[พรีวิว] Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงพร้อมปากกาสไตลัสที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกล้องคู่ระบบกันสั่น OIS 2 ตัว RAM 6 GB และปากกา S-Pen อัปเกรดใหม่ไฉไลกว่าเดิม!

ในที่สุดก็เปิดตัวกันสักทีครับกับ Samsung Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนเรือธงจอใหญ่พร้อมปากกาอันเป็นเอกลักษณ์ หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอนานถึง 2 ปี (เนื่องจาก Galaxy Note 7 ถูกเรียกคืนก่อนจะได้วางจำหน่ายในไทย) การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นพัฒนาการในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นหน้าจอไร้ขอบ Infinity Display, เซ็นเซอร์สแกนม่านตาและใบหน้า, กล้องคู่ด้านหลัง และปากกา S-Pen ที่อัปเกรดให้ตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าเดิม ถือว่าไม่เสียแรงที่ให้รอนานครับ

ในโอกาสนี้ทีมงาน Techmoblog ก็ได้มีโอกาสทดลองใช้งาน Samsung Galaxy Note 8 ตัวจริงเสียงจริง จึงถือโอกาสนี้นำมาพรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันชัดๆ ก่อนใครทั้งดีไซน์ ฟีเจอร์เด่น และตัวอย่างภาพถ่ายจากเทคโนโลยีกล้องคู่ใหม่ล่าสุด จะน่าสนใจขนาดไหนเราไปดูกันเลยครับ

 

พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 : ดีไซน์ภายนอก

เริ่มที่ดีไซน์ด้านหน้ากันก่อน Samsung Galaxy Note 8 มีพร้อมกับจอไร้ขอบ Infinity Display ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด WQHD อัตราส่วนหน้าจอ 18.5:9 โดยรวมมีความใกล้เคียงกับ Galaxy S8 และ S8+ มาก แต่มุมของ Galaxy Note 8 จะค่อนข้างคมดูเป็นเหลี่ยมมากกว่า ขนาดตัวเครื่องพอๆ กับ Galaxy S8+ เต็มไม้เต็มมือกำลังดี

เมื่อพลิกดูด้านหลังจะพบกับโมดูลกล้องคู่ Dual Camera ถัดไปข้างๆ เป็นเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ+ไฟแฟลช และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สังเกตว่าคราวนี้มีการย้ายไฟแฟลชมาคั่นกลางระหว่างกล้องกับเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว ต่างจาก Galaxy S8/S8+ ที่กล้องกับเซ็นเซอร์จะอยู่ติดกัน ทำให้สแกนนิ้วได้สะดวกกว่า Galaxy S8/S8+

ขอบเครื่องของ Samsung Galaxy Note 8 เป็นดีไซน์โค้งมนแบบสมมาตร (symmetrical curve) ขอบด้านซ้ายมีปุ่มยาวและปุ่มสั้น ปุ่มยาวเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มสั้นเป็นปุ่มเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby เหมือนกับ Galaxy S8/S8+

ขอบเครื่องด้านขวามีเพียงปุ่มเดียวคือปุ่มเปิด-ปิดหน้าจอ ซึ่งเหมือนกับ Galaxy S8/S8+ เช่นกัน

ขอบเครื่องด้านบนมีถาดใส่ซิมแบบ Hybrid slot (ต้องเลือกว่าจะใส่ 2 ซิม หรือ 1 ซิม+microSD) และเส้นเสาอากาศ 2 เส้น

ขอบล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB-C ลำโพง 1 ตัว และช่องเสียบปากกา S-Pen

มาดูกล้องคู่ด้านหลังกันชัดๆ ครับ สำหรับกล้อง Samsung Galaxy Note 8 นี้จะเป็นการจับคู่ระหว่างเลนส์ Wide และ Telephoto ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Dual-Pixel ตามแบบฉบับของ Samsung สังเกตว่าคราวนี้มีการย้ายไฟแฟลชมาคั่นกลางระหว่างกล้องกับเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว ต่างจาก Galaxy S8/S8+ ที่กล้องกับเซ็นเซอร์จะอยู่ติดกัน ทำให้สแกนนิ้วได้สะดวกกว่า Galaxy S8/S8+ อีกด้วย

ขอบบนของตัวเครื่องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ ได้แก่เซ็นเซอร์สแกนม่านตา กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์อื่นๆ การจัดวางเหมือนกับ Galaxy S8/S8+ ทุกประการ

