หลังจากที่ Samsung Galaxy Note 7 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ประสบปัญหาด้านตัวเครื่อง จนทำให้มีการเรียกคืนเป็นจำนวนถึง 2 ครั้ง ก่อนที่จะถูกยุติการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Samsung ได้ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทำการตรวจสอบขนานใหญ่ที่โรงงานในประทศจีน, เวียดนาม และเกาหลีใต้ โดยใช้วิศวกรเป็นจำนวนทั้งหมด 700 ราย, โทรศัพท์ทั้งหมด 2 แสนเครื่อง และแบตเตอรี่จำนวน 30,000 ก้อน
นอกเหนือจากการตรวจสอบโดย Samsung แล้ว บริษัทยังได้มีการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญภายนอกทั้งหมด 3 ราย ประกอบไปด้วย UL, Exponent และ TUV Rheinland ซึ่งให้ผลตรวจสอบไปในทิศทางเดียวกัน ตามรายงานระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาด้านแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Note 7 นั้น เกิดมาจาก 2 กรณี จาก 2 ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ประกอบไปด้วย Battery A ซึ่งได้มีการนำไปใช้ก่อนที่จะมีการเรียกคืนครั้งแรก และ Battery B ที่ได้นำไปใช้ในครั้งที่ 2 หลังจากมีการเรียกคืน
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นบน Battery A เกิดมาจากขั้วแบตเตอรี่บริเวณมุมขวาบนเกิดการบิดงออันเนื่องมาจากการดีไซน์ จนทำให้เกิดอาการไฟฟ้าลัดวงจร
สำหรับ Battery B ค่อนข้างมีความแตกต่างกับ Battery A พอสมควร เนื่องจากเกิดปัญหาบริเวณกลางก้อนแบตแทน โดยสาเหตุหลักเกิดมาจากเซลภายในก้อนแบตที่มีความผิดปกติ จึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยของสินค้าให้มากยิ่งขึ้น ทาง Samsung ได้ประกาศมาตรการตรวจสอบแบบใหม่ 8-Point Battery Safety Check ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบแบตเตอรี่ทั้งหมด 8 ขั้นตอนด้วยกัน ไล่ตั้งแต่การชาร์จแบตเตอรี่, การทดสอบกระแสไฟฟ้ารั่ว ไปจนถึงการตรวจสอบภายในด้วยการ X-RAY รวมถึงยกระดับมาตรการ multi-layer safety ซึ่งจะมีการตรวจสอบในทุกส่วนของอุปกรณ์ ทั้งการออกแบบโดยรวม, วัสดุที่ใช้, ความแข็งแกร่งของฮาร์ดแวร์ รวมถึงการพัฒนาอัลกอริทึมของซอฟท์แวร์ เพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้มีการแต่งตั้ง Battery Advisory Group ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับนวัตกรรม และความปลอดภัยแบตเตอรี่ด้วย
---------------------------------------
ที่มา : Samsung
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 23/01/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |