เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทาง Samsung ได้วางจำหน่ายมือถือ Samsung Galaxy J-Series ทั้ง 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ Samsung Galaxy J4 และ Samsung Galaxy J6 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์จอไร้ขอบแบบ Full View Display, กล้องด้านหน้าที่มาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ LED ปรับความสว่างได้ 3 ระดับ, รองรับ Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะ, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, และรองรับการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า เรียกได้ว่า คุณสมบัติเบื้องต้นบางส่วนถอดแบบจากมือถือเรือธงของค่ายเลยนั่นเอง
โดยรุ่นที่ทีมงานจะนำมารีวิวให้ชมกันก่อน นั่นก็คือ Samsung Galaxy J6 ที่ถือว่า โดดเด่นกันตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องเลยก็ว่าได้ ทั้งเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody ด้วยการขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน, หน้าจอแสดงผลขนาด 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1480 x 720 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 7870 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.6 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด, ฟีเจอร์ App Pair จับคู่แอปฯ ที่ใช้งานบ่อยให้แสดงผลพร้อมกันได้ 2 หน้าจอ, ฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 แอคเคาท์ ในแอปฯ โปรดได้พร้อมกัน, แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo)
ด้านกล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นจุดขายของ Samsung Galaxy J6 เลยก็ว่าได้ โดยกล้องด้านหน้า มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ ยังรองรับโหมด Selfie Focus ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED
มาชมกันดีกว่าว่า Samsung Galaxy J6 จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีแค่ไหน กับรีวิว Samsung Galaxy J6 โดยทีมงาน techmoblog ครับ
>> สเปก Samsung Galaxy J6 อย่างละเอียด คลิกที่นี่
Samsung Galaxy J6 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลกว้าง 5.6 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1480 x 720 พิกเซล, อัตราส่วน 18:5:9 โดยเป็นดีไซน์จอไร้ขอบตามสไตล์ของ Samsung ที่เรียกดีไซน์แบบนี้ว่า Full View Display ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 149.3 x 70.2 x 8.2 มม. และหนักเพียง 154 กรัม สามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างถนัดมือ
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับรูรับแสงกว้าง F/1.9, เซ็นเซอร์ Accelerometer, เซ็นเซอร์ Proximity และไฟแฟลชแบบ LED ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ (3-Step Lighting) นอกจากนี้ ยังรองรับโหมด Selfie Focus หรือถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลออีกด้วย
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และลำโพงเสียงที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM กับ microSD Card ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และ microSD Card ได้พร้อมกัน
ด้านบนของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต microUSB, ไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
ด้านหลังของตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่ง Samsung Galaxy J6 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ทำให้ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ส่วนภายในประกอบด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh
Samsung Galaxy J6 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo) และอินเทอร์เฟส Samsung Experience เวอร์ชัน 9.0 ซึ่งรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE และ 3G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด (แต่การใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE จะต้องเลือกซิมการ์ดใดซิมการ์ดหนึ่งเท่านั้น)
ในส่วนของฟังก์ชันการแจ้งเตือนนั้น สามารถเข้าสู่เมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้นได้หลากหลาย ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, ล็อกการหมุนของหน้าจอ, ไฟฉาย, Airplane Mode และอื่น ๆ นอกจากนี้ Samsung Galaxy J6 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Wi-Fi อัตโนมัติเมื่อใช้งานในจุดที่เคยเชื่อมต่อสัญญาณเอาไว้แล้ว ทำให้การเชื่อมต่อไม่มีสะดุด อีกทั้งยังลดการใช้อินเทอร์เน็ตจากสัญญาณโทรศัพท์อีกด้วย
ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนวอลเปเปอร์, ธีม รวมถึง Widget ได้ตามใจชอบ
นอกจากนี้ Samsung Galaxy J6 ยังรองรับฟีเจอร์ App Pair กับการจับคู่แอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยให้แสดงผลพร้อมกันได้ 2 หน้าจอ เช่น เปิด YouTube กับแอปฯ แชทพร้อมกัน เป็นต้น โดยรองรับการแสดงผลทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน
สำหรับแอปพลิเคชันพื้นฐานบน Samsung Galaxy J6 มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย รวมถึงแอปฯ จาก Samsung ไม่ว่าจะเป็น Samsung Health, Galaxy Gift, Galaxy Apps เป็นต้น
รวมถึงแอปฯ จาก Google และ Microsoft ก็มีให้พร้อมใช้งานเช่นกัน ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม
นอกจากนี้ ยังมีวิทยุ FM ในตัวอีกด้วย ซึ่งการใช้งานจะต้องเสียบหูฟังเสียก่อน
Samsung Galaxy J6 สามารถตั้งค่าอื่น ๆ เพื่อให้การใช้งานสะดวกขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น โหมดมือเดียว, เปิดกล้องด่วนด้วยการกดปุ่ม Power อย่างเร็ว 2 ครั้ง หรือเปิดใช้งานโหมดฝ่ามือปัดเพื่อจับภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ Samsung Galaxy J6 ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือ (ด้านหลังตัวเครื่อง) และรองรับการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน
Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 บัญชีในแอปฯ เดียวกันได้พร้อมกัน เช่น Facebook, LINE เป็นต้น
มาทดสอบประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมกันบ้าง โดย Samsung Galaxy J6 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7870 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali T830 MP1 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกม ROV พบว่า มีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อการเล่นเท่าใดนัก
มาทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 62,647 คะแนน ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ทำได้ 733 คะแนน และ 3,726 คะแนน สำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ Multi-Core ตามลำดับ
ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 5 จุด
สำหรับจุดขายของ Samsung Galaxy J6 อยู่ที่กล้องด้านหน้าและด้านหลัง โดยกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ ซึ่งกล้องด้านหน้า มีโหมดถ่ายภาพให้เลือกทั้งหมด 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Selfie Focus (ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ), Selfie, สติกเกอร์ และถ่ายภาพตนเอง โดยโหมด Selfie นั้น สามารถเลือกปรับความเนียนของผิว, ใบหน้า และดวงตาได้สูงสุด 8 ระดับ
สำหรับโหมด Selfie Focus หรือถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอนั้น ปรับได้เฉพาะสีและความเนียนของผิวได้สูงสุดที่ 8 ระดับ
เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายด้วยโหมด AR Sticker
ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED โดยมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น HDR, กลางคืน, Panorama, Pro, ความงาม, อัตโนมัติ, สติกเกอร์ และถ่ายต่อเนื่อง ส่วนการซูมรองรับสูงสุดที่ 4 เท่า
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่ากล้องได้หลายส่วนด้วยกัน เช่น ขนาดรูปภาพ, ขนาดวิดีโอ, จับเวลา, จุดตัดเก้าช่อง, เปิดแท็กสถานที่, โหมดเริ่มกล้องด่วน และอื่น ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Selfie ปรับความเนียนของผิวระดับ 4
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Selfie ปรับความเนียนของผิวระดับ 8
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า โหมด Selfie Focus ปรับความเนียนของผิวระดับ 4
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง โหมดอัตโนมัติ
จากการทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy J6 ในเบื้องต้นนั้น เรียกได้ว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความน่าสนใจในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน เริ่มกันตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องที่ถือว่า ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody กับการขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่เรียบหรูและน่าใช้งาน ในขณะที่ฝาหลังเป็นพื้นผิวแบบด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือขณะใช้งานได้ยากอีกด้วย
ในด้านการประมวลผลนั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7870 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Mali T830 MP1 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo) ซึ่งจากการทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง ROV รวมถึง PUBG Mobile แม้จะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการเล่นแต่อย่างใด
ด้านกล้องถ่ายรูปที่ถือว่าเป็นจุดขายของ Samsung Galaxy J6 นั้น กล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับโหมดการถ่ายภาพแบบ Selfie Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ และโหมด Selfie ที่สามารถปรับความเนียนของผิว, ปรับใบหน้า และดวงตาได้สูงสุดที่ 8 ระดับ
ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.9 เช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า โดยมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมด AR Sticker ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย
นอกเหนือจากคุณสมบัติในข้างต้นแล้ว Samsung Galaxy J6 ยังรองรับคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยทำให้การใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถเชื่อมต่อ 2 แอคเคาท์ ในแอปฯ โปรดได้พร้อมกัน, ฟีเจอร์ App Pair จับคู่แอปฯ ที่ใช้งานบ่อยให้แสดงผลพร้อมกันได้ 2 หน้าจอ, รองรับการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, แอปพลิเคชัน Secure Folder ปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วยการเข้ารหัส, สำรองข้อมูลบน Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB รวมถึงรองรับ Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะเช่นกัน เพียงแต่บน Samsung Galaxy J6 จะไม่มีปุ่มเรียกใช้งาน Bixby แบบรุ่นเรือธง
โดย Samsung Galaxy J6 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 6,990 บาท ผ่านทาง Samsung Brand Shop และร้านตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ ยังรับฟรีประกันจอแตกนานสูงสุด 1 ปี (ในกรณีหน้าจอตก, แตก, ร้าว) มูลค่า 1,200 บาท เมื่อลงทะเบียนและรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Gift โดยสิทธิพิเศษนี้ หมดเขต 31 สิงหาคม 2561 นี้
จุดเด่นของ Samsung Galaxy J6
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ : เครื่อง Samsung Galaxy J6 ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 03/07/2018
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |