ช่อง USB Type-C อีกด้วย
ดีไซน์ของ Galaxy A 2017 เป็นแบบ Metal-Glass เช่นเดียวกับ Galaxy A 2016 แต่ต่างกันตรงที่ Galaxy A 2017 มีกระจกด้านหลังตัวเครื่องแบบ 3D ในขณะที่ Galaxy A 2016 เป็นกระจกขอบนูน 2.5D ซึ่งสวยงามกว่าและจับถนัดมือกว่า
ใครที่บ่นเรื่องกล้องนูนอยู่บ่อยๆ ก็ไม่ต้องบ่นอีกต่อไปแล้วเพราะ Galaxy A 2017 ได้ปรับดีไซน์ให้กล้องเรียบเนียนไปกับตัวเครื่องด้านหลังเรียบร้อยแล้ว
"ถ่ายได้ทุกรูปแบบ" หมายถึงความสามารถของกล้องดิจิทัลที่ได้รับการอัปเกรดทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เพื่องรองรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างน่าประทับใจ โดย Galaxy A5 (2017) และ Galaxy Galaxy A7 (2017) มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (f/1.9) พร้อมระบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) ส่วนน้องเล็ก Galaxy A3 (2017) ความละเอียดของกล้องก็จะลดหลั่นลงไป โดยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/1.9) และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f/1.9)
สำหรับกล้องด้านหน้าเรียกว่าอัปเกรดแบบก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้ Galaxy A 2016 มีกล้องหน้าความละเอียดเพียง 5 ล้านพิกเซล ซึ่งอาจไม่ค่อยโดนใจชาวเซลฟีเท่าที่ควร แต่ในรุ่น Galaxy A 2017 นี้กล้องหน้ามีความละเอียดมากถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่กว้าง f/1.9 ไม่ด้อยไปกว่ากล้องหลักด้านหลังเลย และยังมีฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการเซลฟีมากขึ้นเช่น Selfie Flash สำหรับการถ่ายในที่มืด, การย้ายตำแหน่งปุ่มชัตเตอร์ได้ตามต้องการเพื่อให้กดได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงสั่งกดชัตเตอร์ด้วยเสียงหรือท่าทาง รอบนี้เอาใจคนชอบเซลฟีแบบไม่มีกั๊กจริงๆ
มีลูกเล่นถ่ายภาพที่น่าสนใจมาให้ด้วยเช่นกันทั้ง Hyperlapse (เฉพาะ A5 และ A7), GIF และ Food Mode (เฉพาะกล้องด้านหลัง)
"เทคโนโลยีขั้นสุด" หมายถึงฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้ง USB Type-C, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว, Samsung Pay และอื่นๆ
ฟีเจอร์หนึ่งที่โดดเด่นของ Galaxy A 2017 คือแอปพลิเคชัน Secure Folder ซึ่งเปรียบเสมือนตู้นิรภัยให้เราเก็บไฟล์ส่วนตัวไม่ให้ใครมายุ่มย่าม ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, วิดีโอ และไฟล์ประเภทอื่นๆ และยังประยุกต์ให้สามารถเล่น LINE 2 บัญชีในเครื่องเดียวได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน ไฟล์ที่ถูกเก็บไว้ใน Secure Folder สามารถเข้าถึงได้ผ่านการเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รหัส PIN หรือการวาดเส้น (Pattern) ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ตั้งค่าเอาไว้อย่างไร
การนำข้อมูลออกจาก Secure Folder ทำได้โดยการเข้าไปใน Secure Folder แล้วกดค้างเพื่อเลือกข้อมูล เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้กดปุ่มเมนู และเลือกคำสั่ง Move Out of Secure Folder
Galaxy A 2017 เปลี่ยนช่องเชื่อมต่อจาก microUSB มาเป็นช่องเชื่อมต่อ USB Type-C ให้เหมาะกับการเป็นสมาร์ทโฟนยุคใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อได้ง่ายกว่าเดิมเพราะช่องเชื่อมต่อเป็นแบบสมมาตร ไม่มีด้านบนด้านล่างแล้วนั่นเอง
Galaxy A 2017 มีฟังก์ชัน Blue Light Filter สำหรับลดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาสำหรับคนที่ชอบเล่นมือถือก่อนนอน
ฟังก์ชัน Always-On Display ที่มีอยู่ในเรือธงอย่าง Galaxy S7 ก็ใส่มาให้ใน Galaxy A 2017 ด้วยเหมือนกัน ช่วยให้เราสามารถดูนาฬิกา, ปฏิทิน, การแจ้งเตือน รวมไปถึงควบคุมการเล่นเพลงได้ในขณะล็อคหน้าจอ และไม่กินแบตอีกด้วย
Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A7 (2017) รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกับ microSD ได้ โดยรองรับความจุสูงสุด 256 GB แต่ Galaxy A3 (2017) ยังคงใช้ถาดใส่ซิมแบบ Hybrid Tray ซึ่งสล็อตที่ 2 สามารถใส่ได้ทั้งนาโนซิมและ microSD แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับแบตเตอรี Galaxy A7 (2017) มีแบตเตอรีความจุ 3,600 mAh มากที่สุดในทั้ง 3 รุ่น ตามมาด้วย Galaxy A5 (2017) ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ทั้ง A5 และ A7 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั้งคู่ ส่วนรุ่นเล็กอย่าง Galaxy A3 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 2,350 mAh และไม่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
มีแอปพลิเคชัน Samsung Notes มาให้ด้วย จะจด จะวาด หรือจะพิมพ์ก็ทำได้สะดวก วิทยุ FM ก็มีมาให้พร้อม
รองรับบริการ Samsung Pay ผ่าน NFC (Near Field Communication) และ MST (Magnetic Secure Transmission) สามารถใช้งานร่วมกับบัตรเครดิต และ Galaxy Gift Card ได้
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดสรุปได้ว่า Galaxy A7 (2017) และ Galaxy A5 (2017) มีสเปคเหมือนกันทุกประการ แตกต่างกันเพียงขนาดหน้าจอเท่านั้น โดย Galaxy A7 (2017) จะมีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว และ Galaxy A5 (2017) มีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ส่วน Galaxy A3 (2017) เพิ่งจะเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรก โดยมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้วและสเปคที่ดร็อปลงมาจาก A5 และ A7 ซึ่งราคาค่าตัวก็จะถูกลงตามไปด้วย ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้น
Samsung Galaxy A (2017) มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black Sky), สีทอง (Gold Sand) และ สีฟ้า (Blue Mist) โดยสีฟ้าเป็นสี exclusive เฉพาะรุ่น Galaxy A7 (2017) เท่านั้น โดยทั้ง 3 รุ่นมีราคาเปิดตัวดังนี้:
สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ Galaxy A7 (2017) และ Galaxy A5 (2017) รับเงินคืน 1,500 บาท ผ่านทาง Galaxy Gift Card (มีมาให้ในกล่องแพ็คเกจ) โดยจะได้รับเงินคืนเมื่อเปิดใช้งานบัตรผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Gift ซึ่งบัตรนี้สามารถทำอะไรได้บ้างนั้นก็ดูที่หัวข้อต่อไปได้เลยครับ
สำหรับบัตร Galaxy Gift Card จะบอกว่าเป็นบัตรเครดิตอีกใบก็ว่าได้ โดยสามารถใช้เป็นบัตรเงินสด รูดจ่ายได้สะดวกตามร้านค้าชั้นนำที่รับบัตร MasterCard และแน่นอนว่าสามารถเพิ่มบัตร Galaxy Gift Card นี้ลงในแอปพลิเคชัน Samsung Pay ได้ทันที แถมยังได้รับบัตรชมภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema ให้ไปนั่งดูหนังเพลินๆ ฟรี 1 ใบอีกด้วย
นอกจาก Galaxy Gift Card แล้ว ลูกค้ายังได้รับสิทธิ์เปลี่ยนหน้าจอฟรีภายใน 1 ปี มูลค่ากว่า 4,500 บาท ผ่านศูนย์บริการ Samsung ทั้ง 42 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรับสิทธิ์ได้ทั้ง Galaxy A3 (2017), Galaxy A5 (2017) และ Galaxy A7 (2017)