มาถึงคิวของพระเอกของเรานั่นก็คือปากกา S-Pen ซึ่งโดดเด่นที่หัวปากกาขนาดเล็กเพียง 0.7 มม. รองรับแรงกดกว่า 4000 ระดับ ให้เส้นคมชัดมีน้ำหนักไม่ว่าจะวาดหรือเขียน และทำจากวัสดุยางจึงไม่ทำให้จอเป็นรอย ปุ่มบนปากกาขยับขึ้นมาอยู่เกือบกลางแท่งไกลจากปลายนิ้ว ทำให้ไม่ต้องกลัวเผลอไปกดโดนอีกต่อไป นอกจากนี้ตัวปากกายังกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 สามารถเอาไปเขียนในน้ำได้เลย

 

พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 : การใช้งานเบื้องต้น

Samsung Galaxy Note 8 มาพร้อมกับ UI Samsung Experience ที่อัปเกรดมาจาก TouchWiz พร้อมกับปุ่ม navigation แบบ on-screen ด้านล่าง ซึ่งมาแทนที่ปุ่มโฮมแบบเดิมนั่นเอง

Samsung Galaxy Note 8 รหัสโมเดล SM-N950F ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat

หน้าจอหลักสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเปลี่ยนธีม เพิ่มวิดเจ็ต ปรับสเกล ฯลฯ

UI ของกล้องถ่ายถ่ายภาพด้านหลังและด้านหน้า เหมือนกับ Galaxy S8/S8+ แต่จะมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาคือ Live Focus (โฟกัสตามเวลาจริง) ที่จะทำให้เราสามารถปรับแต่งระยะชัดลึกได้ตามต้องการทั้งขณะถ่ายและหลังจากถ่ายไปแล้ว และฟีเจอร์ Dual Capture ที่ให้เราถ่ายภาพได้ 2 ภาพในครั้งเดียว คือภาพในมุมกว้างจากเลนส์ Wide และภาพมุมแคบจากเลนส์ Telephoto

นอกจากนี้ยังสามารถขยายมุมมองกายถ่ายภาพให้เต็มหน้าจอได้อีกด้วย

สำหรับกล้องหน้าก็มีการอัปเกรดลูกเล่นสติกเกอร์เป็นแบบ 3 มิติ เมื่อเราหันหน้าสติกเกอร์ก็จะหันตาม ไม่ลอยๆ เหมือนภาพตัดแปะอีกต่อไป ใครที่ชอบลูกเล่นนี้คงจะเซลฟีได้สนุกยิ่งขึ้นครับ

แน่นอนว่าฟังก์ชันการเขียนบนหน้าจอก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมใน Samsung Galaxy Note 8 ซึ่งสามารถเลือกสีสัน ประเภทปากกา และขนาดเส้นได้ตามใจชอบ และบันทึกลงในเครื่องได้ทันที เหมาะมากสำหรับการจดเมโมแบบเร่งด่วน

แม้ว่า Samsung Notes จะเป็นแอปพลิเคชันที่มีในสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy หลายรุ่น แต่ด้วยปากกา S-Pen ทำให้ Samsung Galaxy Note 8 เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะจะใช้งานแอปพลิเคชันนี้ที่สุดแล้วครับ

Samsung Galaxy Note 8 มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย 3 ชั้น ชั้นแรกคือฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอและยืนยันตัวตนสำหรับ Samsung Pay และเข้าใช้โฟลเดอร์นิรภัย (Samsung Knox) ได้

สำหรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าสามารถเปิดใช้งานได้โดยเข้าไปบันทึกใบหน้าของเราไว้ก่อน จากนั้นก็แค่ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมา ทันทีที่กล้องหน้าจับภาพใบหน้าเราได้ก็จะปลดล็อคเครื่องทันที สะดวกรวดเร็วมากๆ

สุดท้ายเป็นฟีเจอร์สแกนม่านตา ซึ่งเปิดใช้ด้วยการบันทึกม่านตาก่อนเช่นเดียวกับฟีเจอร์สแกนใบหน้า ความเร็วในการปลดล็อคเร็วไม่แพ้การสแกนหน้าและสามารถสแกนในที่มืดได้ แต่ระยะแรกอาจจะลำบากเล็กน้อยเพราะต้องหันเซ็นเซอร์ให้ตรงกับตาของเราทั้งสองข้าง ซึ่งต้องใช้เวลาปรับตัวนิดนึงครับ

Samsung Galaxy Note 8 มีระบบเคลียร์ RAM และปรับปรุงประสิทธิภาพมาให้ในตัว ช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบไฟล์และกำจัดขยะในหน่วยความจำได้โดยไม่ต้องไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจำพวก Cleaner มาให้ยุ่งยาก

 

พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 : ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note ฟีเจอร์เด่นก็ต้องเป็น Air Command ของ S-Pen แน่นอน ซึ่งคราวนี้ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่างทีเดียวครับ

ฟีเจอร์แรกคือ Live Messages (ข้อความสด) ซึ่งให้เราใช้ S-Pen เขียนข้อความแล้วเซฟเป็นภาพเคลื่อนไหวตระกูล GIF ได้ สำหรับส่งให้เพื่อนหรือคนพิเศษแบบเก๋ๆ หากยังนึกภาพไม่ออกว่ามันเป็นยังไงก็ดูตัวอย่างด้านล่างได้เลยครับ

ต่อมาเป็นฟีเจอร์ Translate หรือแปลภาษานั่นเอง ซึ่งประโยชน์ของมันก็ตรงตัวเลยครับนั่นคือแปลข้อความเป็นภาษาต่างๆ แล้วแต่การตั้งค่าของเรา เวลาท่องเว็บแล้วเจอภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องเปิดดิกชันนารีให้ยุ่งยาก เพียงแค่เรียกใช้ฟีเจอร์นี้ผ่าน Air-command แล้วจ่อปลายปากกา S-Pen ค้างไว้ที่ข้อความที่เราต้องการแปล ก็จะมีคำแปลพร้อมตัวอย่างการออกเสียงแสดงขึ้นมา นอกจากนี้ยังสามารถแปลเป็นประโยคได้ด้วย ซึ่งตัวอย่างที่เรานำมาให้ดูด้านบนนี้เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย แม้ว่าการแปลเป็นประโยคจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควรครับ

ถัดมาเป็นฟีเจอร์เปิดหลายหน้าต่างพร้อมกันหรือ Multiwindows ที่ได้รับการอัปเกรดให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น จากเดิมที่เราต้องเลือกเปิดทีละแอปพลิเคชัน ใน Samsung Galaxy Note 8 ทำได้แค่คลิกเดียวเท่านั้น โดยเราสามารถเข้าไปจับคู่แอปพลิเคชันที่ต้องการให้เปิดแบบ Multiwindows ได้ล่วงหน้า และจับคู่ได้ถึง 10 คู่ ใครที่เปิดแอปคู่กันบ่อยๆ เช่นเล่น Facebook ไปด้วย ดู YouTube ไปด้วย หรืออ่านข่าวพร้อมกับดูหุ้น ฟีเจอร์นี้จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นแน่นอนครับ

 

พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 : ตัวอย่างภาพถ่าย

[กล้องคู่ด้านหลัง]

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait เบลอฉากหลัง

[กล้องหน้า]

ปรับผิวเนียนระดับ 0

ปรับผิวเนียนระดับ 10

ถ่ายเซลฟีพร้อมลูกเล่นสติกเกอร์

 

พรีวิว Samsung Galaxy Note 8 : อุปกรณ์เสริม (กระจกกันรอย)

สำหรับใครที่ตั้งใจจะเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Note 8 แต่กลัวว่าจะหาซื้อฟิล์มกันรอยไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะตอนนี้หลายๆ ยี่ห้อก็พร้อมจำหน่ายกระจกและฟิล์มกันรอยของเรือธงรุ่นนี้กันแล้ว หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ Focus ซึ่งเป็นกระจกกันรอยเต็มจอลงโค้งแบบ 3D Full Frame ปกป้องเต็มจอถึงขอบโค้ง ติดได้พอดีทุกมุมโดยไม่ลดทอนความสดใสของหน้าจอ ไม่รบกวนระบบสัมผัสและเซ็นเซอร์ ติดตั้งเองได้ง่ายและยังใช้กับเคสซิลิโคนทั่วไปได้ด้วย

ติดได้แนบเนียนไร้ร่องรอยอย่างที่เห็น

 

จบกันไปแล้วครับสำหรับการพรีวิวในครั้งนี้ ก่อนจะจากกันไปทางทีมงาน Techmoblog ก็หวังว่าพรีวิวครั้งนี้จะทำให้ทุกท่านได้รู้จักจุดเด่นและฟีเจอร์ต่างๆ ของ Samsung Galaxy Note 8 กันไปพอสมควรครับ สำหรับรีวิวอย่างละเอียดของ Samsung Galaxy Note 8 จะตามมาในเร็วๆ นี้แน่นอน อย่าลืมติดตามกันนะครับ

สรุปข้อมูลอย่างเป็นทางการ Samsung Galaxy Note 8

 

---------------------------------------
บทความพรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 31/03/2018

Samsung Galaxy Note 8