พรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ เรือธงเพื่อการขีดเขียนรุ่นใหม่ป้ายแดง จอใหญ่ขึ้น 6.8 นิ้ว, กล้อง 4 ตัว และปากกา S Pen รุ่นอัปเกรด บนดีไซน์จอไร้ขอบบางเฉียบ

หลังจากที่ทีมงานได้ทำบทความสรุปสเปกและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ มือถือเรือธงรุ่นใหม่ป้ายแดง รวมถึงอัปเดตราคา Samsung Galaxy Note 10 ในไทย พร้อมกับสรุปโปรจอง Samsung Galaxy Note 10 กันไปแล้ว คราวนี้มาลองจับตัวเครื่องจริงกันบ้างว่า การกลับมาของ Samsung Galaxy Note 10 ในปีนี้ จะคุ้มค่าสมการรอคอยมากน้อยแค่ไหน

โดยสื่อ Sammobile.com ได้เข้าร่วมงาน UNPACKED เปิดตัว Samsung Galaxy Note 10 ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ พร้อมกับเผยบทความพรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ ออกมาให้ชมกัน

ในปีนี้ ถือว่าเป็นปีแรกที่ Samsung Galaxy Note 10 เปิดตัวกันถึง 2 รุ่น นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note 10 หน้าจอ 6.3 นิ้ว กับ Samsung Galaxy Note 10+ หน้าจอ 6.8 นิ้ว ที่ถือว่า เป็นรุ่นที่หน้าจอใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดตัวมาบน Galaxy Note อีกด้วย แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy Note 9 ที่มีขนาดหน้าจอที่ 6.4 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องกลับมีขนาดใกล้เคียงกับ Note 9 แถมบางกว่าเดิมเพียง 7.9 มม. เท่านั้น (Galaxy Note 9 บาง 8.8 มม.) ทั้งนี้เนื่องจาก Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Cinematic Infinity-O Display ที่มาพร้อมกับขอบจอบางเฉียบ และเจาะรูตรงกลางสำหรับกล้องด้านหน้า ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลเพิ่มขึ้น

โดยหน้าจอแสดงผลของ Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ เป็นจอแบบ Cinematic Infinity Display ที่รองรับคอนเทนต์ HDR10+ สีแม่นยำที่สุด ทำให้สามารถใช้งานกลางแดดได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ตัดแสงสีฟ้า ใช้งานได้สบายตามากขึ้นด้วย

สำหรับด้านซ้ายตัวเครื่อง ได้ถอดปุ่มเข้าใช้งาน Bixby ออกไปแล้ว และแทนที่ด้วยปุ่ม Power กับปุ่มปรับระดับเสียงแทน ซึ่งอาจไม่ถนัดมือนักสำหรับผู้ที่เคยชินกับการกดปุ่ม Power ที่อยู่ด้านขวาตัวเครื่อง ในขณะที่ด้านขวาตัวเครื่องนั้นไม่มีปุ่มควบคุมการทำงานใด ๆ

ฟีเจอร์ที่แตกต่างไปจาก Galaxy Note 9 ก็คือ บน Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ ไม่มีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเน้นการใช้งานแบบไร้สายแทน ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเดิมได้ถูกตัดออกไป แทนที่ด้วยระบบสแกนนิ้วใต้จอแบบ Ultrasonic รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจได้ถูกตัดออกไปในรุ่นนี้เช่นกัน แต่ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ก็สามารถหา Galaxy Watch หรือ Galaxy Fit มาใช้งานแทนได้ สะดวกไปอีกแบบ

ด้านปากกา S Pen ที่ถือว่า เป็นหัวใจสำคัญของ Galaxy Note นั้น ได้รับการอัปเกรดใหม่ในรุ่นนี้ ซึ่งนอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth แบบเดียวกับ Galaxy Note 9 แล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Air Actions ช่วยให้การควบคุมง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการตวัดปากกา S Pen ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น หมุนปากกา S Pen ตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา เพื่อซูมภาพเข้า-ออก, ตวัดปากกา S Pen ไปทางซ้าย หรือขวาในแอปฯ Gallery เพื่อดูรูปถัดไปหรือก่อนหน้า รวมถึงการเพิ่ม-ลดเสียงด้วยการตวัดปากกาโดยไม่ต้องกดปุ่มปรับระดับเสียง นอกจากนี้ ยังรองรับการเปลี่ยนลายมือให้เป็นข้อความแบบตัวอักษรด้วย ซึ่งน่าจะถูกใจคนชอบใช้ปากกา S Pen ไม่น้อย โดยปากกา S Pen จะมีสีสันแตกต่างกันไปตามสีตัวเครื่อง

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือว่า เป็นจุดขายหลัก ๆ ของ Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ นั่นก็คือ กล้องถ่ายรูป ซึ่งบน Samsung Galaxy Note 10+ นั้น เป็นกล้อง 4 ตัว (Quad-Camera) ที่ประกอบด้วยเลนส์ Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และเลนส์ DepthVision Camera ซึ่งเหนือกว่า Samsung Galaxy Note 10 ที่เป็นกล้อง 3 ตัวตรงที่ Samsung Galaxy Note 10+ สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Live Focus หน้าชัดหลังเบลอได้ เป็นคุณสมบัติของเลนส์ DepthVision ที่เพิ่มเข้ามานั่นเอง

โดยรายละเอียดข้างต้น เป็นการพรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ ให้ชมเป็นน้ำจิ้มกันก่อน และเตรียมตัวพบกับบทความรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Samsung Galaxy Note 10+ จากทีมงาน techmoblog.com ได้ในเร็ว ๆ นี้

-------------------------------------
ที่มา : sammobile.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 11/09/2019

Samsung Galaxy Note 10 Samsung Galaxy Note 10+