[รีวิว] Samsung Galaxy A50s มือถือสำหรับคนชอบไลฟ์รุ่นอัปเกรด ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว 48MP พร้อมฟีเจอร์กันสั่น Super Steady แบบ Note 10 บนหน้าจอ 6.4 นิ้ว กรอบหลังลวดลายโฮโลแกรมใหม่ เคาะราคาที่ 10,990 บาท

สำหรับ Samsung Galaxy A-Series นั้น ถือว่า เป็นซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะรุ่นระดับกลางอย่าง Samsung Galaxy A50 ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยสเปกที่ครบเครื่อง และมีลูกเล่นบางอย่างเทียบเท่ารุ่นเรือธง แต่มีราคาค่าตัวไม่แพงนัก และล่าสุด ทาง Samsung ได้ส่งรุ่นสานต่ออย่าง Samsung Galaxy A50s มาลุยตลาดในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านั้น ทีมงาน techmoblog.com ได้ทำการ พรีวิว Samsung Galaxy A50s ให้ชมกันแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว ในวันนี้ จะมารีวิว Samsung Galaxy A50s แบบเต็ม ๆ ให้ชมกันว่า รุ่นนี้พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าในด้านใดบ้าง

เมื่อเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy A50 รุ่นก่อนหน้า Samsung Galaxy A50s รุ่นนี้ อัปเกรดในเรื่องของกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องด้านหน้า อัปเกรดเป็นกล้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (F/2.0) (จากเดิม 25 ล้านพิกเซล) ส่วนกล้องด้านหลัง ยังคงเป็นกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) อัปเกรดเป็นความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับฟีเจอร์กันสั่นอย่าง Super Steady สำหรับการถ่ายวิดีโอเหมือนกับรุ่นเรือธง

สำหรับหน้าจอแสดงผล ยังคงมีขนาดเท่าเดิมที่ 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล บนดีไซน์แบบ Infinity-U Display หรือดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรูที่ขอบด้านบนสำหรับกล้องด้านหน้า ส่วนตัวเครื่องด้านหลังเป็นดีไซน์ใหม่ ด้วยผิวสัมผัสที่มีความมันวาว พร้อมลวดลายโฮโลแกรมรูปทรงเลขาคณิตแสดงชั้นสีต่าง ๆ แบบปรึซึม มีให้เลือกถึง 3 สีสันเลยทีเดียว

ด้านการประมวลผล มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB นอกจากนี้ ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) และรองรับการสแกนใบหน้า (Face Recognition) สำหรับการปลดล็อกตัวเครื่อง ส่วนแบตเตอรี่มีขนาดความจุอยู่ที่ 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ผ่าน Adapter ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน

มาดูกันดีกว่าว่า Samsung Galaxy A50s รุ่นนี้ จะตอบโจทย์กับการใช้งานทั่วไปมากน้อยแค่ไหน กับรีวิว Samsung Galaxy A50s โดยทีมงาน techmoblog.com

 

 

 

สำหรับดีไซน์ของ Samsung Galaxy A50s นั้น ยังคงเหมือนกับ Galaxy A50 ด้วยดีไซน์แบบ Infinity-U Display จอบากรูปทรงหยดน้ำ แสดงผลแบบเต็มจอจรดขอบซ้ายและขวา ขนาด 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FHD+) ในอัตราส่วน 19:5:9 ขนาดตัวเครื่อง 158.5 x 74.5 x 7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 166 กรัม

 

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล เป็นกล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/2.0 และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ส่วนตำแหน่งเหนือกล้องนั้น เป็นลำโพงสำหรับสนทนา โดยกล้องด้านหน้า อัปเกรดจากความละเอียด 25 ล้านพิกเซลบน Samsung Galaxy A50

 

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ซึ่ง Samsung Galaxy A50s ยังคงรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint)

 

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นถาดใส่ซิมการ์ด โดยรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และ microSD Card ได้พร้อมกัน

 

ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง เป็นช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา และลำโพงเสียง

 

กล้องด้านหลังยังคงเป็นกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) ที่ได้รับการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/2.0), เลนส์ Ultra Wide มุมมองกว้าง 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth สำหรับวัดระยะชัดตื้น ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งผิวสัมผัสของกรอบด้านหลังจะมีความมันวาว พร้อมลวดลายโฮโลแกรมรูปทรงเลขาคณิตแสดงชั้นสีต่าง ๆ แบบปรึซึม สวยงามไปอีกแบบ เรียกได้ว่า ดีไซน์โดยรวมไม่แตกต่างจาก Samsung Galaxy A50 มากเท่าใดนัก

 

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟแบบ Adaptive Fast Charging ขนาด 15W, สาย USB-C, หูฟัง, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด, เคสซิลิโคนใส, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า

 

Samsung Galaxy A50s ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และปรับแต่งด้วย One UI เวอร์ชัน 1.5 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟสที่ผู้ใช้งานมือถือ Samsung คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

 

การปัดลงจากขอบด้านบน จะเป็นฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเข้าเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้นได้ ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, ล็อกการหมุนของหน้าจอ, ปรับความสว่างของหน้าจอ, ไฟฉาย, Airplane Mode รวมถึงกดปิดตัวเครื่องได้จากส่วนนี้เช่นกัน

 

การปัดจากซ้ายไปขวา จะเป็นการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Bixby Home เวอร์ชัน 3.0 ด้านในจะประกอบด้วยคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ รวมถึงข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้จะถูกรวมมาไว้ในหน้าเดียว

 

สามารถเลือกเปลี่ยนวอลเปเปอร์, ธีมส่วนตัว, ไอคอนส่วนตัว รวมถึง Widget ต่าง ๆ ได้ตามสไตล์การใช้งาน ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ

 

โหมดกลางคืน จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีดำ เพื่อให้ใช้งานได้สบายตาขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้ด้วยตนเอง หรือตั้งเวลาเปิด-ปิดก็ได้เช่นกัน ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดกลางคืน

 

การปัดจากขอบด้านขวา จะเป็นการเปิดใช้งาน Apps Edge ซึ่งเป็นเครื่องมือด่วนสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้งานเป็นประจำโดยไม่จำเป็นต้องกดกลับไปยังหน้า Home นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดมุมมองแบบป๊อบอัพ ด้วยการลากแอปฯ ที่ต้องการไปยังแถบด้านซ้าย รวมถึงเปลี่ยนแผง Apps Edge ไปเป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้ในหน้าการตั้งค่า

 

รองรับฟีเจอร์ Always On Display กับการแสดงวันที่, เวลา รวมถึงข้อความแจ้งเตือนต่าง ๆ บนหน้า Lock Screen ในขณะที่หน้าจอยังดับอยู่

 

ในด้านความปลอดภัยและการปลดล็อกตัวเครื่องนั้น รองรับทั้งการสแกนใบหน้า (Face Recognition) และการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

 

รองรับ Secure Folder (โฟลเดอร์ที่ปลอดภัย) ปกป้องข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัส

 

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่าได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บในภายตัวเครื่อง, เคลียร์ RAM, สถานะความปลอดภัย และควบคุมปริมาณการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย

 

สำหรับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้แล้วในเครื่อง ประกอบด้วย แอปพลิเคชันจากทาง Samsung, Google และ Microsoft รวมถึงเครื่องคิดเลข ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติมได้ที่ Play Store

 

Samsung Galaxy A50s รุ่นที่นำมารีวิวในครั้งนี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Game Booster ด้วยการตัดการทำงานที่ไม่จำเป็นออก ทำให้การแสดงภาพกราฟิกไหลลื่นขึ้น นอกจากนี้ ยังเรียนรู้ลักษณะการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับแต่งแบตเตอรี่, อุณหภูมิ และหน่วยความจำให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

และจากการทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV และ PUBG Mobile พบว่า ประมวลผลได้อย่างลื่นไหล แม้ว่าตัวเครื่องจะมีการสะสมความร้อนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด

 

มาดูคะแนนทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy A50s กันเสียหน่อย ซึ่งรุ่นที่นำมารีวิวในครั้งนี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB โดยการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 151,494 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำได้ 344 คะแนน (Single-Core) และ 1,129 คะแนน (Multi-Core)

 

สำหรับเซ็นเซอร์ที่รองรับบน Samsung Galaxy A50s ก็ได้แก่ Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor และ Pressure Sensor

 

สำหรับกล้องด้านหน้าบน Samsung Galaxy A50s มีความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Live Focus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย, รูปถ่าย (โหมดปกติ) และวิดีโอ

โดยโหมดรูปถ่ายนั้น สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้ และรองรับฟีเจอร์ Beauty (หน้าสวย) สำหรับปรับแต่งใบหน้าได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ สีผิว, หน้าเรียว และตาโต ปรับได้สูงสุดที่ 8 ระดับ หรือจะเลือกเป็นโหมดหน้าสวยอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน

 

ส่วน Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังละลายนั้น เลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ และสามารถเปลี่ยนรูปแบบเอฟเฟกต์ของฉากหลังได้ เช่น เปลี่ยนจากโบเก้กลม เป็นโบเก้รูปหัวใจ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ บน Samsung Galaxy A50s ยังรองรับฟีเจอร์ AR Doodle วาดลายเส้นสำหรับการถ่ายวิดีโอสั้น ยกตัวอย่างเช่น วาดหนวดแมว-หูแมวบนใบหน้า ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางซ้ายหรือขวา หนวดแมว-หูแมวก็จะขยับตาม เป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับคลิปวิดีโอที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงรองรับฟีเจอร์ AR Emoji ด้วยเช่นกัน

 

สำหรับกล้องด้านหลังของ Samsung Galaxy A50s ประกอบด้วยกล้องทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/2.0), เลนส์ Ultra Wide มุมมองกว้าง 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) และเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2) โดยตัวกล้องจะถ่ายภาพได้ทั้งหมด 2 มุมมอง นั่นก็คือ มุมปกติ (ไอคอนต้นไม้ 2 ต้น) และมุมมองกว้างพิเศษ (ไอคอนต้นไม้ 3 ต้น)

โดยโหมดถ่ายภาพบนกล้องด้านหลังนั้น มีให้เลือกหลายโหมดด้วยกัน ได้แก่ อาหาร, กลางคืน, พาโนรามา, โปร, Live Focus, รูปถ่าย, วิดีโอ, Super Slow-mo, Slow Motion และ Hyperlapse นอกจากนี้ ยังมีโหมด Scene Optimizer กับการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุนั้น ๆ  ซึ่งความแม่นยำของโหมด Scene Optimizer อาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหรือวัตถุด้วยเช่นกัน และโหมด Flaw Detection ตรวจจับข้อผิดพลาดในกรณีที่บุคคลในภาพอาจหลับตา, ภาพย้อนแสง หรือภาพเบลอ ก็จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ถ่ายใหม่

โหมด Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ

ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น มีระบบกันสั่น Super Steady แบบเดียวกับรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note 10+ ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอแบบนิ่ง ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้ไม้กันสั่น โดยรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K @30fps

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย (อัตโนมัติ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย (อัตโนมัติ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 4

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 4

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 8

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมดหน้าสวย ปรับระดับ 8

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Live Focus

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Live Focus

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Live Focus ปรับความเบลอฉากหลังระดับ 7

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Live Focus ปรับความเบลอฉากหลังระดับ 7 (เปลี่ยนเอฟเฟกต์โบเก้เป็นรูปหัวใจ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Live Focus ปรับความเบลอฉากหลังระดับ 7 (เปลี่ยนเอฟเฟกต์โบเก้ให้แสดงสีเฉพาะตัวแบบ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมด Ultra Wide (มุมมองกว้างพิเศษ)

 

จากการทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy A50s ในช่วงหลาย ๆ วันที่ผ่านมา พบว่า จุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ นั่นก็คือ กล้องถ่ายรูป ที่นำเอาฟีเจอร์เด่น ๆ ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอจากรุ่นเรือธงมาใส่ไว้หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งกล้องด้านหน้านั้น มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหลัง แม้จะยังคงเป็นกล้อง 3 ตัว (Triple-Camera) เหมือน Samsung Galaxy A50 แต่อัปเกรดเป็นกล้องความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังมีเลนส์ Ultra Wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง 123 องศา รวมถึงเลนส์ Depth สำหรับถ่ายภาพแบบ Live Focus เรียกได้ว่า สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลายรูปแบบเลยทีเดียว

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A50s ยังรองรับฟีเจอร์ AR Doodle ลูกเล่นสำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอแบบสั้น ๆ ด้วยการวาดลายเส้น อย่างเช่น วาดหูแมวบนใบหน้า หรือวาดหนวดแมว อีกทั้งยังมีระบบกันสั่นอัจฉริยะอย่าง Super Steady ทำให้ได้คลิปวิดีโอที่นิ่งขึ้นกว่าเดิม ตอบโจทย์สายโซเชียลได้เป็นอย่างดี

ด้านดีไซน์ของ Samsung Galaxy A50s นั้น ถือว่าไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นพี่อย่าง Samsung Galaxy A50 เลยแม้แต่น้อย โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล บนดีไซน์แบบ Infinity-U Display หรือดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรูที่ขอบด้านบนสำหรับกล้องด้านหน้า ในขณะที่ดีไซน์ด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยผิวสัมผัสที่มีความมันวาว พร้อมลวดลายโฮโลแกรมรูปทรงเลขาคณิตแสดงชั้นสีต่าง ๆ แบบปรึซึม สวยไม่เหมือนใคร

สำหรับการประมวลผล มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB ในด้านความปลอดภัยในการปลดล็อกตัวเครื่อง รองรับทั้งการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) และการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ส่วนแบตเตอรี่มีขนาดความจุอยู่ที่ 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ผ่าน Adapter ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และ microSD Card ได้พร้อมกัน

นอกจากนี้ Samsung Galaxy A50s ยังรองรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ Always On Display, โหมดกลางคืน กับการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบ สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อยให้สบายตามากขึ้น, ฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกันได้พร้อมกัน และฟีเจอร์ Smart Pop-Up View กับการย่อแอปพลิเคชันให้มีขนาดที่เล็กลง สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ, ปรับขนาดได้ หรือทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นไปพร้อม ๆ กันได้

และสำหรับใครที่สนใจ Samsung Galaxy A50s ทาง Samsung ประเทศไทย ได้จัดโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน ผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 458 บาท พร้อมรับฟรี Galaxy A UV Jacket มูลค่า 990 บาท เฉพาะที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ ซึ่งโปรโมชั่นนี้ ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2562 นี้เท่านั้น

ส่วนราคาของ Samsung Galaxy A50s อยู่ที่ 10,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Crush Black, Prism Crush Green และ Prism Crush White

 

จุดเด่นของ Samsung Galaxy A50s

• ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Infinity-U Display ด้วยหน้าจอชิดขอบ (ซ้าย-ขวา) ทำให้สามารถขยายพื้นที่ในการแสดงผลได้เพิ่มขึ้น
• บอดี้ด้านหลังมีการเคลือบผิวแบบมันวาว ลวดลายพื้นผิวรูปทรงเรขาคณิตที่สามารถแสดงชั้นสีต่าง ๆ แบบปริซึม พร้อมลูกเล่นการสะท้อนของฝาหลังตามมุมมองต่าง ๆ โดยตัวเครื่องแต่ละสีก็ให้สีสันที่แตกต่างกันไป
• หน้าจอแสดงผลกว้าง 6.4 นิ้ว แบบ Super AMOLED (Infinity-U Display) ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FHD+), อัตราส่วน 19:5:9
• ชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/2.0, โหมด Live Focus สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
• กล้องด้านหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ประกอบด้วย
  • เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/2.0)
  • เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2), มุมมองกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F/2.2)
  • ไฟแฟลช LED
  • โหมด Scene Optimizer กับการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุนั้น ๆ ซึ่งสามารถแยกความแตกต่างได้สูงสุดถึง 19 โหมด
  • โหมด Flaw Detection ตรวจจับข้อผิดพลาดในกรณีที่บุคคลในภาพอาจหลับตา, ภาพย้อนแสง หรือภาพเบลอ ก็จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ถ่ายใหม่ เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดีที่สุด
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้งซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และ microSD Card
• รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint)
• รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
• รองรับ Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะ
• รองรับฟีเจอร์ Bixby Home เวอร์ชัน 3.0
• รองรับฟีเจอร์ Always On Display
• รองรับฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้า กับการจำกัดปริมาณแสงสีฟ้าบนหน้าจอด้วยการเปลี่ยนสีบนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวล เพื่อลดอาการล้าที่ดวงตาเมื่อใช้เป็นเวลานาน ๆ หรือใช้ในที่แสงน้อย
• โหมดกลางคืน กับการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบ สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อยให้สบายตามากขึ้น
• รองรับฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกันได้พร้อมกัน เช่น Facebook, LINE เป็นต้น
• แอปพลิเคชัน SmartThings จัดการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านแบบอัจฉริยะ และควบคุมการใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ฟีเจอร์ Smart Pop-Up View กับการย่อแอปพลิเคชันให้มีขนาดที่เล็กลง สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ, ปรับขนาดได้ หรือทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันอื่นไปพร้อม ๆ กันได้
• รองรับ Secure Folder (โฟลเดอร์ที่ปลอดภัย) ปกป้องข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัส
• แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0
• รองรับเครือข่าย Wi-Fi, 3G และ 4G LTE
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) และอินเทอร์เฟส One UI เวอร์ชัน 1.5

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ตัวเครื่องไม่รองรับการกันน้ำและกันฝุ่น
• ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย

 

ข้อควรทราบ : เครื่อง Samsung Galaxy A50s ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 28/10/2019

Samsung Galaxy A50s รีวิว Samsung Galaxy A50s