หน้าแรก >> ข่าวทั้งหมด >> อ่านบทความ/ข่าว

Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ เปิดตัวแล้ว! มาพร้อม RAM สูงสุด 6 GB, กล้องคู่ 12MP รูรับแสง F/1.5 และฟีเจอร์ AR Emoji บนดีไซน์จอไร้กรอบและบอดี้โลหะแข็งแกร่งกว่าเดิม วางจำหน่าย 16 มีนาคมนี้ เคาะราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มือถือเรือธงรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ Galaxy S ที่เรียกได้ว่า ทั้งดีไซน์และสเปกไม่แตกต่างไปจากข่าวลือที่เผยออกมาก่อนเปิดตัวมากนัก โดยยังคงเป็นดีไซน์แบบ Infinity Display หรือจอไร้กรอบ ไร้ปุ่ม Home แบบเดียวกับ Galaxy S8 บนบอดี้แบบ Metal-Glass แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป นั่นก็คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้มีการย้ายตำแหน่งมาอยู่ใต้กล้องหลักด้านหลัง ส่วน Samsung Galaxy S9+ นอกจากจะมีขนาดใหญ่กว่า Galaxy S9 แล้ว ยังเป็นมือถือ Galaxy S รุ่นแรกที่มาพร้อมกับกล้องคู่ (Dual-Camera) อีกด้วย

ก่อนจะไปเจาะลึกกับฟีเจอร์เด่นของทั้ง Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มาดูสเปกและคุณสมบัติของทั้ง 2 รุ่นกันก่อน

สเปก Samsung Galaxy S9

  • หน้าจอแสดงผลขนาด 5.8 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล (568 ppi) บนอัตราส่วน 18.5:9
  • กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8998 Snapdragon 845 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz (เฉพาะในสหรัฐฯ และจีน) หรือชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.8 GHz (วางจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย)
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 630 (รุ่นใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 845) หรือ Mali-G72 MP18 (รุ่นใช้ชิปเซ็ต Exynos 9810)
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 400 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.7
  • กล้องด้านหลังแบบ Super Speed Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.5 และ F/2.4, ระบบกันภาพสั่นแบบ OIS, ไฟแฟลชแบบ LED และโหมดการถ่ายภาพแบบ Super Slow Motion 960 fps พร้อมฟีเจอร์ Auto Motion Detection
  • คุณสมบัติด้านการกันน้ำและฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย (Wireles Charging)
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
  • รองรับบริการ Samsung Pay
  • ฟีเจอร์ Always-On Display
  • รองรับ Samsung Dex และ Bixby
  • ลำโพงเสียงสเตอริโอจาก AKG
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo)

 

สเปก Samsung Galaxy S9+

  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล (531 ppi) บนอัตราส่วน 18.5:9
  • กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8998 Snapdragon 845 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.8 GHz (เฉพาะในสหรัฐฯ และจีน) หรือชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.9 GHz (วางจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย)
  • หน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 630 (รุ่นใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 845) หรือ Mali-G72 MP18 (รุ่นใช้ชิปเซ็ต Exynos 9810)
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB
  • หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB, 128 GB หรือ 256 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 400 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.7
  • กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) แบบ Super Speed Dual Pixel ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลัก ขนาดของรูรับแสงกว้าง F/1.5 และ F/2.4 ส่วนกล้องตัวที่สอง ขนาดรูรับแสงกว้าง F/2.4, ระบบกันภาพสั่นแบบ Dual-OIS, ไฟแฟลชแบบ LED และโหมดการถ่ายภาพแบบ Super Slow Motion 960 fps พร้อมฟีเจอร์ Auto Motion Detection
  • คุณสมบัติด้านการกันน้ำและฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 3500 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย (Wireles Charging)
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
  • รองรับบริการ Samsung Pay
  • ฟีเจอร์ Always-On Display
  • รองรับ Samsung Dex และ Bixby
  • ลำโพงเสียงสเตอริโอจาก AKG
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo)

 

กล้องใหม่ ทำอะไรได้มากกว่าเดิม

สำหรับกล้องถ่ายรูปนั้น ถือว่าเป็นจุดขายหลักของ Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ เลยก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Super Speed Dual Pixel Sensor ด้วยการใช้ระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพและทรงพลัง สามารถรวมภาพได้สูงสุด 12 เฟรมในการกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดและคุณภาพสูง ซึ่งคุณสมบัติของกล้องบน Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ประกอบด้วย

  • ฟีเจอร์ Super Slow-mo : สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบได้สูงสุด 960 fps พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection) ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวในเฟรม และเริ่มบันทึกอัตโนมัติแค่ตั้งกล้องเตรียมถ่ายเท่านั้น และการบันทึกวิดีโอแบบ Super Slow-mo สามารถเลือกดนตรีแบ็คกราวน์ได้ถึง 35 เพลง หรือเลือกใช้เสียงเพลงจาก Playlist นอกจากนี้ ยังสามารถตัดต่อ หรือแชร์ไฟล์ในรูปแบบ GIF ได้ 

  • Low Light Camera : Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มาพร้อมกับรูรับแสงคู่ (Dual Aperture) ขนาด F/1.5 และ F/2.4 ที่สามารถเปิดรับแสงได้มากขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืด หรือปรับให้รับแสงน้อยลงเมื่ออยู่ในที่สว่าง ทำให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดในทุกสภาพแสง

  • AR Emoji : ฟีเจอร์ใหม่บน Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ที่ผู้ใช้สามารถสร้างอีโมจิที่มีรูปลักษณ์, เสียง และท่าทางเหมือนกับเจ้าของสมาร์ทโฟน โดยฟีเจอร์ AR Emoji จะใช้การประมวลผลข้อมูลด้วยอัลกอริทึมในการเรียนรู้ของตัวเครื่อง โดยจะวิเคราะห์ภาพ 2 มิติของผู้ใช้งานผ่านทางกล้องและกำหนดภาพร่างที่เป็นรูปใบหน้ามากกว่า 100 รูปแบบ ก่อนนำมาสร้างโมเดลใบหน้า 3 มิติที่สะท้อนและเลียนแบบการแสดงออก เช่น การกระพริบตา หรือพยักหน้าขึ้นลง เพื่อให้สอดคล้องกับบุคลิกของเจ้าของมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะบันทึกในรูปแบบของวิดีโอแล้ว ยังสามารถสร้างเป็นสติกเกอร์ในฟอร์แมต AGIF มาตรฐาน และแชร์อีโมจิได้ตามแอปฯ แชทที่รองรับอีกด้วย

  • Bixby : สำหรับแพลทฟอร์มอัจฉริยะของ Samsung นั้น จะถูกติดตั้งไว้ในกล้อง  พร้อมกับมีระบบตรวจจับและจำแนกวัตถุแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถแสดงข้อมูลได้รวดเร็วทันใจบนภาพที่กล้องกำลังจับภาพอยู่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Live Translation แปลภาษาต่างประเทศและแปลงค่าสกุลเงินต่าง ๆ พร้อมกับความสามารถในการเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ สมาร์ทโฟน

 

รองรับระบบการสแกนม่านตา (Iris Scanner)

Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมกับระบบการสแกนอัจฉริยะ (Intelligent Scan) การยืนยันตัวตนรูปแบบใหม่ด้วยการรวมระบบสแกนม่านตากับการจดจำใบหน้าเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วในทุกสภาพแสง นอกจากนี้ ยังรองรับระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง เพื่อใช้ในการเข้าสู่ Secure Folder หรือข้อมูลที่มีการตั้งค่าความปลอดภัยแบบพิเศษ อีกทั้งยังปลอดภัยมากขึ้นด้วย Samsung Knox 3.1 ที่มาพร้อมกับระบบยืนยันตัวตนผ่านเทคโนโลยี Biometric 3 รูปแบบ ได้แก่ สแกนม่านตา, จดจำใบหน้า และสแกนลายนิ้วมือ

เป็นมือถือซัมซุงในซีรี่ส์ Galaxy S รุ่นแรกที่รองรับการสแกนม่านตา (Iris Scanner) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Note8 และรองรับระบบการจดจำใบหน้า นอกจากนี้ ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย

 

ลำโพงเสียงคู่สเตอริโอจาก AKG และระบบเสียง Dolby Atmos

Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมกับลำโพงเสียงคู่สเตอริโอจาก AKG และระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงสมจริงรอบทิศทางแบบ 360 องศา ช่วยทำให้การดูหนังฟังเพลงสนุกและคมชัดมากกว่าเดิม

 

Samsung DeX เปลี่ยน Galaxy S9 ให้เป็นคีย์บอร์ดและ TouchPad

สำหรับอุปกรณ์เสริมอย่าง Samsung DeX นอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ กับหน้าจอขนาดใหญ่แล้ว ยังสามารถเปลี่ยน Galaxy S9 และ S9+ ให้เป็น Touch Keyboard และ TouchPad ได้ง่าย ๆ เพียงแค่เชื่อมต่อกับ Samsung DeX เท่านั้น

สำหรับใครที่กำลังคิดว่า Samsung Galaxy S9 และ S9+ อาจหาฟิล์มกันรอยมาติดได้ยาก เนื่องจากเป็นสินค้าที่เพิ่งออกมาใหม่ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะล่าสุดแบรนด์ผู้ผลิตอย่าง Focus ได้มีการผลิตฟิล์มกันรอยแบบ Focus 3D Full Stick (Case Friendly) ออกมารอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวฟิล์มเป็นกระจกกันรอยซิลิโคนเต็มจอที่สามารถปกป้องหน้าจอได้ถึงส่วนโค้ง พร้อมจุดเด่นด้านการทัชได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด และไม่มีจุดมารบกวนสายตา รวมทั้งยังใช้งานกับเคสทั่วไปได้โดยไม่ดันตัวฟิล์มออก ซึ่ง Focus 3D Full Stick จะมีการวางขายพร้อมๆ กับช่วงที่ Galaxy S9 และ S9+ วางขายในประเทศไทยด้วย

 

ราคา Samsung Galaxy S9 l S9+ และวันวางจำหน่ายในไทย

Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Midnight Black, Titanium Gray, Coral Blue และสีใหม่ Lilac Purple วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ซึ่งประเทศไทยได้รับสิทธิ์จำหน่าย Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ เป็นกลุ่มประเทศแรกในโลก โดยจะเปิดให้จองระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2561 นี้ และได้สิทธิ์รับเครื่องก่อนใคร ระหว่างวันที่ 9 – 11 มีนาคม 2561 พร้อมของสมนาคุณ ได้แก่ รับประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และฟรีแท่นชาร์จไร้สายแบบ Fast Charge (Wireless Charger Convertible) มูลค่า 2,090 บาท

และลูกค้าสามารถร่วมโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ โดยนำสมาร์ทโฟนซัมซุงเครื่องเก่าเฉพาะซีรีส์ เอส หรือ โน้ต รุ่นที่ร่วมรายการ (ไม่รวม Tablet) มาแลกเป็นส่วนลดพิเศษมูลค่า 3,000 บาท เพิ่มเติมจากราคาประเมินเพื่อแลกซื้อ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ (เงื่อนไขตามโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่) โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าทำการจองก่อนใครได้ 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ ซัมซุง แบรนด์ ช้อป ทั่วประเทศ, ร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงที่ S-estore รวมถึงสาขาที่ร่วมรายการของพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้ง AIS, dtac และ TrueMove H หรือผ่าน Lazada

ด้านราคา Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ ในไทย ทาง Samsung ประเทศไทยได้ประกาศราคาออกมาแล้ว รายละเอียดดังนี้

  • Samsung Galaxy S9 (64 GB) ราคา 27,900 บาท
  • Samsung Galaxy S9+ (64 GB) ราคา 31,900 บาท
  • Samsung Galaxy S9+ (128 GB) ราคา 33,900 บาท
  • Samsung Galaxy S9+ (256 GB) ราคา 37,900 บาท

 

 

--------------------------------------
ที่มา : samsungmobilepress.com

แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 26/02/2018

Samsung Galaxy S9 IT Samsung Galaxy S9+





Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy