เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มือถือเรือธงรุ่นท็อปที่ถือว่า เป็นรุ่นที่ดึงจุดเด่นในเรื่องของกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล บน Galaxy S มาผสมผสานกับปากกา S Pen ที่เป็นจุดเด่นของ Galaxy Note กลายมาเป็น Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่นนี้นั่นเอง อีกทั้งยังเป็นมือถือในตระกูล Galaxy S รุ่นแรกที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ในเครื่องอีกด้วย
นอกเหนือจากเรื่องของกล้องความละเอียดสูง และปากกา S Pen แล้ว Samsung Galaxy S22 Ultra ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตร พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB, แบตเตอรี่ขนาดความจุมากถึง 5,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงสุด 45W และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 และ One UI เวอร์ชัน 4.1
กล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับกล้องด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียดสูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Telephoto ตัวที่ 1 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (10x Optical Zoom) และเลนส์ Telephoto ตัวที่ 2 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (3x Optical Zoom) ส่วนกล้องด้านหน้า เป็นกล้องตัวเดียว ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีกล้องมากถึง 5 ตัวด้วยกัน
การมีปากกา S Pen เพิ่มเข้ามา จะช่วยทำให้การใช้งาน Samsung Galaxy S22 Ultra สะดวกมากขึ้นแค่ไหน และเรือธงรุ่นนี้มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy S22 Ultra โดยทีมงาน techmoblog.com
สเปก Samsung Galaxy S22 Ultra
แกะกล่อง Samsung Galaxy S22 Ultra
Samsung Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกล่องแพ็กเกจสีดำ ด้านหน้าสกรีนตัวอักษร S สีเดียวกับตัวเครื่อง ภายในประกอบด้วย ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S22 Ultra, สาย USB-C, เข็มสำหรับถอดถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน ไม่มีหูฟังและ Adapter แถมมาให้
สำหรับ Samsung Galaxy S22 Ultra ที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นตัวเครื่องสี Burgundy ที่พลิกโฉมด้านดีไซน์จากรุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด ด้วยบอดี้ทรงเหลี่ยมสไตล์ Galaxy Note ซึ่งเมื่อเทียบดีไซน์กับ Galaxy S22 กับ Galaxy S22+ ที่เปิดตัวพร้อมกัน จะเห็นว่ามีดีไซน์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน
โดยหน้าจอของ Samsung Galaxy S22 Ultra เป็นจอขอบโค้งขนาด 6.8 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 3088 x 1440 พิกเซล รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz เสริมความแกร่งด้วยกระจก Gorilla Glass Victus+ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง
กล้องด้านหน้าของ Samsung Galaxy S22 Ultra มีความละเอียดอยู่ที่ 40 ล้านพิกเซล ส่วนลำโพงเสียงอยู่ตรงขอบตัวเครื่องด้านบน
ด้านหลังตัวเครื่อง เป็นวัสดุที่เรียกว่า Armor Aluminum ขัดเงา ผิวสัมผัสเรียบลื่น ส่วนกล้องด้านหลังเรียงกันเป็นแนวตรง เลนส์นูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย ไม่มีกรอบเหมือน Galaxy S21 Ultra ประกอบด้วยเลนส์ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่
โดยเลนส์หลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซลนั้น จะเป็นเลนส์แบบ Super Clear Lens ที่มีการเคลือบสารนาโนพิเศษ ลดแสงสะท้อน และลดการเกิดแสงแฟลร์ นอกจากนี้ กล้องหลักยังเก็บแสงได้ดีขึ้น ทำให้ถ่ายภาพในตอนกลางคืนได้สวยและสว่างมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
มาดูปุ่มควบคุมการทำงานรอบ ๆ ตัวเครื่องกันบ้าง ด้านขวาประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับล็อกหน้าจอ ถ้าหากจะปิดเครื่อง ต้องกดปุ่ม Power + ปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้ ส่วนด้านซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มควบคุมการทำงานใด ๆ
ด้านบนตัวเครื่องเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปากกา S Pen, ลำโพงเสียง, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และถาดใส่ซิมการ์ด
ปากกา S Pen พร้อมช่องเก็บในเครื่อง
จริงอยู่ที่ Samsung Galaxy S22 Ultra ไม่ใช่รุ่นแรกในตระกูล Galaxy S ที่รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S Pen เพราะคุณสมบัตินี้มีมาตั้งแต่ Galaxy S21 Ultra รุ่นปีที่แล้ว แต่ Galaxy S22 Ultra เป็น Galaxy S รุ่นแรกที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ในเครื่องเหมือนกับ Galaxy Note20 Ultra
โดยลักษณะของปากกา S Pen บน Galaxy S22 Ultra จะมีรูปร่างคล้ายกับ Galaxy Note20 Ultra แต่ตัวด้ามจะเป็นสีดำ ยกเว้นหัวปากกาที่เป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง อย่างรุ่นที่นำมารีวิว หัวปากกาจะเป็นสี Burgundy
แม้ว่าตัวปากกา S Pen จะมีดีไซน์คล้ายกับปากกา S Pen บน Galaxy Note20 Ultra แต่มีการปรับปรุงค่า Latency จากเดิม 9 มิลลิวินาทีบน Galaxy Note20 Ultra เหลือเพียง 2.8 มิลลิวินาทีเท่านั้น ทำให้ปากกา S Pen ของ Galaxy S22 Ultra ตอบสนองในการขีดเขียน วาดรูป หรือจดโน้ตได้ไวและราบรื่นมากกว่า
ด้านฟีเจอร์การใช้งานของปากกา S Pen บน Galaxy S22 Ultra คนที่เคยใช้ Galaxy Note20 มาก่อนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ทั้ง Air Actions, Screen Off Memo, S Pen Remote กดที่ปุ่มบนปากกาเพื่อถ่ายรูป, ฟีเจอร์แปลงลายมือเป็นตัวอักษร และอื่น ๆ โดยตัวปากกามีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จอัตโนมัติเมื่อเก็บในตัวเครื่อง และเชื่อมต่อกับ Galaxy S22 Ultra ผ่าน Bluetooth เวอร์ชัน 5.2
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1
อย่างที่ทราบกันดีว่า มือถือเรือธงของ Samsung จะแบ่งออกเป็น 2 โมเดลคือ รุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Exynos กับรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon ซึ่งปกติรุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมักจะเป็นรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Exynos แต่สำหรับ Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยนั้น มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ระดับ 4 นาโนเมตร น่าจะถูกใจทั้งสาวก Samsung และ Qualcomm ไม่น้อยเลยทีเดียว
โดย Samsung Galaxy S22 Ultra รุ่นที่รีวิวนี้ เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 256GB เมื่อทดสอบวัดประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม AnTuTu พบว่า ได้คะแนนทดสอบถึง 906,499 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 วัดประสิทธิภาพของซีพียู ทำได้ 1,227 คะแนน (Single-Core) และ 3,326 คะแนน (Multi-Core)
มาทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมกันบ้าง เริ่มที่ Call of Duty เกมแนวยิงยอดนิยม ซึ่งทีมงานลองทดสอบด้วยการเลือกปรับคุณภาพกราฟิกในระดับ Very High และ Frame Rate ระดับ Max พบว่า ยังเล่นเกมได้ลื่น ไม่กระตุก ลำโพงเสียงให้เสียงที่ดัง และชัดเจน แต่อาจจะมีบางจังหวะที่มือไปบังช่องลำโพงเสียงด้านล่าง และตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนเล็กน้อยในขณะเล่น
ถัดมาเป็นเกมแข่งรถอย่าง Asphalt 9 กันบ้าง แสดงผลได้เต็มจอขนาด 6.8 นิ้ว ซึ่งได้ผลเช่นเดียวกับเกม Call of Duty แทบไม่เจออาการเกมกระตุกเช่นกัน
กล้อง 108MP ซูมไกล 100 เท่า!
อีกหนึ่งไฮไลท์บน Samsung Galaxy S22 Ultra ก็คือ กล้องถ่ายรูป ที่มาพร้อมกับกล้องด้านหลังมากถึง 4 ตัว ครบทุกช่วงระยะการถ่ายรูป โดยประกอบด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, กล้อง Telephoto ตัวที่ 1 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (10x Optical Zoom) และกล้อง Telephoto ตัวที่ 2 ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (3x Optical Zoom) อีกทั้งยังสามารถซูมได้ไกลถึง 100 เท่าอีกด้วย
ถ้าหากมองที่สเปกกล้อง อาจจะดูไม่ต่างจากกล้องของ Samsung Galaxy S21 Ultra รุ่นปีที่แล้วเท่าใดนัก แต่เรื่องของฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ ได้มีการพัฒนาใหม่เพื่อให้ได้กล้องที่มีคุณภาพดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์พิกเซลขนาดใหญ่ 2.4μm ซึ่งใหญ่ที่สุดที่ทางซัมซุงเคยพัฒนามา ทำให้ถ่ายภาพในตอนกลางคืนได้อย่างคมชัด และเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งยังมี Super Clear Glass ที่ถูกติดตั้งบริเวณกล้องด้านหลัง และ Super Clear Lens บนเลนส์ Wide ที่ช่วยลดการสะท้อนของแสง ทำให้ลดการเกิดแสงแฟลร์ขณะถ่ายภาพ แม้ว่าจะถ่ายในตอนกลางคืนก็ตาม
สำหรับโหมดถ่ายภาพแบบ Pro นอกจากจะสามารถปรับตั้งค่าการถ่ายภาพอย่าง ISO, ความเร็วชัตเตอร์, การชดเชยแสง, ระบบโฟกัส และ White Balance ได้แล้ว ยังสามารถเลือกบันทึกภาพแบบ RAW และสามารถนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Expert RAW ซึ่งไฟล์ RAW สามารถแชร์ไปยังสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้เช่นกัน
สำหรับโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 108MP การทำงานจริงจะมีการตรวจจับแสงรอบ ๆ ด้วยฟีเจอร์ Adaptive Pixel ซึ่งจะเปลี่ยนค่าไปมาระหว่างโหมดความละเอียดสูง 108MP กับโหมดความไวสูง 12MP แล้วรวมเฟรมภาพต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีฟีเจอร์ Detail Enhancer ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพให้คมชัดยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
กล้องหน้า 40MP พร้อมระบบออโตโฟกัส
สำหรับกล้องด้านหน้าของ Samsung Galaxy S22 Ultra มีความละเอียดอยู่ที่ 40 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัส และ Portrait Mode ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ
แบต 5,000 mAh ชาร์จไว 45W
Samsung Galaxy S22 Ultra มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่ทางซัมซุงเคลมว่า รองรับการใช้งานได้ตลอดวัน อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงสุด 45W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15W ทั้งนี้ ชุดจำหน่ายมาตรฐานไม่ได้แถม Adapter ชาร์จมาให้
สรุปการใช้งาน
แม้ว่า Samsung Galaxy S22 Ultra จะเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy S series แต่เชื่อว่าเป็นรุ่นที่ออกมาตอบโจทย์สาวก Galaxy Note เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นที่ครบเครื่องที่สุดในเวลานี้ มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกตัวเครื่อง ด้วยบอดี้สุดแกร่งที่ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus+ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่อง ส่วนผิวสัมผัสแบบด้านช่วยลดรอยนิ้วมือติดเครื่อง อีกทั้งยังทนทานต่อน้ำและฝุ่นด้วยการป้องกันระดับ IP68
นอกจากนี้ Samsung Galaxy S22 Ultra ยังมาพร้อมกับชิปเรือธงตัวท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ที่ช่วยยกระดับการใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น, หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB, แบตเตอรี่ 5,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน, กล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ครบทุกระยะ ซูมไกล 100 เท่า และไฮไลท์เด็ดก็คือ มีปากกา S Pen ในตัวแบบ Galaxy Note แล้ว ซึ่งใครที่เคยใช้ Galaxy Note มาก่อน รับรองได้ว่า ต้องถูกใจ Samsung Galaxy S22 Ultra อย่างแน่นอน
ราคา Samsung Galaxy S22 Ultra
Samsung Galaxy S22 Ultra มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Phantom Black, Phantom White, Green และ Burgundy ส่วนราคาวางจำหน่ายในไทย เป็นดังนี้
พิเศษสำหรับการสั่งซื้อแบบออนไลน์ผ่าน www.samsung.com จะมีสีพิเศษให้เลือกเพิ่มอีก 3 สี ได้แก่ Graphite, Sky Blue และ Red ซึ่งจะใช้เวลาผลิตประมาณ 3-4 สัปดาห์ ยกเว้นสี Red ที่ใช้เวลาในการผลิต 6-7 สัปดาห์
โดยผู้ที่สนใจ Samsung Galaxy S22 Ultra สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ทาง ผ่านทาง Samsung Experience Store ทุกสาขา, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ www.samsung.com
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S22 Ultra
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 16/08/2022
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |