เพิ่งวางจำหน่าย Samsung Galaxy A30 ไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง Samsung ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายรุ่นสานต่ออย่าง Samsung Galaxy A30s อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งรุ่นนี้ถือว่ามีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์หลายส่วนด้วยกันเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ทั้งฝาหลังดีไซน์ใหม่, อัปเกรดกล้องด้านหลัง รวมถึงเปลี่ยนระบบการสแกนลายนิ้วมือมาเป็นแบบ On-Screen แทน แต่ยังคงราคาแบบสบายกระเป๋าในงบไม่เกิน 8,000 บาท
โดย Samsung Galaxy A30s มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 1560 x 720 พิกเซล บนดีไซน์หน้าจอแบบ Infinity-V Display พร้อมเทคโนโลยี Vivid HD ที่ให้สีสันสมจริง ในขณะที่ด้านหลังตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบปริซึม เคลือบผิวด้วยลวดลายแบบ Holographic ให้สีสันที่แปลกตาเมื่อแสงตกกระทบพื้นผิวในมุมที่แตกต่างกัน ซึ่งดีไซน์แบบนี้เหมือนกับ Samsung Galaxy A50s รุ่นพี่นั่นเอง
ด้านการประมวลผล มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7885 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) พร้อมอินเทอร์เฟส One UI เวอร์ชัน 1.5 ซึ่งในด้านการประมวลผลนั้น ไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย
สำหรับกล้องถ่ายรูป ยังคงเป็นจุดขายหลักของ Samsung Galaxy A30s เช่นกัน ซึ่งกล้องด้านหน้า มีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล (F/2.0) และโหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องด้านหลัง อัปเกรดเป็นกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) ซึ่งประกอบด้วย เลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (F/1.7), เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) และเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2) เรียกได้ว่า สามารถถ่ายได้ทั้งภาพในมุมปกติ, ภาพมุมกว้าง และภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ในกล้องตัวเดียว
ส่วนการปลดล็อกตัวเครื่องนั้น ได้อัปเกรดมาใช้การปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) แทนที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่องแบบเดิม และยังคงรองรับการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ส่วนแบตเตอรี่มีขนาดความจุอยู่ที่ 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ผ่าน Adapter ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน
มาดูกันดีกว่าว่า Samsung Galaxy A30s รุ่นนี้ จะตอบโจทย์กับการใช้งานทั่วไปมากน้อยแค่ไหน กับรีวิว Samsung Galaxy A30s โดยทีมงาน techmoblog.com
>> สเปก Samsung Galaxy A30s อย่างละเอียด คลิกที่นี่
Samsung Galaxy A30s มาพร้อมกับดีไซน์ Infinity-V Display มีขนาดหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1560 x 720 พิกเซล (HD+) แตกต่างจาก Samsung Galaxy A30 รุ่นก่อนที่มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Infinity-U Display และหน้าจอละเอียดกว่าที่ 2340 x 1080 พิกเซล (FHD+) ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 158.5 x 74.7 x 7.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 169 กรัม
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล เป็นกล้องด้านหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/2.0 ส่วนตำแหน่งเหนือกล้องนั้น เป็นลำโพงสำหรับสนทนา
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ซึ่ง Samsung Galaxy A30s รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint)
ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่ง Samsung Galaxy A30s รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และ microSD Card ได้พร้อมกัน
ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา, พอร์ต USB-C และช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
สำหรับกล้องด้านหลังของ Samsung Galaxy A30s เป็นกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) ประกอบด้วย เลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (F/1.7), เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) และเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2) พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ซึ่งด้านหลังตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบปริซึม เคลือบผิวด้วยลวดลายแบบ Holographic ทำให้มีสีสันที่แปลกตาเมื่อแสงตกกระทบพื้นผิวในมุมที่แตกต่างกัน
Samsung Galaxy A30s ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และปรับแต่งด้วย One UI เวอร์ชัน 1.5 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟสที่ผู้ใช้งานมือถือ Samsung คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
การปัดลงจากขอบด้านบน จะเป็นฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเข้าเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้นได้ ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, ล็อกการหมุนของหน้าจอ, ปรับความสว่างของหน้าจอ, ไฟฉาย, Airplane Mode และอื่น ๆ
สามารถเลือกเปลี่ยนวอลเปเปอร์, ธีมส่วนตัว, ไอคอนส่วนตัว รวมถึง Widget ต่าง ๆ ได้ตามสไตล์การใช้งาน ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ
โหมดกลางคืน จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีดำ เพื่อให้ใช้งานได้สบายตาขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้ด้วยตนเอง หรือตั้งเวลาเปิด-ปิดก็ได้เช่นกัน ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดกลางคืน
ด้านปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส สามารถเลือกสลับตำแหน่งของปุ่ม Recent Apps กับปุ่ม Back ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นการควบคุมการทำงานแบบใช้ท่าทางก็ได้เช่นกัน
การปัดขึ้นจากหน้า Home จะเข้าสู่ App Drawer รวมแอปพลิเคชันที่มีทั้งหมดในตัวเครื่อง เบื้องต้นนั้นมีแอปพลิเคชันพื้นฐานของทาง Samsung, Google และ Microsoft ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว
ในด้านความปลอดภัยและการปลดล็อกตัวเครื่องนั้น รองรับทั้งการสแกนใบหน้า (Face Recognition) และการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint)
ปุ่มด้านข้าง (ปุ่ม Power) สามารถตั้งค่าเป็นปุ่มลัดสำหรับการเปิดแอปพลิเคชันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องปลดล็อกตัวเครื่อง ซึ่งจากตัวอย่างข้างต้นก็คือ เมื่อกดปุ่ม Power 2 ครั้ง จะเป็นการเปิดกล้องถ่ายภาพ
รองรับฟีเจอร์ มุมมองป๊อบอัพอัจฉริยะ (Smart Pop-Up View) ด้วยการย่อแอปพลิเคชันให้มีขนาดที่เล็กลง สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ, ปรับขนาดได้ หรือทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นไปพร้อม ๆ กันได้
ฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกันได้พร้อมกัน เช่น Facebook, LINE เป็นต้น
รองรับ Secure Folder (โฟลเดอร์ที่ปลอดภัย) ปกป้องข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัส
Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่าได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บในภายตัวเครื่อง, เคลียร์ RAM, สถานะความปลอดภัย และควบคุมปริมาณการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย
Samsung Galaxy A30s รุ่นที่นำมารีวิวในครั้งนี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7885 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Game Booster ด้วยการตัดการทำงานที่ไม่จำเป็นออก ทำให้การแสดงภาพกราฟิกไหลลื่นขึ้น นอกจากนี้ ยังเรียนรู้ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับแต่งแบตเตอรี่, อุณหภูมิ และหน่วยความจำให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
และจากการทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV และ PUBG Mobile ด้วยการเปิดกราฟิกในระดับ HD พบว่า มีความหน่วงเล็กน้อย แนะนำว่าให้ปรับกราฟิกไปที่ระดับต่ำสุด จะเล่นได้ลื่นกว่า
มาดูคะแนนทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy A30s กันบ้าง ซึ่งการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำได้ 273 คะแนน (Single-Core) และ 995 คะแนน (Multi-Core) ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 115,735 คะแนน ซึ่งถือว่า เป็นคะแนนทดสอบระดับกลาง ๆ
สำหรับเซ็นเซอร์ที่รองรับบน Samsung Galaxy A30s ก็ได้แก่ Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor และ Pressure Sensor
สำหรับกล้องด้านหน้าบน Samsung Galaxy A30s มีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Live Focus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย, รูปถ่าย (โหมดปกติ) และวิดีโอ
โดยโหมดรูปถ่ายนั้น สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้ และรองรับฟีเจอร์ Beauty (หน้าสวย) สำหรับปรับแต่งใบหน้าได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ สีผิว, หน้าเรียว และตาโต ปรับได้สูงสุดที่ 8 ระดับ หรือจะเลือกเป็นโหมดหน้าสวยอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน
ส่วน Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังละลายนั้น เลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ, ปรับสีผิวได้ 8 ระดับ และสามารถเปลี่ยนรูปแบบเอฟเฟกต์ของฉากหลังได้ 4 แบบ ซึ่งได้แก่ Blur, Spin, Zoom และ Color Point
สำหรับกล้องด้านหลัง ประกอบด้วยกล้องทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (F/1.7), เลนส์ Ultra Wide มุมมองกว้าง 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) และเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2) โดยตัวกล้องจะถ่ายภาพได้ทั้งหมด 2 มุมมอง นั่นก็คือ มุมปกติ (ไอคอนต้นไม้ 2 ต้น) และมุมมองกว้างพิเศษ (ไอคอนต้นไม้ 3 ต้น)
โดยโหมดถ่ายภาพบนกล้องด้านหลังนั้น มีให้เลือกหลายโหมดด้วยกัน ได้แก่ อาหาร, พาโนรามา, โปร, Live Focus, รูปถ่าย, วิดีโอ และ Slow Motion นอกจากนี้ ยังมีโหมด Scene Optimizer กับการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุนั้น ๆ ซึ่งความแม่นยำของโหมด Scene Optimizer อาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหรือวัตถุด้วยเช่นกัน และโหมด Flaw Detection ตรวจจับข้อผิดพลาดในกรณีที่บุคคลในภาพอาจหลับตา, ภาพย้อนแสง หรือภาพเบลอ ก็จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ถ่ายใหม่
โหมด Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ หรือเปลี่ยนรูปแบบเอฟเฟกต์ของฉากหลังได้ 4 แบบ ซึ่งได้แก่ Blur, Spin, Zoom และ Color Point
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 4
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 8
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Live Focus
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย (อัตโนมัติ)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Live Focus
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Live Focus
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra-Wide (มุมกว้าง)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra-Wide (มุมกว้าง)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra-Wide (มุมกว้าง)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดปกติ
ถ้าหากเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy A30 รุ่นพี่ จะเห็นว่า Samsung Galaxy A30s รุ่นใหม่ เป็นการอัปเกรดในระดับ Minor Change เท่านั้น ซึ่งหลัก ๆ จะเน้นอัปเกรดกล้องถ่ายรูปด้านหลัง, เปลี่ยนมาใช้การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) และเปลี่ยนฝาหลังดีไซน์ใหม่แบบปริซึม เคลือบผิวด้วยลวดลายแบบ Holographic ในขณะที่คุณสมบัติด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมอย่าง Samsung Galaxy A30 มากนัก ทำให้รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นด้านการถ่ายรูปเป็นหลักมากกว่า
Samsung Galaxy A30s มาพร้อมกับกล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ซึ่งประกอบด้วย เลนส์หลัก (Wide-Angle) ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล + เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมด Scene Optimizer และโหมด Flaw Detection เช่นเดียวกับรุ่นเรือธง อีกทั้งมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกหลากหลาย ส่วนกล้องด้านหน้า เป็นกล้องตัวเดียว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Beauty และโหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ
ด้านดีไซน์นั้น มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Infinity-V Display บนหน้าจอแสดงผลกว้าง 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1560 x 720 พิกเซล (HD+) อัตราส่วน 19.5:9 พร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7885 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.8 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G71 MP2 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) อีกทั้งยังใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ บน Samsung Galaxy A30s ก็ได้แก่ โหมดกลางคืน, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, ฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้า, ฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกันได้พร้อมกัน เช่น Facebook หรือ LINE, รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition), รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) และฟีเจอร์ Secure Folder หรือโฟลเดอร์ที่ปลอดภัย กับการปกป้องข้อมูลสำคัญในตัวเครื่องด้วยการเข้ารหัส ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
ด้านราคาของ Samsung Galaxy A30s นั้น อยู่ที่ 7,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าสมราคากับคุณสมบัติในข้างต้นไม่น้อยเช่นกัน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Green, Black และ White ผู้ที่สนใจสามารถไปทดลองใช้งานกันได้ที่ Samsung Experience Store และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A30s
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ : เครื่อง Samsung Galaxy A30s ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 16/11/2019
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |