Samsung Galaxy Note 5 อัปเดตข่าว สเปค และราคา ล่าสุด : TrueMove H หั่นราคา Samsung Galaxy Note 5 เหลือ 7,900 บาท ถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

หลังจากที่ Samsung Galaxy Note 8 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ได้ประกาศให้จับจองกันในวันที่ 1 กันยายนนี้ ทำให้รุ่นในซีรี่ส์เดียวกัน ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านั้นอย่าง Samsung Galaxy Note 5 จะต้องมีการปรับลดราคาลงมาตามธรรมเนียม และล่าสุด ทาง TrueMove H ได้ปล่อยโปรโมชั่น ลดราคา Samsung Galaxy Note5 แล้ว เหลือเพียง 7,900 บาทเท่านั้น

โดยโปรโมชั่น ลดราคา Samsung Galaxy Note 5 จาก TrueMove H เป็นโปรสำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม เหลือเพียง 7,900 บาท ซึ่งจะต้องซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจราคา 599 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท (รับคืนเป็นส่วนลดค่าแพ็กเกจ 200 บาท นาน 10 เดือน) ติดสัญญา 12 เดือน แต่ถ้าไม่ใช่ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม ราคาค่าเครื่องจะอยู่ที่ 8,900 บาท

สำหรับโปรโมชั่นนี้ เป็น Samsung Galaxy Note 5 ขนาดความจุ 64 GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง และสีเงิน หมดเขต 30 กันยายนนี้ - truemoveh.com , TMH Fanpage

 

Samsung Galaxy Note5 เพิ่มสีใหม่ 2 สี Silver Titanium และ Pink Gold

หลังจากที่ทาง ซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Note5 ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมกับวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้วในบางประเทศ รวมไปถึงประเทศไทยด้วยนั้น ล่าสุด ซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Note 5 สีใหม่เพิ่มอีก 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Silver Titanium และ Pink Gold

โดยทั้ง 2 สีใหม่ จะวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้เป็นแห่งแรก ซึ่งสี Pink Gold นั้น จะวางจำหน่ายในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ เฉพาะรุ่นความจุ 64 GB รุ่นเดียว ส่วนสี Silver Titanium มีให้เลือก 2 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 32 GB กับ 64 GB แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า จะวางจำหน่ายเมื่อใด

ส่วนในไทย สีใหม่ทั้ง 2 สี จะเข้ามาเมื่อใดนั้น จะรายงานให้ทราบกันอีกครั้ง - sammyhub.com

 

รีวิว Samsung Galaxy Note 5

หลังจากที่ทางทีมงาน techmoblog ได้ทำการ พรีวิว Samsung Galaxy Note 5 กันแบบหอมปากหอมคอกันไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันนี้ ถือว่า เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้ทำการ รีวิว Samsung Galaxy Note 5 แบบเต็มๆ ให้ได้ชมกัน โดยความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด ระหว่าง Samsung Galaxy Note 4 และ Samsung Galaxy Note 5 นั่นก็คือ ดีไซน์ที่สวยหรู และดูพรีเมียม ด้วยบอดี้แบบโลหะ และกระจกขอบโค้งที่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Samsung Galaxy S6 กับ Samsung Galaxy S6 edge นั่นเอง อีกทั้งยังบางเฉียบกว่ารุ่นก่อนหน้าอีกด้วย

โดย Samsung Galaxy Note5 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7420 Processor ซึ่งประกอบไปด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core ความเร็ว 1.5 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) พร้อมปากกา S Pen ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่สุดเจ๋ง นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยี Fast Wireless Charging, บริการ Samsung Pay และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home อย่างไรก็ดี Samsung Galaxy Note 5 ได้ตัดบางฟีเจอร์ที่จำเป็นออกไป โดยเฉพาะ คุณสมบัติในการรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ที่ไม่รองรับอีกต่อไปบนรุ่นนี้ รวมไปถึงลดความจุของแบตเตอรี่ลงเหลือ 3000 mAh เท่านั้น

มาดูกันดีกว่า Samsung Galaxy Note 5 จะมาพร้อมกับความน่าสนใจตรงไหนบ้าง คุ้มหรือไม่ที่จะเปลี่ยนมาใช้ Note5 มาพิสูจน์ไปพร้อมๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy Note 5 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

• จอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (518 ppi)
• ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7420 แบบ 64-bit (ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz)
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB หรือ 64 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
• ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
• มีปากกา S Pen ในตัว
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง

>> สเปค Samsung Galaxy Note 5 อย่างละเอียด คลิกที่นี่

Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล (QHD), ขนาดตัวเครื่อง 153.2 x 76.1 x 7.6 มม. และหนัก 171 กรัม

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ต่างๆ, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งอัปเกรดจากความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซลบน Samsung Galaxy Note 4 นอกจากนี้ ยังมีไฟแจ้งเตือนแบบ LED แสดงสถานะอีกด้วย

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่ม Recents App, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งปุ่ม Home นั้น รองรับการสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย

ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต microUSB, ลำโพงเสียง และไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา ส่วนขวาสุด เป็นปากกา S Pen Stylus

ด้านหลังของตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรูรับแสงกว้าง F/1.9 นอกจากนี้ ยังมี Heart Rate Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง ตรงตำแหน่งไฟแฟลชอีกด้วย โดย Samsung Galaxy Note 5 ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้

สำหรับปากกา S Pen นั้น ถูกออกแบบใหม่ให้ใช้งานได้อย่างสมจริงมากขึ้น มีสปริงที่ด้านท้ายของปากกา เพื่อความสะดวกในการเก็บ และการนำออกมาใช้งาน ส่วนฟังก์ชัน Air Command นั้น มีการปรับปรุงใหม่ เพิ่มปุ่มลัดสำหรับเข้าใช้งานตลอดเวลา อีกทั้ง ยังเพิ่ม Shortcut สำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันอีกด้วย

Samsung Galaxy Note5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) พร้อมอินเทอร์เฟสแบบ TouchWiz เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยผู้ใช้สามารถเลือก Widget หรือ Wallpaper รวมไปถึงแอปพลิเคชันที่จำเป็นต่อการใช้งานในไว้หน้า Homescreen ได้ตามใจชอบ

Notification Center แถบการแจ้งเตือน ซึ่งประกอบด้วย เมนูลัดในการตั้งค่าการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น เปิด-ปิด Wi-Fi, เปิด-ปิด Bluetooth, เปิด-ปิดเสียง และปรับความสว่างของหน้าจอ

การแตะปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง จะเข้าสู่เมนู Multitasking นั่นเอง สามารถสลับการใช้งานไปยัง แอปพลิเคชันอื่น ที่เปิดก่อนหน้านั้นได้ หรือลบแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน

สำหรับระบบสแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy Note 5 นั้น เป็นแบบใหม่ แตกต่างจากบน Samsung Galaxy Note 4 สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น และแม่นยำมากกว่าเดิม ด้วยการแตะนิ้วลงบนปุ่ม Home แทนการรูดนิ้วเหมือนรุ่นก่อนๆ

สำหรับไอคอนของแอปพลิเคชันต่างๆ ดูดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเห็นว่า ตัวไอคอนมีความโค้งมนมากกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า และน่าใช้อีกด้วย

สำหรับเบราว์เซอร์ จะมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ Android Browser และ Google Chrome แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเบราว์เซอร์อื่นเพิ่มเติมได้ที่ Play Store

สำหรับการดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน นอกจากจะมี Play Store แล้ว ยังมี GALAXY Apps ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอปพลิเคชันที่ทาง ซัมซุง ได้คัดสรรมาให้ผู้ใช้ได้เลือกดาวน์โหลดกันนั่นเอง

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับจัดการระบบต่างๆ ในตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล, RAM และระบบป้องกันอุปกรณ์

Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับเทคโนโลยี UHQ Upscaler ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของทั้ง เพลง และวีดีโอ ให้มีรายละเอียดดีขึ้น และคมชัดขึ้น

สำหรับแอปพลิเคชัน และบริการต่างๆ จากกูเกิล เรียกได้ว่า จัดเต็มกันเลยทีเดียว ทั้ง Chrome, Gmail, Google Maps, YouTube และอื่นๆ รวมไปถึง แอปพลิเคชันจากไมโครซอฟท์ ทั้ง OneDrive และ Skype

Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7420 แบบ 64-bit (ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz), หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU และหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB แน่นอนว่า รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ รวมไปถึงเกมกราฟิกหนักๆ ก็ยังสามารถประมวลผลการทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด

ทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note5 กันบ้าง โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟิก อยู่ที่ 31,866 คะแนน และ AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 54,338 คะแนน

ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 10 จุดครับ

อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า ปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Note 5 นั้น นอกจากจะได้รับการออกแบบใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้ปากกาจริงๆ แล้ว ฟังก์ชันอย่าง Air Command ยังได้เพิ่มทางลัดไปยังแอปพลิเคชันต่างๆ รวมไปถึง ไอคอนลัด สำหรับเปิดใช้งาน Air Command บนทุกๆ หน้าจอ เพื่อการใช้งานที่สะดวกและรวดเร็วนั่นเอง

โดยปกติแล้ว ฟังก์ชัน Air Command จะมีเมนูการใช้งาน 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Action Memo, การเลือกอัจฉริยะ (Smart Select) และเขียนบนหน้าจอ (Screen Write) แต่บน Samsung Galaxy Note 5 ได้เพิ่มทางลัดสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ เข้ามา ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ตามการใช้งานของผู้ใช้คนนั้นๆ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีไอคอนลัดสำหรับเปิดใช้งาน Air Command บนทุกๆ หน้าจอ ซึ่งไอคอนนี้ สามารถเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งไปมาได้

ใหม่แกะกล่องกับฟังก์ชัน Screen Off Memo ที่สามารถดึงปากกา S Pen ขึ้นมาเขียนหน้าจอได้เลย แม้ว่าตัวเครื่องจะล็อกหน้าจออยู่ก็ตาม

Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (ปรับจากความละเอียดเดิม 3.7 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Note 4) และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED นอกจากนี้ ยังมีโหมดให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, โปร, โฟกัสที่เลือก, พาโนรามา, ช็อตเสมือนจริง และอื่นๆ รวมไปถึงใส่ฟิลเตอร์สวยๆ ให้กับภาพถ่ายได้อีกด้วย

มาชมตัวอย่างจากกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล บน Samsung Galaxy Note5 กันครับ

สำหรับ Samsung Galaxy Note 5 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ กับความประทับใจแรกในเรื่องของ ดีไซน์ ที่ดูดีขึ้น สวยและพรีเมียมมากกว่ารุ่นก่อน ด้วยบอดี้โลหะแบบอะลูมิเนียม, กระจกขอบโค้งที่ด้านหลัง และตัวเครื่องที่บางเบากว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาในเรื่องของ ปากกา S Pen ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้ปากกาจริง รวมไปถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสมบัติในการขีดเขียนหน้าจอได้ทันทีเมื่อดึงปากกาออกมา ไม่จำเป็นต้องปลดล็อกหน้าจอก่อน

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ บน Samsung Galaxy Note 5 ก็ได้รับการอัปเกรดให้ดีขึ้นอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.1 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB หรือ 64 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) นอกจากนี้ ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home, รองรับบริการ Samsung Pay และเทคโนโลยี Fast Wireless Charging อีกด้วย

โดย Samsung Galaxy Note 5 แบ่งออกเป็น 2 ขนาดความจุ ในราคาที่ต่างกัน นั่นก็คือ Galaxy Note5 ความจุ 32 GB อยู่ที่ 25,900 บาท และ Galaxy Note5 ความจุ 64 GB อยู่ที่ 29,900 บาท ซึ่งวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการกันไปแล้ว โดยในช่วงแรก จะมีให้เลือกซื้อ 2 สีด้วยกัน ได้แก่ สีทอง และสีเงิน ส่วนสีดำ คาดว่า จะนำเข้ามาจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ ในขณะที่สีขาว ยังไม่มีกำหนดนำเข้าครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 5

• ดีไซน์ตัวเครื่องโลหะแบบอะลูมิเนียม และกระจกขอบโค้งที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่บางเฉียบ และน้ำหนักเบากว่า Samsung Galaxy Note 4
• จอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (518 ppi)
• ชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7420 แบบ 64-bit (ซีพียู Quad-Core ARM Cortex-A57 ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.5 GHz)
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T760 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
• หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB หรือ 64 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
• ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
• รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) ตั้งแต่แกะกล่อง
• ปากกา S Pen ดีไซน์ใหม่ ถูกออกแบบให้จับได้ถนัดมือมากขึ้น พร้อมหัวกดแบบสปริง ทำให้การจัดเก็บและนำออกมาใช้งานง่ายกว่าเดิม
• รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Multi Window
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS, GLONASS ระบบดาวเทียมรัสเซีย และ Beidou ระบบดาวเทียมของจีน
• เซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
• รองรับการชาร์จแบบไร้สาย พร้อมเทคโนโลยี Fast Wireless Charging ชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มเร็วกว่าเดิม

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card
• ฝาหลังไม่สามารถถอดแกะได้
• ความจุของแบตเตอรี่น้อยลง จากเดิม 3220 mAh เหลือ 3000 mAh
• ไม่มีวิทยุ FM ในตัว

 

 

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy Note5 vs Samsung Galaxy Note 4

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy Note5 และ Samsung Galaxy Note 4 มีทั้งหมดหลายส่วนด้วยกัน โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (QHD) แต่จากรูปจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note 5 มีความเพรียวบางกว่า ซึ่งขนาดของ Samsung Galaxy Note 4 อยู่ที่ 153.5 x 78.6 x 8.5 มม. ส่วนขนาดของ Samsung Galaxy Note5 อยู่ที่ 153.2 x 76.1 x 7.6 มม. บางกว่ามากเลยทีเดียว

ด้านหลังของ Samsung Galaxy Note 4 นั้น จะเป็นพื้นผิวแบบ Soft-Textured ที่ดูเหมือนหนังเทียม ส่วน Samsung Galaxy Note5 จะเป็นตัวเครื่องแบบโลหะ ให้ลุคพรีเมียม และมีความโค้งที่ขอบตัวเครื่องทั้ง 2 ด้าน อีกทั้งตำแหน่งของไฟแฟลช และ Heart Rate Sensor ก็อยู่สลับกันด้วย นอกจากนี้ Samsung Galaxy Note 4 สามารถถอดแกะฝาหลังได้ รองรับ microSD Card ส่วน Samsung Galaxy Note5 ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้ และไม่รองรับ microSD Card อีกด้วย

สำหรับด้านขวา และด้านซ้ายของตัวเครื่อง ยังคงคล้ายกัน โดยประกอบด้วย ปุ่ม Power ที่ด้านขวา และปุ่มปรับระดับเสียงที่ด้านซ้าย แต่ Samsung Galaxy Note5 จะมีความเพรียวบางกว่า

ด้านบนของตัวเครื่อง เริ่มมองเห็นความแตกต่างกันบ้างแล้ว อย่างเช่น ช่องสำหรับหูฟังบน Samsung Galaxy Note 5 ย้ายไปอยู่ด้านล่าง, เปลี่ยนตำแหน่งของช่องใส่ซิมการ์ดมาไว้ด้านบนตัวเครื่องแทน เนื่องจากไม่สามารถถอดแกะฝาหลังได้นั่นเอง ส่วนลำโพงเสียงบน Samsung Galaxy Note5 อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องเช่นกัน (Galaxy Note 4 อยู่ด้านหลัง) และสุดท้ายปากกา S Pen ยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม

เปรียบเทียบปากกา S Pen ของทั้ง 2 รุ่นครับ จะเห็นได้ว่า ดีไซน์แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือ ความรู้สึกในการใช้งานเหมือนกำลังใช้ปากกาจริง นอกจากนี้ ปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Note5 ยังมีลูกเล่นมากกว่าอีกด้วย

 

ผลทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note 5 มาแล้ว!

นอกจากความสดใหม่แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Samsung Galaxy Note 5 เป็นสมาร์ทโฟนที่แรงที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ไปแล้ว ด้วยชิปเซ็ต Exynos 7420 (64-bit) แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.1 GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S6 edge+ ที่เปิดตัวพร้อมกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และล่าสุด ผลการทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note5 เผยออกมาแล้ว เรียกได้ว่า แรงสมการรอคอยเลยทีเดียว

โดยเว็บไซต์ phonearena ได้เผยผลการทดสอบ Benchmark บน Samsung Galaxy Note 5 เปรียบเทียบกับ สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปในตลาด ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6, iPhone 6 Plus, LG G4, HTC One M9 รวมไปถึง มือถือซัมซุง อย่าง Samsung Galaxy S6 ออกมาให้ชมกัน มาดูกันว่า Samsung Galaxy Note 5 จะแรงแซงโค้ง สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ แค่ไหน - phonearena.com

 

ราคา Samsung Galaxy Note 5 ในไทย มาแล้ว!

หลังจากที่ทาง ซัมซุง ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Note 5 เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง ซัมซุง ประเทศไทย ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 5 ในไทย อย่างเป็นทางการแล้ว เริ่มต้นที่ 25,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 32 GB และ 29,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 64 GB วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ (บาง Shop มีวางจำหน่ายก่อนครับ) ซึ่งรายละเอียดของการวางจำหน่าย มีดังนี้

• มีเครื่องให้ลองเล่นแล้วที่ Samsung Brandshop ทุกสาขา
• มีเครื่องให้ลองเล่นแล้วบางสาขาที่ AIS Shop, dtac Service Hall, True Shop, ORG Shop
• วางจำหน่ายตัวเครื่องสีทอง กับสีเงินก่อน ตัวเครื่องสีดำ จะนำเข้ามาจำหน่ายราวๆ เดือนตุลาคม ส่วนตัวเครื่องสีขาว ยังไม่มีกำหนด
• Wireless Charger ราคาพิเศษ 1,190 บาท จากปกติ 1,690 บาท (ระยะเวลาแลกซื้อ 15/8-13/9 ที่ Samsung Experience Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ) ใช้ Samsung Galaxy Note 5 ในการแลกซื้อ โดยเข้าแอปฯ GALAXY Gift เพื่อกดรับสิทธิ์ และโชว์ Code ที่หน้าร้าน (Note 5 1 เครื่องได้แค่ 1 สิทธิ์) (ต้องกดรับสิทธิ์ที่หน้าร้านเท่านั้น Capture หน้าจอมาโชว์ไม่ได้ และ Code มีอายุ 1 ชั่วโมงหลังจากกดรับสิทธิ์)

ส่วน Samsung Galaxy S6 edge+ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ ราคา และวันวางจำหน่ายเผยออกมาครับ

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 5 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Samsung Galaxy UNPACKED 2015 ที่ในงานได้เปิดตัว Samsung Galaxy S6 edge+ อีกรุ่นด้วยเช่นกัน โดย Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์คล้ายกับ Samsung Galaxy S6 ซึ่งเป็นตัวเครื่องแบบโลหะ ปรับขอบด้านหลังตัวเครื่องให้โค้งมน ทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้น

คุณสมบัติที่น่าสนใจบน Samsung Galaxy Note 5

Samsung Galaxy Note5 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (518 ppi) ซึ่งมีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า Galaxy Note 4 เล็กน้อย แต่ดีไซน์โดยรวมมีขนาดที่เล็กกว่า, มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor ซึ่งประกอบด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.1 GHz และ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB

สำหรับหน่วยความจำภายในตัวเครื่องบน Samsung Galaxy Note 5 มีให้เลือก 2 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 32 GB และ 64 GB แต่ไม่รองรับ microSD Card แล้ว

มาดูกันที่กล้องถ่ายรูปกันบ้าง Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 ส่วนกล้องด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.9 และระบบกันภาพสั่นแบบ OIS ใหม่ ที่เรียกว่า VDIS ที่ช่วยทำให้ระบบ OIS ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมรองรับการถ่ายคลิปวีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 2160p และระบบเสียงแบบใหม่ Ultra High Quality Audio ทำให้ได้เสียงที่คมชัดมากขึ้น

สำหรับความจุของแบตเตอรี่บน Samsung Galaxy Note 5 อยู่ที่ 3000 mAh ซึ่งน้อยกว่า Galaxy Note 4 แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Fast Charging สามารถชาร์จได้ทั้งแบบไร้สาย และไม่ไร้สาย เต็มเร็วจาก 0% เป็น 100% ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังรองรับ NFC, รองรับ Samsung Pay และมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home อีกด้วย

 

ฟีเจอร์ใหม่บนปากกา S Pen

สำหรับปากกา S Pen นั้น ได้รับการออกแบบใหม่ โดยเป็นหัวกดแบบสปริงที่ด้านบน นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าโหมดที่ต้องการเมื่อดึงปากกาออกมาใช้งานได้ด้วยการตั้งค่าแบบ favorite, สามารถบันทึกภาพแบบ Screenshot ได้ทั้งเว็บเป็นภาพเดียวต่อกัน ไม่จำเป็นต้องเลื่อนลงเพื่อทำการ capture ทีละหน้า อีกทั้ง ยังสามารถขีดเขียนหรือจดโน้ตบนหน้า Lockscreen ได้เลย ไม่จำเป็นต้องปลดล็อกหน้าจอก่อนอีกด้วย

 

กำหนดการวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 5

โดย Samsung Galaxy Note 5 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Black Sapphire, White Pearl, Gold Platinum และ Silver Titanium เปิดพรีออเดอร์ในสหรัฐฯ แล้ววันนี้ และพร้อมวางจำหน่ายในสหรัฐฯ และแคนาดา ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้

 

ราคา Samsung Galaxy Note5 ในไทย

สำหรับราคา Samsung Galaxy Note5 ในไทย ล่าสุด ทาง ซัมซุง ประเทศไทย ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 5 ในไทย อย่างเป็นทางการแล้ว เริ่มต้นที่ 25,900 บาท สำหรับความจุ 32 GB และ 29,900 บาท สำหรับความจุ 64 GB วางจำหน่าย 21 สิงหาคมนี้

 

 

---------------------------------------
ข้อมูลโดย : techmoblog.com

Update : 30/08/2017

Samsung Galaxy Note 5 รีวิว Samsung Galaxy Note5 ราคา Samsung Galaxy Note5