หลังจากบรรยายสรรพคุณกันไปอย่างละเอียดแล้วก็ถึงเวลาที่สื่อมวลชนจะได้ทดสอบความสามารถของ Galaxy A (2017) กันจริงๆ ด้วยกิจกรรมที่ทาง Samsung จัดไว้ให้ งานนี้ทุกคนจะต้องแบ่งทีมกันไปทำภารกิจในด่านต่างๆ ให้สำเร็จโดยใช้ Galaxy A (2017) ซึ่งแต่ละด่านถูกออกแบบมาเพื่อดึงเอาจุดเด่นของตัวเครื่องออกมาโดยเฉพาะ ทั้งการถ่ายภาพ, การป้องกันน้ำ และความปลอดภัย
ทางทีมงาน Samsung จะส่งภารกิจต่างๆ เข้ามาในกลุ่มลับของแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งเป็น account แยกอยู่ใน Secure Folder การเข้าใช้งานแต่ละครั้งต้องใส่รหัสผ่าน หรือสแกนด้วยลายนิ้วมือที่ลงทะเบียนไว้ เป็นการทดสอบระบบความปลอดภัยของ Secure Folder ไปในตัว
ภารกิจส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการเซลฟีเป็นหลัก โดยภาพนี้เป็นตัวอย่างของภารกิจเซลฟีกลางสายฝน (เทียม) เพื่อพิสูจน์คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และความคมชัดของกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลไปพร้อมกัน
ภารกิจการเซลฟีในที่มืด ซึ่งภาพที่ได้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเพราะได้ Selfie Flash ช่วยไว้ ทำให้ภาพดูสว่างขึ้น
หลังจากกิจกรรมทดสอบความสามารถของ Galaxy A7 จบลงแล้ว คุณวราภรณ์ ลิขิตจรรยากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส ธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัทไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ ได้เดินทางมาต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนด้วยตนเอง พร้อมประกาศผลคะแนนจากการทำภารกิจของทีมต่างๆ
ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้เอง ทาง Samsung (ประเทศไทย) ก็ได้ถือโอกาสจัดงานต้อนรับปีใหม่ 2017 เพื่อเป็นการขอบคุณบรรดาสื่อมวลชนในปีที่ผ่านมา โดยคุณวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัทไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ ได้มาร่วมทักทายสื่อมวลชนทุกท่านอย่างเป็นกันเอง และหวังว่า Galaxy A 2017 รวมถึงสมาร์ทโฟนของ Samsung รุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2017 นี้ จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทยยิ่งๆ ขึ้นไป
สรุปความพึงพอใจในการใช้งาน Samsung Galaxy A (2017)
หลังจากที่ทีมงาน Techmoblog ได้ทดลองใช้งาน Samsung Galaxy A (2017) ด้วยตนเองในกิจกรรมที่ผ่านมา พบว่า Galaxy A (2017) ได้รับการอัปเกรดขึ้นจากรุ่นปี 2016 อย่างเห็นได้ชัด และคุณสมบัติเด่นต่างๆ ที่มีอยู่ก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ชิปเซ็ตและ RAM ที่เร็วและแรงยิ่งขึ้น, แบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้น, พอร์ตเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และดีไซน์ Metal-Glass ที่ทำให้ตัวเครื่องดูสวยงามขึ้นกว่าเดิม
Samsung Galaxy A (2017) ทั้ง 3 รุ่นเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560 พร้อมโปรโมชั่นรับเงินคืน 1,500 บาท, เปลี่ยนจอฟรีมูลค่า 4,500 บาทในระยะเวลา 1 ปี, และรับฟรีบัตรชมภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Samsung Brand Shop หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A 2017
- รีวิว Samsung Galaxy A5 (2017)
- รีวิว Samsung Galaxy A7 (2017)
- สรุปโปรโมชั่น Samsung Galaxy A 2017
---------------------------------------
เรียบเรียงโดย : techmoblog.com
Update : 30/01/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |