ปฏิเสธไม่ได้ว่า หูฟังแบบไร้สาย เป็น Gadget ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งดีไซน์ไซซ์เล็กแบบ In-Ear หรือขนาดใหญ่ครอบหูแบบ Over-Ear ซึ่งล่าสุด แบรนด์ Samsung ก็ได้เปิดตัว Galaxy Buds Live ที่ถือว่าเป็นการพลิกโฉมการออกแบบดีไซน์ของหูฟังไร้สายแบบ Earbuds ใหม่ ที่มีลักษณะคล้ายกับเมล็ดถั่ว และไม่มีก้านหูฟังเหมือนกับหูฟังไร้สายทั่วไป
โดย Galaxy Buds Live หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จาก Samsung แม้จะมีดีไซน์ขนาดเล็ก แต่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และคุณภาพเกินตัว ซึ่งเอกลักษณ์ของหูฟังไร้สายรุ่นนี้ถือว่าโดดเด่นไม่เหมือนใคร แม้จะไม่มีก้านหูฟัง แต่ในเรื่องของการสวมใส่ถือว่าสบาย ไม่เจ็บหู และไม่ต้องกังวลว่าจะร่วงหล่นระหว่างใช้งาน เพราะถูกออกแบบมาให้พอดีกับหูนั่นเอง
นอกจากนี้ Galaxy Buds Live ยังรองรับระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation), รองรับการใช้งานด้วยระบบสัมผัส หรือระบบสั่งการด้วยเสียง (Bixby) อีกทั้งยังติดตั้งไมโครโฟนมาให้มากถึง 3 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Voice Pickup Unit (VPU) ที่ช่วยทำให้เสียงสนทนามีความคมชัด ส่วนแบตเตอรี่ยังรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนาน และชาร์จแบตเตอรี่ง่าย ๆ ด้วยการใส่กลับเข้าไปในกล่องเคส อีกทั้งยังสามารถปรับการตั้งค่าในส่วนอื่น ๆ ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Galaxy Buds Live อีกด้วย
ส่วนเรื่องของการใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้จากหูฟังรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรนั้น มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิวหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live โดยทีมงาน techmoblog.com
กล่องแพ็กเกจของ Galaxy Buds Live มีขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องจะมีการระบุสีสันของตัวหูฟังอย่างชัดเจน ซึ่ง Galaxy Buds Live จะมีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Mystic Bronze, Mystic Black และ Mystic White โดยสีที่ทีมงานนำมารีวิวในวันนี้ คือ สีดำ Mystic Black
ด้านหลังระบุฟีเจอร์หลัก ๆ ของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ซึ่งได้แก่ ดีไซน์ที่สวมใส่กระชับ, รองรับการใช้งานได้ยาวนาน 6-21 ชั่วโมง, ไมโครโฟน 3 ตัวเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด และรองรับระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation)
โดยหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live รองรับกับอุปกรณ์ Android เวอร์ชัน 5.0 ขึ้นไป และมี RAM ไม่ต่ำกว่า 1.5 GB อีกทั้งยังรองรับการใช้งานกับ iPhone 7 หรือรุ่นที่สูงกว่า ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 10 ขึ้นไป
สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ประกอบด้วย หูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live พร้อมเคสชาร์จ, สายชาร์จแบบ USB-C, Wingtip หรือจุกยาง, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน
เคสชาร์จของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live จะมาพร้อมกับดีไซน์รูปทรงสี่เหลี่ยมจัดุรัส ขนาดอยู่ที่ 50 x 50.2 x 27.8 มม. ด้านบนมีโลโก้ Samsung และคำว่า Sound by AKG โดยผิวสัมผัสของเคสสีดำ Mystic Black นั้น จะเป็นผิวมัน แตกต่างจากสี Mystic Bronze ที่จะมีผิวสัมผัสแบบด้าน ส่วนแบตเตอรี่ของเคสมีขนาดความจุที่ 500 mAh
ด้านหน้าจะมีไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่เมื่อมีการปิดกล่องเคส
ด้านหลังเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
เมื่อเปิดฝาเคส จะพบกับหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ซึ่งภายในมีการระบุตำแหน่งซ้ายและขวาอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีไฟ LED แสดงสถานะของแบตเตอรี่ที่ด้านในด้วยเช่นกัน
สำหรับรูปทรงของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ถือว่ามีดีไซน์ที่แปลกตากว่าหูฟังทั่ว ๆ ไป คล้ายกับเมล็ดถั่ว ไม่มีก้านหูฟัง วัสดุเป็นพลาสติก น้ำหนักเบา แต่เนื่องจากผิวสัมผัสเป็นผิวมันเงา ทำให้ติดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่าย โดยขนาดของหูฟังจะอยู่ที่ 27.3 x 16.5 x 14.9 มม.
หูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live จะมีไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัว อยู่ตรงตำแหน่งฝั่งด้านนอกหูฟัง 2 ตัว และฝั่งด้านในอีก 1 ตัว พร้อมลำโพงเสียงและเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงพูด ส่วนด้านบนเป็นแถบแม่เหล็กสำหรับยึดตัวหูฟังกับกล่องชาร์จ ภายในมีไดร์เวอร์ขนาด 12 มม. ซึ่งหูฟังรุ่นนี้มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation) อีกด้วย
ด้วยรูปทรงที่แปลกตาของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ทำให้หลาย ๆ ท่านอาจจะเกิดคำถามว่า หูฟังแบบนี้จะใส่เข้าไปในหูอย่างไร โดยการใส่หูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live นั้น ให้ใส่ส่วนที่เป็นลำโพงเข้าไปในหูก่อน ซึ่งจะอยู่ตรงตำแหน่งของรูหูพอดี จากนั้นค่อยใส่หูฟังอีกด้านเข้าไป ปรับเล็กน้อยเพื่อให้พอดีกับใบหู
เมื่อเปรียบเทียบการสวมใส่หูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live กับหูฟังไร้สายรุ่นอื่น ๆ พบว่า แบบนี้มีความกระชับมากกว่า เพราะถูกออกแบบให้ทุกส่วนอยู่ภายในหูโดยไม่มีส่วนไหนยื่นออกมา ทำให้หมดกังวลเรื่องของหูฟังหลวม หลุด สวมใส่ไม่พอดี แต่จากที่ทีมงานได้ทดลองสวมใส่ พบว่า คนที่มีหูเล็กจะไม่สามารถใส่ได้ เนื่องจากตัวหูฟังมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ หรือต่อให้ใส่เข้าไปในหูได้ แต่ก็รู้สึกอึดอัดและสวมใส่ไม่สบายเท่าที่ควร
อีกอย่างที่ถือว่าเป็นข้อควรระวังก็คือ เนื่องจากตัวหูฟังมีขนาดที่เล็ก และผิวสัมผัสมัน ทำให้เวลาที่จะใส่หูฟังอาจจะลื่นหลุดมือได้ง่าย
สำหรับใครที่ใช้งานมือถือ Samsung Galaxy อยู่แล้ว การเชื่อมต่อหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live กับอุปกรณ์ ก็เพียงแค่เปิดเคสหูฟัง มือถือ Samsung Galaxy ก็จะขึ้นหน้าต่างให้เชื่อมต่อได้เลย โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเชื่อมต่อเองภายหลัง คล้าย ๆ กับการเชื่อมต่อหูฟัง AirPods / AirPods Pro กับ iPhone นั่นเอง
ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้มือถือ Samsung Galaxy ก็สามารถใช้งานร่วมกับหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ได้ ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Samsung Galaxy Buds ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS ซึ่ง iPhone เองก็รองรับหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ด้วยเช่นกัน
แอปพลิเคชัน Samsung Galaxy Buds สามารถปรับแต่งการตั้งค่าได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น สามารถดูสถานะของแบตเตอรี่ทั้งบนตัวหูฟังและเคสได้, เปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก (ANC), Equlizer, ตั้งค่าการควบคุมด้วยการแตะ, เปิด-ปิดฟีเจอร์อ่านออกเสียงการแจ้งเตือน, ตั้งค่าเสียงในขณะเล่นเกม, อัปเดตซอฟท์แวร์หูฟัง และอื่น ๆ
สำหรับฟังก์ชัน Equalizer นั้น สามารถเลือกได้มากถึง 6 โหมดด้วยกัน ซึ่งได้แก่ ปกติ, บูสต์เบส, นุ่ม, ไดนามิก, ชัดเจน และบูสต์เทรเบิล โดยแต่ละโหมดก็จะให้จังหวะของเสียงที่แตกต่างกันออกไป
การควบคุมด้วยการแตะที่ตัวหูฟัง สามารถควบคุมการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
ส่วนการเปิด-ปิดโหมด ANC นอกจากจะสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันแล้ว ยังสามารถแตะค้างที่ตัวหูฟังได้ หรือเลือกเป็นการตั้งค่าอย่างอื่น เช่น เรียก Bixby, เพิ่ม-ลดระดับเสียง หรือเปิด Spotify
เรื่องความหน่วงกับการเล่นเกมถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจากการทดสอบ พบว่า เกมบางเกมเสียงที่ออกมาปกติ ไม่หน่วงและไม่ดีเลย์ เสียงที่ออกมาตรงกับจังหวะที่กดปุ่มนั้น ๆ แต่บางเกมก็ไม่สามารถเล่นได้เลยเพราะจังหวะไม่ตรงกัน แต่ทั้งนี้เราสามารถปรับลดความหน่วงได้ผ่านทางแอปฯ Galaxy Buds Live
สำหรับคุณภาพเสียงที่ได้ของหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live ก็ถือว่าทำได้ดีตามสไตล์ของหูฟังแบบ Earbuds แต่ดีกว่าเล็กน้อยเนื่องจากปรับจูนเสียงโดย AKG ได้เสียงที่คมชัด ใส ไม่บาดหู สามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน ไม่ทับซ้อนกัน ส่วนเสียงเบสอาจจะมีมวลไม่หนักมากเท่าหูฟังแบบ In-Ear ซึ่งคนที่ชอบฟังเพลงแบบเน้นเสียงเบสอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่
ฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (ANC) อาจจะไม่สามารถตัดเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการตัดเสียงย่านความถี่ต่ำ เช่น เสียงพัดลม, เสียงรถยนต์รอบตัว เป็นต้น
ส่วนการใช้งานโทรศัพท์ ปลายสายได้ยินเสียงเราอย่างชัดเจน เนื่องจากมีไมโครโฟนมาให้ถึง 3 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Voice Pickup Unit (VPU) ที่ช่วยทำให้การสนทนาชัดเจนขึ้นนั่นเอง
จากการทดสอบใช้งานในเบื้องต้น คงจะกล่าวได้ว่า Galaxy Buds Live เป็นหูฟังไร้สายที่สวมใส่สบายอีกรุ่นหนึ่ง และยังออกแบบมาได้โดดเด่นกว่าหูฟังรุ่นอื่น ๆ ซึ่งดีไซน์แบบนี้ทำให้สวมใส่ได้อย่างพอดี ไม่มีก้านหูฟังยื่นออกมาเกะกะ และไม่ต้องกังวลว่าจะหล่นหายระหว่างใช้งาน แต่คนที่มีหูเล็ก อาจจะสวมใส่ไม่ได้ หรือถ้าหากใส่ได้ก็อาจจะแน่นเกินไปจนรู้สึกว่าไม่ค่อยสบายหู เนื่องจากหูฟังมีแค่ขนาดเดียว อีกทั้งด้วยขนาดของหูฟังที่ค่อนข้างเล็ก และผิวสัมผัสแบบมันเงา จึงต้องมีความระมัดระวังในขณะที่สวมใส่เพื่อใช้งาน เพราะอาจหลุดมือได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Galaxy Buds Live ก็คือ ไม่ได้รองรับการใช้งานแค่มือถือ Samsung เพียงแบรนด์เดียว แต่รองรับทั้งระบบ Android และ iOS โดยมีเงื่อนไขก็คือ ถ้าหากเป็นมือถือ Android จะต้องอัปเดตเป็น Android 5.0 ขึ้นไป และมีหน่วยความจำ RAM ไม่ต่ำกว่า 1.5 GB แต่ถ้าหากเป็น iPhone จะต้องเป็นรุ่น iPhone 7 หรือสูงกว่า และจะต้องอัปเดตเป็น iOS 10 หรือเวอร์ชันที่สูงกว่า
แม้ว่าหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live จะรองรับระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) แต่ด้วยดีไซน์แบบ Earbuds ทำให้การตัดเสียงรบกวนทำได้ไม่ดีเท่าหูฟังแบบ In-Ear แม้จะทดสอบด้วยการเปิดโหมด ANC แล้ว แต่ก็ยังได้ยินเสียงรบกวนเข้ามาอยู่ดี
ด้านคุณภาพเสียง ถือว่าทำได้ดีในระดับที่หูฟังดีไซน์ Earbuds จะสามารถทำได้ เสียงคมชัด ใส ไม่บาดหู เวทีเสียงกว้าง ส่วนเสียงเบสอาจจะไม่โดดเด่นมากนัก แต่สามารถปรับค่า Equalizer ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน ส่วนในเรื่องของการใช้งานโทรศัพท์ถือว่าสอบผ่าน
โดย Galaxy Buds Live มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Mystic Black, Mystic White และ Mystic Bronze วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาอยู่ที่ 6,990 บาท
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 06/01/2021
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |